Still Human
Rated:M
Romance
Alice & Claire R.
By : L. Durven / Fanfiction.net
Translate to Thai – Anhy
มันเป็นเวลาหลังเที่ยงคืน หลังจากที่อลิซเสร็จภารกิจในการทำความสะอาด และบรรจุกระสุนใส่อาวุธปืนของเธอ มันไม่ใช่เรื่องยากเลยกับกิจวัตรแบบนั้น แต่เวลานี้เธอคิดว่า มันถึงเวลาเข้านอนเสียที เพราะมันเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิมแล้วตอนนี้กับการเข้านอน ในเมื่อเธอได้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่ในความฝันของเธอจะยังเต็มไปด้วยฝันร้าย และเธอสงสัยว่ามันก็จะต้องมีอยู่เสมอ แต่ก็ไม่กังวลมัน มองในแง่ดี มันทำให้เธอไม่ต้องกลัวว่า พลังจิตของเธอในยามหลับ จะทำให้เมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า มอเตอร์ไซด์เสียหาย เสบียงกระจัดกระจาย เหมือนกับว่าของของเธอถูกใครบางคนรื้อค้นเพื่อจะขโมยมัน ตอนแรกเธอคิดว่า มันเป็นอย่างนั้น ของของเธอถูกขโมย และในตอนนี้เธอก็ยังหวังเช่นนั้นอยู่ หวังที่จะคิดว่าไม่ใช่มาจากพลังประหลาดๆอะไรจากตัวเองเธอเอง ทำลายข้าวของของเธอเอง ไม่ใช่สินะ..การนอนไม่ใช่วิธีการพยายามจะลืมความทรงจำสำหรับเธอ และถ้ามันไม่จำเป็น เธอก็จะไม่ทำมัน
อลิซมองเห็นเงาของใครบางคนปรากฏตรงทางเดิน เดินผ่านที่คุมขังหลายๆห้องของสถานที่แห่งนี้ คุกขนาดใหญ่ในลอสแองเจลลิสที่เธอและใครอีกคนบังเอิญต้องมาพักอยู่ชั่วคราวระหว่างการเดินทาง และตอนนี้ใครคนนั้นก็อยู่ตรงนี้แล้ว นั่นก็คือ..แคลร์
ไม่ว่าเธอสองคนจะอยู่ในสถานที่ไหนก็ตาม แคลร์มักจะระมัดระวังตัวเสมอที่จะทำตัวเธอให้สามารถสังเกตเห็นได้เด่นชัด เมื่อก้าวเข้ามาหาอลิซ การเข้าหาใครบางคนในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ เป็นเกมส์ที่อันตราย เพราะมันมีคำกล่าวเอาไว้ว่า “ยิงก่อนค่อยถาม..”
สองสาวไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำทักทายกันและกัน มากกว่าพยักหน้าอย่างรับรู้ อลิซตรงไปจัดวางกระเป๋าของเธอลง ส่วนแคลร์เดินตาม แต่ไม่ได้เข้าไปลึกมากกว่าทางเข้า
“ความจำของเธอเป็นยังไงบ้าง..” อลิซเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“เหมือนเดิม บางอย่างกลับมา แต่ฉันก็ยังจำไม่ได้อยู่ดีกว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้างที่อลาสก้า..” แคลร์ตอบอย่างเสียไม่ได้
“เธอจะจำได้..” อลิซพยายามบอกทำนองให้กำลังใจ
“จะนอนแล้วเหรอ..”
เสียงคำถามดังขึ้นระหว่างที่เริ่มทำการปลดปล่อยตัวเธอออกจากบรรดาอาวุธซึ่งพกติดตัวเสมอ “ฉันกำลังพยายามน่ะ เธอก็น่าจะทำบ้างนะ..แคลร์..” เธอบอกพร้อมกับที่วางของใช้อันตรายเหล่านั้นไว้ข้างเตียง ซึ่งพยายามให้ไม่อยู่ไกลไปกว่าการเอื้อมมือหยิบมัน จากนั้นอลิซการล้มตัวลงนอนหงายกับเตียงและปิดเปลือกตาของเธอ
ความเงียบเข้าครอบคลุมบรรยากาศ และเธอก็กำลังจะเข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา แต่สติของเธอก็ถูกดึงกลับมา เพราะเสียงฝีเท้าจากรองเท้าบู๊ต ซึ่งมันไม่ใช่เสียงที่บ่งบอกถึงทิศทางตามที่เธอคาดไว้ เสียงนั้นเข้ามาใกล้เธอ หยุดลง จากนั้นที่นอนซึ่งเธอนอนอยู่ก็ยุบฮวบลง อลิซเลิกคิ้วเรียวของเธอขึ้นข้างหนึ่ง เป็นสัญญาณแห่งการรับรู้ถึงสิ่งต่างๆนั้น แต่เธอกลับไม่ขยับเขยื้อนร่างกาย เธอหลับไปแล้วจริงๆรึนี่ ?
อลิซรู้สึกได้ว่า แคลร์เอนตัวเข้ามาใกล้ หน้าอกของหล่อนกดสัมผัสกับท่อนแขนของเธอ ริมฝีปากอุ่นๆสัมผัสกับบ่า ก่อนที่จะขยับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วขึ้นมาสัมผัสกับคอและใบหน้า ความรู้สึกร้อนรุ่มเกิดขึ้นทันทีกับร่างกายเพราะสัมผัสเช่นนั้น อลิซรู้สึกว่า..เธอหายใจได้ยากขึ้น ลมหายใจคล้ายจะหอบถี่ขึ้นมา
ขาข้างหนึ่งสอดเข้ามาอยู่ระหว่างกลางของสองขาของเธอ จากนั้นก็รู้สึกว่า แคลร์ขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น ปลายนิ้วสัมผัสตรงข้างแก้มอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไล้จากซ้ายไปขวา อลิซเปิดเปลือกตาของเธอขึ้น เพื่อมองสบตากับแคลร์ คนที่เป็นฝ่ายมอบสัมผัสนั้นให้เธอ แน่นอนที่สุด..เธอไม่ได้หลับ เธอรับรู้ทุกอย่าง แคลร์นั่งอยู่บนเตียงกับเธอจริงๆ และนั่งอยู่ใกล้มากจนเรียกได้ว่า ใช้อากาศร่วมกัน
“เธอจะนอนแล้วเหรอ..อลิซ..”
เสียงเอ่ยถามอย่างไร้เดียงสาดังขึ้น แต่น้ำเสียงประหลาดมาก มันเข้ากันได้ดีกับท่าทางแปลกๆของเจ้าหล่อน เธอจะเห็นมันมาก่อนหน้านี้หรือไม่กันนะ ถ้าเธอใส่ใจสาวคนนี้ก่อนที่จะหันหลังให้ เวลานี้เธอสามารถบอกได้เลยว่า ลมหายใจของผู้ถาม ออกมาจากริมฝีปากของหล่อนอย่างเชิญชวน
เสียงของแคลร์ออกมาอย่างที่แสดงให้เห็นเลยถึงความรู้สึกของเธอ มันเป็นส่วนหนึ่งที่บอกถึงความปรารถนาทางอารมณ์ และส่วนหนึ่งคือความไม่มั่นใจ อลิซรู้สึกมันได้จากการมองเห็นด้วยตา ผ่านใบหน้าสวยนั้น แคลร์ไม่ขยับเคลื่อนไหว และนั่นก็ทำให้อลิซเข้าใจว่า แคลร์คงกำลังต้องการคำตอบจากคำถามนั่น เธอจึงขยับมือข้างหนึ่งของตัวเองขึ้นสัมผัสกับใบหน้าของหญิงสาวเบื้องบนตัวเธอ ก่อนหลับตาและพาอีกคนลงมาหากัน ริมฝีปากของเธอทั้งสองสัมผัสกัน อย่างไม่มีความขัดข้องทางความรู้สึก ดั่งเป็นนิรันดร์กับการได้แลกจุมพิต ก่อนที่อลิซจะได้รู้ว่า ร่างกายของเธอตอบสนองกับสัมผัสเช่นนั้น ความรู้สึกตะขิดตะขวงใจใดๆถูกผลักไสให้หายห่างไป ริมฝีปากของเธอทั้งสองขยับเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกัน ลิ้นเริ่มพันเกี่ยวซึ่งกันและกัน มือของเธอเองพันเกี่ยวกับเส้นผมยาวสีน้ำตาล
สารอะดีนนารีนหลั่งไหลออกมา กระตุ้นเร้าให้ความรู้สึกเตลิดไปไกลมากยิ่งขึ้น เสียงเสื้อผ้าเสียดสีกันและเสียงลมหายใจหอบน้อยๆดังก้องไปทั่วห้องกำแพงหินนั่น มือทั้งสองข้างของอลิซขยับขึ้นเพื่อควานหาขอบกางเกงของแคลร์และสอดเข้าไปในเสื้อของหล่อน สัมผัสกับหน้าท้องอันแบนราบของแคลร์ นานเท่าไหร่แล้วนะที่เธอไม่ได้รู้สึกถึงผิวกายของมนุษย์คนอื่น นานเท่าไหร่แล้วที่เธอลืมความรู้สึกแบบนี้ไป แต่บัดนี้มันกลับมา กลับมารบกวนจิตใจของเธอ
แคลร์ละตัวของเธอออกจากอีกฝ่าย เพื่อใช้สองมือของเธอนำทางมือของอลิซ จนกระทั่งมือสวยๆสองข้างของฝ่ายนั้นได้มาสัมผัสกับทรวงอกของเธอเอง เธอทั้งสองส่งเสียงถอนหายใจ แคลร์กัดริมฝีปากตัวเอง ก่อนขยับสะโพกของเธอ ให้ส่วนกลางระหว่างสองขาของเธอได้บดขยี้กับขาข้างหนึ่งของอลิซ
อลิซมองดูแคลร์ขยับนำเสื้อออกจากร่างกาย แล้วโยนมันไปข้างเตียง จากนั้นก็เสื้อผ้าส่วนที่เหลือ แล้วแคลร์ก็ทำอย่างเดียวกันนั้นกับอลิซ ก่อนที่ริมฝีปากของแคลร์จะมอบจุมพิตอันชุ่มชื่นให้กับหน้าท้องและทรวงอกของเธอ
สัมผัสอันอ่อนโยนตรงหว่างขาของเธอ เรียกเสียงครางอย่างพึงพอใจออกจากริมฝีปากของอลิซ ที่ก็ได้ยินเสียงครวญจากหญิงสาวที่กำลังคร่อมตัวเธออยู่เบื้องบน จากนั้นเธอก็รู้สึกได้ว่า มีนิ้วหนึ่งสอดผ่านเสื้อผ้าชิ้นที่ยังเหลือติดตัวของเธออยู่ และเข้าสู่ตัวของเธออย่างไม่ยากนัก
สายตาของทั้งสองประสานกันอีกครั้ง อลิซรู้ดีว่า ข้อนิ้วของเธอเองคงจะขาวซีดแล้วแน่ๆ เมื่อเธอกำผ้าปูนอนจนแน่น แต่เธอไม่รู้ว่าเธอทำแบบนั้นไปเมื่อไหร่ เธอคลายมือออก อารมณ์และความรู้สึกของเธอเต็มเปี่ยมจากสัมผัสที่ได้รับมา มือทั้งสองข้างของเธอเองขยับเพื่อเกาะกุมกับทรวงอกทั้งสองของแคลร์อีกครั้ง เคลื่อนไหวแรงขึ้นเพื่อให้ปลายนิ้วได้ทำหน้าที่สัมผัสกับส่วนอ่อนไหวที่สุดของทรวงอกนั่น
เธอรู้สึกได้ว่าแคลร์ นำอีกนิ้วเข้าไปด้านในของตัวเธอ สะโพกของเธอเองจึงเริ่มต้นการขยับเพื่อให้เข้ากับจังหวะที่แคลร์ทำมัน ริมฝีปากของเธอเผยอออกเล็กน้อย เธอรู้.. เธอร้องคร่ำครวญและครางทุกๆครั้ง ที่ถูกสอดใส่
แคลร์...
ชื่อหนึ่งดังออกมาจากปากของเธอเอง มันเป็นเสียงร้องคราง ซึ่งมันไม่มีอย่างอื่นเลยของความหมายของมัน นอกจากการร้องขอ เธอกำลังร้องขอแคลร์ และมันก็คงจะทำให้แคลร์พึงพอใจด้วยเหมือนกัน เพราะอลิซก็รู้สึกว่า หญิงสาวเบื้องต้นกำลังโยกย้ายสะโพกของหล่อน เพื่อให้ส่วนกลางของความต้องการได้รับการตอบสนองเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นคำตอบของการเกิดเสียงหอบหายใจและเสียงครวญ อลิซรู้สึกถึงความพอใจมากยิ่งขึ้น เพราะแคลร์เริ่มเพิ่มจังหวะในการเคลื่อนไหวของนิ้วนั่น หนักหน่วงและลึกลงเข้าไปอีก
เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะแสดงออกมาอย่างแจ่มแจ้งว่าเธอเป็นอย่างไร เมื่อจุดท้ายของแรงปรารถนานั้นมาถึง แต่เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอเองสั่นและเกร็ง ในสมองของอลิซว่างเปล่าคล้ายไม่มีสิ่งใด และรู้สึกเหมือนมีบางอย่างหลุดลอดออกมาจากลำคอ เธอไม่รู้ว่าเธอกรีดร้องออกมาหรืออะไร แต่แน่ใจว่าต้องเป็นแบบนั้น เพราะเสียงที่ดังเข้าหูมา บอกกับเธอว่ามันเป็น นั่นคือเสียงที่ดังขึ้นแทรกผ่านความเงียบเข้ามา
แคลร์จ้องมองลงมาอย่างมีชัย และตอนนี้เองที่อลิซสังเกตเห็นว่าแคลร์นำนิ้วที่เปียกชุ่มด้วยของเหลวบางอย่างซึ่งเธอรู้ดีว่าคืออะไรขึ้นมา เลียมันเหมือนกับกำลังพิจารณา แล้วนำมันเข้าสู่ปากของเธอ ดูดมันจนสะอาด อลิซหรี่ตาของเธอลงและกัดริมฝีปากล่าง จนแคลร์อดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะทำกับอีกนิ้วของเธอเองเหมือนเมื่อครู่ที่ได้ทำไป
แคลร์ยิ้มอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะขยับไปยังขอบเตียงเพื่อหาเสื้อของเธอมาสวมใส่ หากแต่การเคลื่อนไหวในการเริ่มต้นแต่งตัวของเธอก็ถูกหยุดลง เพราะท่อนแขนข้างหนึ่งมาโอบตัวเธอ ในขณะที่อีกข้างดึงเสื้อเธอออกจากตัวอีกครั้ง แล้วโยนไปยังพื้นห้อง จากนั้นก็เป็นสองมือที่ช่วยกันถอดกางเกงของเธอออก
“ฉันไม่คิดอย่างนั้น..”
เสียงหนึ่งดังเข้าหูมา และแคลร์ก็อดไม่ได้เลยที่จะสงสัยว่า อลิซตอบคำถามที่เธอถามไปเมื่อครู่ หรือปฏิเสธไม่ให้เธอออกจากห้อง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนี่.. เธอยิ้มและอนุญาตให้ตัวเองถูกลากกลับสู่เตียงและถูกกดลงกับมันอย่างพอใจ
นอนหลับเหรอ.. รอไปก่อนนะ...
The End.
2 ความคิดเห็น:
การเป็นมนุษย์แล้วมันดีอย่างนี้นี่เอง.. โฮกกกกก!!!!!
"นอนหลับเหรอ.. รอไปก่อน.."
สรุปแล้วคืนนี้ก็ไม่ได้นอนล่ะนะ.. ฮ่าๆๆๆ.. ก็อลิซตอบไปแล้วนี่นาว่า "ฉันไม่คิดอย่างนั้น".. ความหมายของมันก็คือ "ฉันยังไม่คิดว่าจะนอน.. แล้วฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะใส่มัน".. แบบนั้นน่ะ.. ฮ่าๆๆๆ.. >///<
อ่า.. อันนี้ข้าพเจ้าเม้นท์มากไม่ได้นะคะไรเตอร์ เพราะคำพูดมันไม่สามารถออกมาได้เลย รู้ๆกันอยู่เนาะ.. ฮ่าๆๆๆ.. (ถ้าอยากติดต่อสอบถามเรื่องใด โปรดหลังไมค์ค่ะ.. ฮ่าๆๆๆ)..
ตอนนี้ข้าพเจ้าอยากบอกเพียงว่า.. ท่านแปลได้ "โฮก" มาก.. จินตนาการกว้างไกลไร้ขีดจำกัด.. อิอิ.. อย่าลืมเอาผลงาน(แนวนี้)มาให้ชมกันบ่อยๆนะคะ (ไม่บอกก็รู้อ่ะนะว่าคนอ่านแอบหื่น.. อ๊ะ.. ม่ายจ้ายยยย!!!).. เอาเป็นว่าข้าพเจ้ารอคอยการกลับมาของท่านเสมอ และเป็นกำลังใจให้ค่ะ.. สู้ๆๆๆ..
ขอบคุณนะคะ ที่แปลมาให้อ่านกัน อิอิ
โอ่ เป็นตอนที่ช่างสมกับชื่อจริงๆ เพราะโรแมนติกเหลือเกิน ฮ่าๆๆๆ
แม้จะแปลกใจเล็กน้อยที่ได้เห็นอลิสสู้แคลร์ไม่ได้เช่นนี้ ฮ่าๆๆๆ
เคยได้อ่านตอนเป็นฟิกอังกฤษแล้ว ต้องยอมรับว่าไรท์เตอร์แปลออกมาได้ดีจริงๆ..ขอบคุณอีกครั้งนะคะ และจะรอชมผลงานต่อไปอย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็น