Human Again.
Rated: M
English - Horror/Romance
Alice & Claire R.
By : andella07/FanFiction.net
Translated to Thai : Anhy
Chapter 13 : No Time To Say Goodbye.
“อลิซ..!!!”
แคลร์ตะโกนเรียกชื่ออลิซอย่างตื่นตระหนก เธอกำหมัดทุบประตูหลายต่อหลายครั้ง หวังสามารถเปิดประตู แต่ในที่สุด เธอก็จำได้ว่า อลิซกระโดดถีบมัน และก็ทำให้เธอก้าวถอยหลัง เพื่อจะทำตามที่เคยเห็นจากสาวตัวสูงกว่าทำครั้งก่อน ล็อกของประตูไม้แตกทันทีและก่อนที่มันตีกลับมาปิดอีกครั้ง แคลร์ก็เข้าไปอยู่ในห้องแล้ว เธอถูกทำให้ยืนนิ่งด้วยกลิ่นของทองแดงและเขม่าดินปืน แต่เธอไม่ได้สนใจกลิ่นอะไรทั้งนั้น เธอต้องเห็น---- ต้องเห็นว่า..อลิซยังมีชีวิตอยู่
เบื้องหน้าของสาวผมแดง มีร่างสามร่างนอนเรียงรายอยู่ในที่ที่พวกเขาหล่นลง อีกไม่กี่ก้าวถัดไป ก็คืออลิซที่หันหลังให้เธอ ปืนสั้นยังอยู่ในมือ คอตก แต่เหมือนว่า อลิซไม่ได้กำลังหายใจ สาวผมแดงรีบพาตัวเองเข้ามาหาอลิซ เอาปืนออกจากมือและนำมือที่อ่อนแรงนั่นมาไว้ในมือของเธอ แคลร์จับกระชับมือที่เย็นจัดนั่น ระหว่างพยายามเรียกร้องความสนใจจากสาวอายุมากกว่า
“อลิซมองฉัน---- อลิซ.. ได้โปรด..” แคลร์อ้อนวอน
อลิซไม่ได้รับรู้เลยว่า ปืนของเธอหายไป จนกระทั่งรู้สึกว่ามีมือหนึ่งอยู่บนใบหน้าของเธอ และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกว่าดวงตาของเธอยังปิดอยู่ ครั้งแรกเธอคิดว่า สัมผัสนี้มาจากเด็กชายเล็กๆนั่น แต่มันเป็นไปไม่ได้ เธอจึงลืมตาขึ้นและเห็นใบหน้าอันวิตกกังวลของแคลร์ และนั่นก็ทำให้อลิซสูดลมหายใจ
ภาพที่เห็นว่า สาวผมแดงยิ้มให้อย่างโล่งใจ อลิซกลับพูดอะไรไม่รู้เรื่องออกมา
“เด็กผู้ชาย – เธอบอกลา – ฉันไม่ได้ให้ – เธอพูด – ไม่มีเวลา – ฉันอยากจะ-..”
“อลิซ หยุดนะ ! เธอพูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย..” แคลร์เอ่ยขึ้น เมื่อเธอรู้สึกว่า สาวตัวสูงกว่าจำเป็นต้องออกจากห้องนี้ไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับที่เธอก็เคยจำต้องออกจากอู่นั่น แคลร์จับมืออลิซอีกครั้งและพาออกจากประตูอย่างง่ายดาย แต่อลิซก็ต่อต้านเมื่อเดินออกไปได้ไม่ไกล
“เราทิ้งพวกเค้าไว้แบบนั้น..ไม่ได้..” อลิซแย้งขึ้น
“เราก็ไม่ได้จะไปไหนนี่..” สาวผมแดงโต้ตอบและมันก็ดีพอสำหรับอลิซ และทั้งสองก็เริ่มเดินออกจากห้องอีกครั้ง
เมื่อทั้งสองโผล่ออกมาจากแสงแดด อลิซเงยหน้าขึ้นหาความอบอุ่นและเข่าของเธอก็อ่อนลง แคลร์ทิ้งปืนลงบนพื้นหญ้าเพื่อคว้าตัวผู้หญิงที่กำลังทรุดลง สาวผมแดงไม่ได้พยายามที่จะให้อลิซยืน แค่พยุงเอาไว้ไม่ให้ล้มลงอย่างไม่เป็นท่าเท่านั้น แคลร์โอบตัวอลิซไว้ และรู้สึกประหลาดใจที่ไม่พบว่า สาวอีกคนไม่ได้ดูย่ำแย่ต่อหน้าเธอ เธอคาดว่าอลิซจะร้องไห้ กรีดร้อง หรือทำอะไรบางอย่าง การไม่แสดงอะไรเลยนั่นมันดูจะทำให้เป็นปัญหาได้
“มันไม่เป็นอะไรหรอกนะ ถ้าจะร้องไห้..อลิซ..”
อลิซส่ายศีรษะน้อยๆและพูดออกมาอย่างเรียบนิ่ง โดยไม่ได้ใส่ความรู้สึกในน้ำเสียงหรือถ้อยคำ “ไม่.. ไม่ได้หรอก.. ฉันไม่ควรจะได้รับการปลอบโยน.. ไม่สมควรที่จะมีชีวิต.. ไม่สมควรได้อยู่กับเธอ ทุกอย่างมันเป็นความผิดของฉัน เธอไม่เห็นเหรอ..” แม้แต่คำถามของเธอก็เหมือนเป็นแค่คำบอกกล่าวเท่านั้น
แคลร์ไม่แน่ใจว่า เธอควรจะคิดอะไรกับเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงทำตามทางของเธออย่างดีที่สุด เธอโกรธ..
“ฉันไม่อยากเชื่อเลย.. เธอไม่ได้เป็นคนสร้างไวรัสทีนั่นมา และเธอก็ไม่ได้เป็นคนปล่อยมันออกมาด้วย..” จากนั้นเธอก็มองเข้าไปยังดวงตาของอลิซ
“แล้วฉันล่ะ ห๊ะ..? ฉันแคร์เธอ แคร์มากกว่าที่เธอรู้.....” แคลร์เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าขึ้น
“ถ้าเธอฆ่าตัวตาย.. แล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป..” แม้ว่าเธอจะยังคงโอบอลิซไว้ แคลร์ก็เริ่มตัวสั่น “ฉันจะทำอะไรได้..” คอของเธอรู้สึกแห้งขึ้นมากะทันหัน เธอไม่สามารถจะพูดอะไรได้อีก ทำได้เพียงพยายามเกร็งและเก็บกดความรู้สึกเศร้าไว้
“ฉัน—ฉันขอโทษ..” อลิซเอ่ยและหันหน้าหนีอีกฝ่าย เมื่อน้ำตาของเธอเอ่อขึ้นที่สองตา มันร้อนผ่าวจนเป็นเหตุให้น้ำตาไหลออกมาจนได้ ลำคอของเธอรู้สึกตัน ในระหว่างที่น้ำตาเย็นๆไหลลงอาบแก้มที่ร้อนขึ้นของเธอ มันร่วงหล่นลงตรงปลายคาง อลิซพยายามสูดลมหายใจ กำหมัดแน่นจนเล็บจิกลงกับเนื้อฝ่ามือ ความเจ็บปวดนี้ช่วยให้เธอหายใจอยู่ได้ ขณะที่ร่างกายสั่นเพราะสะอึกสะอื้น
นี่คือปฏิกิริยาอาการที่แคลร์ต้องการจะเห็น เธอต้องการจะเข้มแข็งพอที่จะเป็นก้อนหินให้กับอลิซได้ใช้เป็นที่กำบังตัว ณ เวลาที่อลิซเหมือนถูกคลื่นอารมณ์ลูกแล้วลูกเล่าเข้ามากระทบ
อลิซเอื้อมแขนทั้งสองของเธอขึ้นโอบกอดแคลร์ คล้ายหวาดกลัวที่จะเสียหล่อนไป และสาวผมแดงก็กอดตอบเธอในทันที มันคล้ายกับเป็นเวลาแห่งนิรันดร์ ให้อลิซสามารถใช้เวลานี้ เพื่อรวบรวมสติของเธอ
ฉันไม่สนใจอะไรที่เธอพูด – ฉันก็ยังไม่เหมาะกับเธออยู่วันยังค่ำ – เธอเพอร์เฟ็คเหลือเกิน..แคลร์-- อลิซคิดและพิจารณาการโอบกอดของเธอที่ให้กับอีกฝ่าย
การกอดคลายๆของอลิซ ทำให้แคลร์เห็นเหตุผลที่เธอจะทำอะไรได้บ้าง เธอยกแขนข้างหนึ่งขึ้นและไล้ปลายนิ้วไปกับเส้นผมสีน้ำตาลของหญิงสาวขณะที่อลิซถอนหายใจด้วยความรู้สึกเหนื่อย สาวตัวสูงกว่าไม่ต้องการอะไรนอกจากการได้หลับ โดยมีแคลร์คอยดูแลเธอให้ แต่สัญชาตญาณเพื่อความอยู่รอดของอดีตโปรเจ็คทำให้เธอตื่นตัวขึ้น มันไม่ปลอดภัยเลย ถ้าจะหลับที่นี่ ในที่โล่งแจ้งแบบนี้ โดยเฉพาะกับเรื่องเก่าของสนามบินนี่ อีกทั้งยังมีเรื่องอีกมากที่เธอต้องทำให้สำเร็จ ครอบครัวนั้นต้องได้รับการฝัง เครื่องบินต้องเติมน้ำมัน แต่สิ่งหนึ่งที่เธอสนใจที่จะทำมัน – และจำเป็นต้องทำเดี๋ยวนี้ ก่อนอะไรทั้งหมดนั่นก็คือ – จุมพิตแคลร์
อลิซวางมือข้างหนึ่งของเธอบนบ่าแคลร์ และอีกข้างที่ต้นคอด้านหลัง จากนั้นก็นำริมฝีปากตัวเองเข้าไปบรรจบกับอีกฝ่าย จุมพิตด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความต้องการและกระหาย แคลร์เองก็ต้องการที่จะแสดงให้อลิซเห็นว่าเธอแคร์ และอลิซก็กระหายที่จะรู้มันเหมือนกัน..
To be continue…..
1 ความคิดเห็น:
โอ่.. แคลร์ดึงอลิซกลับมาได้แล้ว..
อลิซชอบคิดมาก โทษตัวเองตลอดๆๆๆๆ มันไม่ใช่เรื่องผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากอลิซเลยนะ มันไม่ใช่!!!! ทุกอย่างเเกิดจากความผิดพลาดของอัมเบรล่าต่างหาก เธอคือผู้ที่ถูกกระทำ ไม่ใช่คนกระทำอลิซ..
เอ๋อไปเลยง่ะ หลังจากยิงครอบครัวนั้นแล้ว แต่ยังดีที่ไม่ได้ยิงตัวตายตามไป แค่ช็อค.. แต่นั่นก็ร้ายแรงพอดูกับหัวใจของคนที่รออยู่ข้างนอก แต่ก็โชคดีที่ประตูนั่นมันพังง่าย แคลร์เลยเข้าไปเรียกสติของอลิซกลับคืนมา.. ค่อยยังชั่ว..
ตอนต่อไปจะเป็นยังไงนะเนี่ย อยากอ่านต่อ.. ฮ่าๆๆๆ.. จุ๊บกันแล้วทำอะไรต่อเหรอ.. อิอิ..
ว่าแต่.. เสียงยิงปืนครั้งที่สี่นั่น.. อลิซยิงอะไรอ่ะ..
แล้วมาต่ออีกนะคะ.. ข้าพจ้ารอเสมอค่า.. ของคุณมากๆๆๆเลย
แสดงความคิดเห็น