Human Again.
Rated: M
English - Horror/Romance
Alice & Claire R.
By : andella07/FanFiction.net
Translated to Thai : Anhy
Chapter 6 : Claire's Reintroduction to the Undead.
อากาศหนาวและความหนาวคงจะมากกว่าอลาสก้าเล็กน้อย เพราะอย่างน้อยที่อลาสก้าก็ยังปกคลุมไปด้วยบรรดาต้นไม้ที่ช่วยในการต่อสู้กับสายลม ไม่เหมือนที่เกาะ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้อลิซรู้สึกขนลุกในเวลานี้ที่เธอเดินผ่านจุดสัญญาณลงจอด เพื่อจะไปยังอู่ขนาดใหญ่ซึ่งคงจะต้องมีสโตร์เชื้อเพลิงอยู่ที่นั่น เธอจำเป็นที่จะต้องเข้าไปเช็ดตรงจุดนั้น แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะทิ้งแคลร์ไว้ลำพังบนเครื่องบินได้ อดีตโปรเจ็คเดินห่างไปไกลพอสมควรแล้ว และในขณะที่เธอต้องการจะหันหลังกลับ เธอกลับได้ยินเสียงครางอย่างโหยหวน มันคือสัญญาณที่บ่งบอกถึง..ซอมบี้ และมันกำลังมาจากอู่นั่นเอง
อลิซกระชับอาวุธปืนคู่กายของเธอในมือทั้งสองข้างไปทางประตูอู่ที่ถูกเปิดอยู่ ขณะที่ร่างของมันพุ่งออกมาจากด้านในนั้น ในสายตาเธอ เจ้าซากศพเดินได้นั่น มันออกมาด้วยจุดประสงค์บางอย่างที่เธอรู้ดี สารอะดีนนาลีนหลั่งทั่วร่างของอลิซ สั่งให้ลูกกระสุนปืนในมือเธอพุ่งไปที่ขาของซอมบี้ตัวนั้น..หนึ่งนัด จนทำให้มันล้มลง และอีกนัดก็ตามออกไป พุ่งตรงไปเจาะกะโหลกของมัน ปีศาจอีกตัวพุ่งออกมาจากทางประตู และอลิซไม่เสียเวลาที่จะทำให้มันจบลง ร่างที่สองของซอมบี้ล้มลงก่อนและจากนั้นเลือดของมันก็ไหลออกมาทั่วตัวมันเอง
อดีตโปรเจ็คได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลังของตัวเอง และเธอก็รีบหันไป เตรียมพร้อมกับการจะส่งกระสุนนัดต่อไปให้กับสมองของซอมบี้
“พระเจ้า..! แคลร์..! ฉันคิดว่า..ฉันบอกเธอแล้วนะว่าให้อยู่แต่ในเครื่องบิน..” อลิซร้องขึ้นอย่างตกใจและหักเหทิศทางของปืนในมือออกจากรัศมีของสาวผมแดง แต่เธอไม่ได้ลดปืนสองกระบอกลงเก็บ เพราะที่นี่ยังคงต้องมีพวกซอมบี้อยู่ใกล้ๆ และเธอจะต้องพร้อมเสมอ
“ขอโทษ.. ฉันได้ยินเสียงปืน ฉันเป็นห่วง.. และนั่นคือ....” แคลร์พยายามชี้แจง แต่หมดคำพูดที่เอ่ยถึงฉากนองเลือดตรงประตูทางเข้าโรงจอด ดังนั้น..อดีตโปรเจ็คจึงต่อประโยคนั้นให้จบแทน และทำเหมือนไม่รู้เลยว่า แคลร์แค่จะขอโทษและเป็นห่วงตัวเธอ
“ใช่แล้วล่ะ พวกซอมบี้..” อลิซบอกอย่างเย็นชา ขณะที่เธอหันกลับทางอู่และนำปืนสั้นที่มีไฟฉายออกมาแทนกระบอกเก่าที่ใช้เมื่อครู่ “อยู่ใกล้ๆฉันไว้นะ ฉันต้องไปเช็คตรงนั้น ดูว่ามีเชื้อเพลิงมั้ย..” เธอบอกแคลร์
แคลร์กลืนน้ำลายและทำอย่างที่อลิซสั่ง อลิซก้าวเดินผ่านซากศพไปอย่างเฉยเมย ส่วนแคลร์เดินไปพร้อมเอามือหนึ่งยกขึ้นปิดจมูกและปาก เพื่อกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ สายตาของสาวผมแดงต้องพยายามต่อสู้กับความมืด และปรับมันให้เข้ากับความมืด แต่เธอก็พยายามจะรักษาการมองเห็นให้สามารถมีสาวตัวสูงกว่าในสายตานั่น
“อา..มีจริงๆด้วย..” อลิซพูดขึ้น เมื่อแสงไฟจากไฟฉายของเธอส่องไปกระทบถังสีแดงที่มีสีสเปรย์ฉีดคำว่า “เชื้อเพลิง” ข้างบน ดูเหมือนว่าห้องนี้จะถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บถังน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะมันไม่มีสิ่งอื่นอยู่ในนี้ จะมีแค่เพียงเครื่องมือพื้นฐาน ไม่กี่อย่าง,ไฟบนศีรษะ,กระป๋องก๊าซสองกระป๋องวางเรียงอยู่กับผนังและถัดจากนั้นก็..ประตู มากกว่านั้นก็แค่..ซอมบี้สองตัวที่ก็คงเป็นผู้ครอบครองห้องนี้ อลิซเดินไปยังถังและใช้ไฟฉายเคาะมัน เสียงที่แทบจะไม่ดังออกมา แสดงว่าถังน้ำมันเต็ม ข่าวดีอีกอย่าง
อลิซเดาว่า ประตูที่ถูกปิดอยู่นั้น คงจะพาไปสู่ส่วนอื่นๆของสถานที่นี้ แต่อดีตโปรเจ็คต้องการพื้นที่ที่ปลอดภัยและนั่นหมายความว่า ประตูจะต้องถูกเปิดออก เธอดันถังออกและดึงที่จับประตูลงด้วยข้อศอก ใช้น้ำหนักของร่างกายทิ้งลงไปเพื่อบังคับเปิดประตูหนักๆนั่น ระหว่างไม่ลืมเตรียมปืนและไฟฉายให้พร้อมเสมอ
ชิ้นส่วนต่างๆของหลังคาถูกสนิมเกาะกิน ทำให้แสงไฟรอดผ่านรูรั่วต่างๆนั่นเข้ามา อลิซเดินผ่านจุดหนึ่งของแสงไฟเล็กๆ เดินเข้าไปด้านในโดยมีแคลร์เดินตามไม่ห่างอยู่ด้านหลัง เบื้องหน้าของพวกเธอ เป็นชั้นวางของที่เต็มไปด้วยเครื่องมือ ผ่านชั้นนั้นมา ก็เจอกับโต๊ะทำงานเหล็กที่มีแปลนงานที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์วางอยู่ ถัดมาก็เป็นงานเชื่อมโลหะที่เหมือนว่าเจ้าของมันทิ้งไป เพื่อจะกลับมาทำมันต่อ เห็นได้ชัดเลยว่าเพิ่งจะเริ่มต้นทำ อลิซคิดไปว่า มันดูจะบ้าไปหน่อยที่ทำงานเชื่อมโลหะใกล้กับถังเชื้อเพลิง แต่ใครกันนะที่เธอนึกห่วงสุขภาพของพวกเขาที่อยากจะตายแบบนั้น มันเป็นการมองโลกในแง่ร้ายเสมออย่างหนึ่ง บางทีพวกเขาคงไม่ได้อยากที่จะตาย แต่นั่นแหละ สิ่งที่พวกเขาไม่ได้คิด เขาจะเป็นแบบนั้น อลิซคิดเสริม
แคลร์อยู่ใกล้กับโต๊ะจนมองเห็นโลหะแปลกๆ เธอไม่เห็นถึงประโยชน์ของมันแต่บางทีมันก็อาจจะไม่มีประโยชน์ หรือบางทีก็อาจจะมีแค่ความสวยงาม แคลร์ไม่เคยใช้ของแบบนี้ แม้ว่ามันจะแหลม เป็นสีเงินสวยงามก็ตาม สาวผมแดงมัวแต่วุ่นวายอยู่กับความสงสัยในโลหะตรงหน้า จนไม่ได้สังเกตว่าอลิซเดินออกห่างตัวเธอไป เพื่อหาของบางอย่างที่เป็นประโยชน์จากบนชั้นเครื่องมือ แคลร์ถูกทำให้สงสัยกับสิ่งเห็น นั่นจึงทำให้เธอเอื้อมมือออกไปเพื่อสัมผัสมัน เธอต้องการที่จะเชื่อมโยงกับอะไรบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ แค่เพียงเธอสัมผัสกับยอดบนสุดของสิ่งที่เธอไม่รู้ เธอก็สามารถได้กลิ่นของโลหะออกซิไดซ์ออกมาในอากาศ เห็นฝุ่นเล็กกระจายตัวขึ้นผ่านแสงไฟเล็กๆภายในห้อง ได้ยินเสียงอลิซควานหาสิ่งของและรู้สึก.. รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างจับข้อเท้าเธอ
สาวผมแดงร้องกรี๊ด อลิซรีบพาตัวเองมาอย่างรวดเร็ว ทันเวลาที่เห็นแคลร์ถูกลากไปกับพื้น สำหรับสิ่งที่แคลร์รู้สึก เวลาดูเชื่องช้า เธอสามารถเห็นทุกๆนาทีที่คนคนนั้นทำ ขณะที่เขาคลานออกมาจากใต้โต๊ะและขึ้นมาหาเธอ แคลร์ไม่ได้คิดที่จะสู้ เธอกลัว.. ผู้ชายที่อยู่บนตัวเธอ ช่างน่าขยะแขยง ผิวของเขาแตกแห้งกร้าน ศีรษะมีผมปรกอยู่ไม่มาก เป็นริ้วๆ แผลแห้งเป็นรอยกัดที่รักษาไม่ได้อยู่ตรงต้นคอ แต่สิ่งที่ทำให้เธอกลัวมากที่สุด คือแววตาหื่นกระหายในดวงตาของเขา ที่มันสามารถขับเคลื่อนให้เขาอ้าปากให้กว้างมากขึ้น เมื่อเขามาใกล้ผิวกายที่ไม่มีสิ่งใดปกปิดเหนือเนินอกของแคลร์ สาวผมแดงกรีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่เขาเริ่มต้นจะแพร่เชื้อ แต่แค่เขากำลังคิดจะฉีกเนื้อเธอ มือคู่หนึ่งก็เอื้อมเข้ามาจับศีรษะของชายคนนั้นและบิดมัน จนกระทั่งแคลร์ได้ยินเสียงแคร๊กดังก้อง
ก่อนที่ร่างนั้นจะฟุบลงกับตัวของสาวผมแดง อลิซก็ผลักมันออกไปด้านข้างและดึงแคลร์ขึ้นมาให้พ้นมัน เธอวางสองมือไว้บนบ่าของแคลร์เพื่อให้หล่อนสงบลง และมองหาว่ามีร่องรอยบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ เมื่อเธอไม่พบอะไร จึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
“เธอสบายดีมั้ย..!”
แต่แคลร์ไม่โต้ตอบ เธอตัวแข็งทื่อ อลิซจึงเป็นต้องสงบใจตัวเองก่อน ดังนั้นเธอจึงผ่อนลมหายใจออกมา ทั้งที่ไม่รู้ว่าเธอได้กลั้นมันไว้เมื่อไหร่ เมื่อสามารถควบคุมตัวเองได้ เธอจึงเอ่ยถามอีกครั้ง
“แคลร์..” เสียงที่ดีขึ้นของเธอสามารถดึงความสนใจจากสาวผมแดงได้ หล่อนมองเข้ามาสู่ดวงตาสีฟ้าของอลิซ
“เธอสบายดีมั้ย..”
แคลร์พยักหน้า แต่อลิซบอกได้เลยว่า เธอตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด อลิซสับสน ไม่เข้าใจ เธอไม่เคยเห็นแคลร์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ถึงเธอจะไม่เคยเห็นครั้งแรกที่แคลร์วิ่งท่ามกลางพวกซอมบี้ ทำให้เธอไม่รู้ว่าแคลร์มีปฏิกิริยาต่อสิ่งนั้นอย่างไร..ตอนนั้น แต่อลิซก็เชื่อได้ยากว่า แคลร์จะไม่ทำอะไรเพื่อป้องกันตัวเอง
อลิซยังคงพูดต่อไป แต่แคลร์ไม่ได้ฟัง มนุษย์ที่นอนกองอยู่กับพื้นเหมือนตุ๊กตาเศษผ้า แขนขาถูกบิดกระจายไปทุกทิศทาง สาวผมแดงสังเกตเห็น มือของซอมบี้นั่นสวมถุงมือทั้งสองข้าง ถัดจากใบหน้าของเขา คือหน้ากากที่มีกระจกป้องกันด้านหน้าซึ่งเอาไว้สำหรับใช้ใส่เวลาเชื่อมงานโลหะ แคลร์เกือบจะได้เห็นภาพของช่างเชื่อมกำลังทำงานอย่างขันแข็ง ขณะที่มีใครบางคนปีนขึ้นมาจากด้านหลังของเขา เสียงเชื่อมโลหะปกคลุมเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามา ความเจ็บปวดพุ่งเข้ามาตรงคอของเขา เลือดอุ่นๆหลั่งออกมา และจากนั้นก็---- ความคิดของแคลร์ถูกขัดจังหวะ เมื่ออลิซจับมือเธอ สัมผัสนั้นมีกระแสไฟแล่นผ่านมา
“มานี่เถอะ.. ออกไปข้างนอกกัน..” อลิซพูดขึ้นระหว่างที่เธอพาแคลร์ออกมาจากอู่ที่เหมือนเป็นแดนสังหาร
เมื่อทั้งสองได้ออกมาอยู่ในอากาศบริสุทธิ์ ในที่สุดสาวผมแดงก็เหมือนกับว่าจะรู้สึกได้ว่าอะไรเป็นอะไร นี่คือโลกของเธอในเวลานี้ มันคือความสยองขวัญและความกลัว สิ่งหนึ่งที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจแคลร์ได้ออกมาสู่ภายนอก เธอสัญญากับตัวเองว่า.. เธอจะไม่กลัวแบบนั้นอีกครั้ง และปล่อยมือของอลิซ
To be continue….
1 ความคิดเห็น:
อ๊ากกกกก!!!.. ไอ้ซอมบี้บ้า!!!
แกจะมาทำอะไรแคลร์ของฉัน.. อลิซไปไหนไกลทำไมเนี่ย ดูคนข้างหลังบ้า แคลร์เสียความทรงจำอยู่นะ ไม่รู้หรอกว่าต้องทำยังไงเมื่อเจ้าบ้าพวกนั้นมาอยู่ใกล้อ่ะ.. เฮ่อ.. บ่นจนลืมหายใจ.. ฮ่าๆๆๆๆ
แต่ก็ยังดีอ่ะนะ ที่กลับมาช่วยทันอ่ะ ไม่งั้นคนที่จะเสียใจก็คืออลิซเองนั่นแหละ เวลาที่รอคอยมานานว่าจะได้เจอกับใครสักคนที่เหลืออยู่บนโลกนี้จะเป็นศูนย์ทันที แล้วที่สำคัญผู้หญิงคนนี้คือแคลร์ด้วยล่ะ.. อย่าปล่อยให้ห่างสายตาสิ.. อิอิ
ว่าแต่จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนะ.. อดใจรออ่านไม่ไหวแล้วล่ะ อยากรู้ว่าต่อไปจะเจอกับเหตุการณ์อะไรอีก.. แล้วอลิซกับแคลร์จะรอดพ้นได้มั้ย (ต้องได้อยู่แล้วสิยะ..ฮ่าๆๆ).. อย่าลืมมาต่อนะคะ.. ข้าพเจ้ารออยู่เสมอจ้า.. ^^
แสดงความคิดเห็น