Human Again.
Rated: M
English - Horror/Romance
Alice & Claire R.
By : andella07/FanFiction.net
Translated to Thai : Anhy
Chapter 14 : The Fourth.
“มือเธอเป็นอะไร..” อลิซถามเสียงเคร่งเครียด ขณะที่เธอมองอย่างพิจารณาตรงรอยถลอกบนข้อนิ้วของสาวผมแดง ระหว่างที่เธอทั้งสองนั่งพักกันอยู่บนผืนหญ้าริมรันเวย์
“ไม่ได้เป็นอะไรนี่.. ฉันแค่เคาะประตู..” แคลร์ปฏิเสธมัน ทั้งที่รู้ว่ารอยแผลนั่นเป็นผลจากที่เธอสติแตกและพยายามที่จะเข้าไปหาอลิซ และนั่นก็ทำให้อลิซยังคงไม่เชื่อและสงสัย
“มันไม่มีทางจะไม่เป็นอะไร.. เลือดของพวกเค้าถูกเธอบ้างรึเปล่า..”
“ไม่หรอก.. ฉันไม่คิดอย่างนั้น..”
ความโล่งใจแสดงให้เห็นเด่นชัดบนใบหน้าของอลิซ แต่รอยแผลเปิดนั่นก็ยังคงเป็นอะไรที่น่าอันตราย สาวตัวสูงกว่าจึงลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและดึงมือแคลร์ให้ลุกตาม
“มาเถอะ.. มีผ้าพันแผลอยู่ในเครื่องบิน..” เธอบอกแคลร์
ระหว่างที่อลิซจัดการพันผ้าพันแผลที่ข้อนิ้วของแคลร์ด้วยมือที่สั่นไหวเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นปืนสั้นของเธอเหน็บอยู่ที่ขอบกางเกงแคลร์
“ขอนั่นคืนด้วย..” อดีตโปรเจ็คเอ่ยขึ้นพร้อมเอื้อมหา สมิธแอนด์เวสสันของเธอ แต่แคลร์กลับเลี่ยงที่จะไม่ให้มันกลับไป เธอไม่ปฏิเสธเลยว่า มันเป็นอาวุธอันตรายของอลิซ แต่บางที เธออาจจะสามารถใช้มันด้วยก็ได้
“ฉันจะแลกมัน.. มีดของฉัน.. ฉันขอด้วย..” แคลร์ขัดขืน พร้อมเอ่ยเสนอข้อแลกเปลี่ยนและยื่นมือที่พันผ้าพันแผลเสร็จใหม่ออกมา
อดีตโปรเจ็คหรี่ตาของเธอ -ทำไมฉันถึงได้ทำตัวหยาบคายแบบนี้กันนะ.. เธอถามตัวเอง
อลิซไม่สามารถหาเหตุผลอะไรที่จะไม่คืนมีดให้อีกฝ่าย แต่เมื่อคิดไปว่า การรักษาการควบคุมนี้ไว้ก็เป็นการดี และถ้าเธอทำให้แคลร์ป้องกันตัวเองไม่ได้ แคลร์ก็จะต้องเห็นค่าของการปกป้องของอลิซ -แต่..ถ้าฉันไม่ได้อยู่เพื่อทำหน้าที่นั้นตลอดเวลาล่ะ- อลิซครุ่นคิด และสิ่งที่เธอทำก่อนหน้านั้นที่สนามบินก็ยืนยันมันได้
สาวตัวสูงกว่าจึงปลดสายคาดสีน้ำตาลจากตัวเอง ดึงซองออกมา มีดอยู่ด้านในนั้น และเธอก็เอามันออกมาให้สาวผมแดง เมื่อได้รับปืนของเธอคืน อลิซก็จัดการดูแลมัน ด้วยความสามารถที่ได้รับการฝึกมา เธอใส่กระสุนสี่นัดเข้าไปในลูกโม่ ตามจำนวนที่ได้ใช้ไปเมื่อครู่ และนำมันกลับเข้าที่ของมัน ซองเก็บทางด้านขวาข้างตัว มันถึงเวลากลับเข้าสู่โหมดทำงานแล้ว
“ฉันจำเป็นต้องดูแลร่างของพวกเค้า เติมน้ำมันและจากนั้น เราก็ออกจากที่นี่..” อลิซเอ่ยอธิบาย
สาวสองคนใช้เวลาสองชั่วโมงต่อมากับการขุดหลุมฝังศพบนแผ่นดินแข็งๆ หลังจากที่ตัดสินได้ว่าจะขุดแค่เพียงหนึ่งหลุมใหญ่ เพื่อที่ครอบครัวยังคงได้อยู่ด้วยกัน แม้ในตอนที่สูญสิ้นชีวิต
ในห้องนั้นยังมีกลิ่นของเขม่าดินปืน ที่แม้แค่เดินเข้ามาก็ได้กลิ่นมัน แต่อดีตโปรเจ็คก็คุ้นเคยกับมันแล้ว เธอจึงไม่มีอาการหยุดชะงักใดๆเมื่อได้รับกลิ่น เธอเจอผ้าห่มในห้องสโตร์ห้องหนึ่ง ซึ่งเธอใช้มันหนึ่งผืนสำหรับห่อร่างของเด็กชาย ระมัดระวังที่จะไม่ให้คราบเลือดหรือหยดเลือดโดนตัวเธอ
อลิซจัดการให้แคลร์รออยู่ด้านนอกห้อง เธอไม่ยินดีที่จะให้แคลร์อยู่ใกล้ร่างของผู้ติดเชื้อ และแคลร์เองก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยพึงใจในหน้าที่นี้เท่าไหร่นัก แต่มันก็ยังมีอีกหนึ่งที่อลิซล้มเหลว รอยแผลหนึ่งแผลของแคลร์ – หนึ่งหยดเลือดที่หลั่งออกมา – อลิซมั่นใจว่า ครั้งหน้าเธอจะไม่พลาดแบบนี้
ระลึกย้อนกลับไปที่กระสุนนัดสุดท้าย นัดหนึ่งนั่นที่เกือบจะปลิดชีวิตตัวเอง อลิซหันมองไปที่ผนังห้องทางซ้ายของเธอ และใช่..มันอยู่ที่นั่น หลุมดำเล็กๆที่ถูกสร้างจากแรงกดดันสามปอนด์
อดีตโปรเจ็คนึกภาพเลือดที่กระจัดกระจาย มันคงจะต้องทาผนังจนกลายเป็นสีแดงแน่ๆ - และนั่นก็หนทางที่มันจะเป็นไป ถ้าแคลร์ไม่ได้เรียกชื่อฉัน..
อลิซนำร่างอันเย็นเฉียบขึ้นมา ต้องขอบคุณที่มันไม่ยากลำบากมากนัก กล้ามเนื้อของเธอเกร็งนูนขึ้นเพราะน้ำหนักของคนตาย มันเป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกแย่ที่ต้องยกศพ มันทำให้อลิซรู้สึกย่ำแย่อย่างหนักทีเดียว
พวกเขาถูกวางไว้ในหลุมเดียวกัน ที่บ่งบอกถึงความสำเร็จของการตายของพวกเขา เด็กน้อย มีแม่อยู่ด้านขวา พ่ออยู่ทางซ้าย ขณะที่ผงฝุ่นดินครั้งสุดท้ายได้ถูกวางกลบลงไป ดวงตาของอลิซก็ยังเต็มตื้นไปด้วยน้ำตา แต่เธอก็ปาดมันออกอย่างเงียบๆ ระหว่างเคลื่อนไหวไปทำไม้กางเขน แคลร์มองดูทุกอย่างนั้นอยู่ห่างๆ เธอรับรู้ว่า นั่นเป็นอะไรที่สาวอายุมากกว่าต้องการทำด้วยตัวเอง
สาวผมแดงทำความสะอาดเล็บของเธอด้วยปลายมีด เมื่อเธอรู้สึกกังวลใจจนเกิดอาการบิดมวนในท้อง เธอเงยหน้าขึ้นมองดูอลิซ สาวผมสีน้ำตาลกำลังอยู่ในระหว่างตัดแต่งอะไรอยู่ มันเป็นไม้กางเขนที่มีเสาปลายแหลมสำหรับปักลงกับดิน แคลร์เลิกคิดในเรื่องที่กำลังวิตก จนกระทั่งเธอนับไม้กางเขนที่วางอยู่ใกล้ปลายเท้าทั้งสองของอลิซ สาวอายุน้อยกว่าพาตัวเองเดินตรงไปหาอีกฝ่ายและวางมือข้างหนึ่งของเธอบนบ่าของฝ่ายนั้น หวังเรียกความสนใจ
“อลิซ.. ทำไมทำไม้กางเขนสี่อันล่ะ..”
สาวตัวสูงกว่าเหมือนว่าจะสนใจอยู่แต่กับงานตรงหน้าของเธอ คำตอบโต้ของเธอสามารถพิสูจน์ได้
“อะไรนะ..!”
อลิซมองลงที่ไม้กางเขนที่ปลายเท้าของเธอและจากนั้นก็มองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยท่าทางปกติ การขาดความสนใจทำให้เธอตอบมาได้เพียงว่า.. “ฉันไม่รู้..”
เกิดอะไรกับฉัน ฉันกลายมาเป็นคนบ้าไปแล้วรึนี่.. อลิซคิดระหว่างที่เธอยกเลิกการทำไม้กางเขนนั่น และนำไม้กางเขนสามอื่นที่เหลือขึ้นมา เพื่อจะนำมันไปปักบนพื้นดิน
จุดประสงค์ของไม้กางเขนอันที่สี่ ไม่อาจจะไม่เป็นที่สนใจของแคลร์ มันสำหรับตัวอลิซเอง มโนภาพที่ไม้กางเขนอันที่สี่ถูกปักลงกับพื้นทำให้แคลร์ตัวสั่น แคลร์ไม่แน่ใจว่า อะไรที่เธอจะสามารถรับมันได้ เธอสามารถจะทำทุกอย่างได้เพื่ออลิซ ดังนั้นมันก็เหมือนเธอกำลังถูกฆ่า เมื่อเห็นอลิซเจ็บปวด
เมื่อไม้กางเขนสามอันถูกปักลงกับผืนดินเป็นที่เรียบร้อย โดยไม่มีถ้อยคำใดๆที่เอ่ยพูด สาวผมสีน้ำตาลยอมรับว่า การเสียชีวิตของครอบครัวนี้เหมือนเป็นการบูชายัญ อลิซคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าสมเพช ที่เธอเป็นหนึ่งคนนั้นที่สามารถจับสัญญาสุดท้ายที่ผู้ชายคนนี้ส่งออกไปได้ ก่อนที่เขาจะตัดมันออก เพื่อที่เขาจะได้เป็นคนจบชีวิตของครอบครัวตัวเอง น่าสมเพชที่อลิซต้องเป็นหนึ่งคนนั้นจะเป็นผู้จบชีวิตร่างกายของพวกเขาที่ตายไปแล้วก่อนหน้านั้น เพราะความล้มเหลวของเธอ
- ถ้านี่คือความประสงค์ของพระเจ้า.. ท่านช่างใจร้ายนัก- อลิซคิด
จากนั้นเธอก็หันมองหาแคลร์ที่ยืนสงบเงียบอยู่ข้างๆตัวเธอ เธอค่อยๆบีบกระชับมืออุ่นๆของสาวผมแดงและรู้สึกได้ถึงการบีบกระชับอย่างหนักแน่นกลับมา
- ถ้านี่คือความประสงค์ของพระเจ้า ท่านได้ให้โอกาสที่ดีที่สุดของฉันในโลกที่ท่านกำลังทวงคืน...
To be continue….
1 ความคิดเห็น:
โหย.. อลิซนี่คิดมากได้ตลอดเวลาจริงเลยนะ..
มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ มันเป็นเรื่องนอกเหนือความคาดหมาย.. ไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองต้องเก็บมาคิดมากถึงขนาดนี้เลยนะ.. จริงอยู่ที่มันเครียด.. แต่ในทางหนึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่ช่วยให้พวกเขาทั้งครอบครัวได้พ้นจากความทุกข์ทรมานนี้.. ถือว่าได้ช่วยคนนะ.. แต่อีกทางหนึ่งมันก็นั่นแหละนะ มันคือการฆ่าคนนั่นแหละ ต่างจากการทำลายซากศพเดินได้.. แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วนะอลิซ ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว เธอก็ต้องทำให้ชีวิตที่จะเดินหน้าต่อไปมีความมั่นคงกับใครคนนึงที่อยู่ด้วยกันกับเธอนะ.. คิดถึงเค้าบ้าง รู้มั้ยว่าเค้าจะรู้สึกยังไงเมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้..
คิดมากนี่ยังพอรับได้อ่ะนะ.. แต่ดันสติแตก ทำไม้กางเขนให้ตัวเองซะงั้น ตั้งสติหน่อยนะอลิซ.. เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ เธอยังมีความหมายกับใครอีกคนที่กำลังมองดูเธออยู่ ผู้หญิงคนนั้นสำคัญกับเธอมากไม่ใช่เหรอ.. ถ้าเธอยังเป็นอยู่อย่างนี้ เธอจะปกป้องเค้าได้ยังไง ผู้หญิงที่เธอบอกว่า "ตกหลุมรัก" คนนั้นน่ะ..
ขอบคุณนะคะที่แปลมาให้อ่านทุกวันเลย นี่ถ้าแปลได้เร็วแบบนี้ อีกไม่นานความตื่นเต้นก็จะเข้ามาแล้วสินะ.. อิอิ.. ข้าพเจ้าอดใจรอไม่ไหวแล้วนะเนี่ย.. ฮ่าๆๆๆ
แล้วมาอีกนะคะ.. ข้าพเจ้าจะรอ.. ^^
แสดงความคิดเห็น