2553-12-09

For Hope I Would Give Everything.Ch.3.-Resident Evil Fanfiction [TH]


For Hope I Would Give Everything

Rated: T

English - Romance/Friendship

Fandom: Resident Evil: Afterlife.

Pairing: Alice/Claire

By : startaxriotinme / Fanfiction.net

Translated to Thai : Anhy


Chapter 3 : Gravity

6 พฤษภาคม 11: 36 p.m. Citadel Correctional Facility.

อลิซเทของที่เธอพบในอลาสก้าออกจากถุง เหรียญสีเงินขนาดใหญ่กราดเกลื่อนทั่วไปบนโต๊ะตรงหน้าของเธอ เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้นระหว่างที่มันร่วงกราวลงบนโต๊ะนั่น

ด้านข้างของตัวเธอ มีลูเทอร์ยืนมองเธอตาโตด้วยความสับสน

คุณจะทำอะไรกับของพวกนั้น.. เขาถามอย่างงงๆ

อลิซชำเลืองไปทางที่เขายืนอยู่และใช้มือทั้งสองของเธอเขี่ยของบนโต๊ะให้กระจายออกไปก่อนตอบ มันเป็นงานอดิเรกน่ะ..

งานอดิเรกรึ..? เขาย้อนถาม รอยยิ้มอย่างอึ้งทึ่งเกิดขึ้นบนใบหน้า โอเค..ถ้างั้น.. เจอกันพรุ่งนี้นะ..

เธอพยักหน้าให้เขาแทนการรับรู้และเมื่ออยู่คนเดียว ก็ทำงานของเธอต่อไป นำเหรียญสีเงินขนาดใหญ่บนโต๊ะนั่นมาวางซ้อนกัน ความเบื่อและความเป็นนักประดิษฐ์ของเธอเองทำให้เกิดงานอดิเรกที่ว่านี้ขึ้น เมื่อลูกกระสุนสำหรับปืนของเธอหมด เธอจึงตัดสินใจที่จะหาเรื่องสนุกเล็กน้อยด้วยการใช้อะไรมาทดแทนมัน และเหรียญตรงหน้าเธอก็ทำในสิ่งนั้นได้

เกือบเป็นชั่วโมงต่อมา อลิซเสร็จงานของเธอ เธอเก็บของใส่กระเป๋า แต่เมื่อมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา เธอจึงเงยหน้าขึ้น

แองเจิ้ลนั่นเอง เขาลงมาจากดาดฟ้าคนเดียว

แคลร์ไปไหนซะล่ะ.. เธอถามขึ้นด้วยความรู้สึกห่วงระคนกังวลอย่างกะทันหัน

ความวิตกกังวลในท่าทางของเธอแสดงออกเด่นชัด จนเขาต้องรีบชี้แจง เธอสบายดี.. เธอแค่ต้องการอยู่ข้างนอกนานอีกหน่อยน่ะครับ..

อลิซยิ้มออกมาได้ รู้สึกอายเล็กน้อยในท่าทางที่อ่านออกได้ง่ายของตัวเอง ขอบคุณค่ะ แองเจิ้ล..

ไม่มีปัญหาครับ.. เขาตอบอย่างสุภาพ หลับให้สบายนะครับ..

คุณก็ด้วยนะ.. เธอก็โต้กลับด้วยน้ำเสียงสุภาพไม่แพ้กัน

ระหว่างที่ยืนมองเขาจากไป อลิซต้องพยายามสะกดใจตัวเองไม่ให้รีบร้อนวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า หลายปีที่เธออยู่ตามลำพัง ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆกับผู้คน คล้ายๆไม่ไว้ใจ และเธอก็รับไม่ได้ด้วยกับความคิดที่ว่าจะต้องเสียแคลร์ไป คนคนเดียวและคนสุดท้ายที่ผูกพันกับเธอ ถึงจะรู้ดีว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหล่อน แต่อลิซก็ไม่สบายใจ จนกว่าจะได้เห็นด้วยสายตาตัวเองว่า สาวผมแดงคนนั้นปลอดภัยดีจริงๆ

อลิซรอจนกว่าแองเจิ้ลจะลับตาไป แล้วเธอจึงรีบเดินไปตามทางที่เธอต้องการ แต่พยายามควบคุมตัวเองเอาไว้

ประตูเหล็กบานหนาส่งเสียงดัง เมื่อเธอเปิดมันออกไป เพื่อขึ้นไปยังดาดฟ้า ที่นั่นอาบไปด้วยแสงจันทร์เต็มดวงที่ส่องลงมาจากฟากฟ้าเบื้องบน และเธอก็ได้พบกับสายลมเย็นสบายระหว่างที่เธอก้าวเดินออกไปจากประตู สายตาของอลิซมองหาแคลร์ในทันที และเธอก็ได้เจอสาวคนนั้นในเวลาไม่นาน แคลร์ยืนอยู่ขั้นบนสุดของบันได สายตาเธอมองทอดไปยังทิศทางของอาร์คาเดีย

ความกลัวที่ไร้สาระของเธอถูกทำให้หายไป อลิซตัดสินใจจะเดินกลับ แต่แคลร์ซึ่งได้ยินเสียงเปิดประตูก็กำลังมองลงมาจากจุดของเธอ ยังสาวอายุมากกว่า

เป็นไปอย่างที่คิด-เธอคิด- และตอนนี้เธอก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นที่ต้องทำ อลิซจึงพาตัวของเธอขึ้นบันไดไปหาสาวอีกคน

เฮ้.. แคลร์ทักทายอย่างอบอุ่น มีอะไรเหรอ..

เปล่า.. อลิซปด ไม่มีอะไรทำน่ะ..

มันคงเป็นข้อแก้ตัวที่ดีพอสมควร เพราะแคลร์ก็หันกลับไปหาทิศทางที่เรือนั้นจอดอยู่โดยไม่ถามอะไรต่อ อลิซจึงขยับตัวของเธอ เพื่อให้ไปยืนอยู่ตรงจุดที่สามารถเห็นอะไรได้ดีขึ้น ขณะที่เธอทำแบบนั้น มือข้างหนึ่งของเธอก็บังเอิญไปสัมผัสกับหลังของสาวผมแดงข้างๆ

ถ้าแคลร์สังเกตการสัมผัสของเธอ หล่อนก็คงจะไม่มีปฏิกิริยาแบบนี้ สายตายังคงมุ่งมองตรงไปข้างหน้าและพูดขึ้น มันทำให้ฉันประสาทเสียที่ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นตรงนั้น ฉันหวังว่าเราคงจะหาทางออกจากที่นี่ได้..

ฉันก็คิดแบบนั้น.. อลิซเห็นด้วย ฉันยังหาทางแก้ไขความยุ่งยากนี้ไม่ได้เลย..

แคลร์ชำเลืองตามองมาหาเธอ ใครบอกว่า..มันเป็นงานของเธอ..

มันเป็นความผิดของฉัน ที่ทำให้เราติดอยู่ที่นี่.. อลิซตอบพร้อมยักไหล่อย่างเสียไม่ได้

แคลร์หันหลังกลับและพิงแผ่นหลังกับราวเหล็กด้วยการใช้ข้อศอกทั้งสองช่วยพยุงตัวเธอ นาทีนั้น..แคลร์คนเดิมคล้ายจะฉายรัศมีออกมา ท่าทางของเธอตอนนี้เป็นอะไรที่แสดงถึงความมั่นใจในตัวเอง เหมือนครั้งนั้นในเนวาดาที่ทำให้เธอสามารถโดดเด่นจนเป็นผู้นำ และอลิซก็ถูกดึงดูดด้วยความเซ็กซี่แบบนั้น

เธอถูกทำให้วอกแวกด้วยสิ่งที่ได้เห็น ความจริงเธอถูกทำให้ตื่นจากภวังค์ด้วยสิ่งที่แคลร์พูดต่อมา

โทษตัวเองทุกอย่างตามเคยสินะ..

อลิซเปิดปากเพื่อจะโต้ตอบและปิดมันอีกครั้ง เมื่อระลึกได้ว่าเธอไม่มีอะไรจะพูดดีกว่านี้ เธอบอกตัวเองตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาว่า การระบาดของไวรัสนี้มันเป็นความผิดของเธอ การขยายตัวของมันก็เหมือนกัน และอะไรอย่างอื่นก็ด้วย แต่ถ้าคิดจะโต้เถียงกับผู้หญิงคนนี้ล่ะก็มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย และมันก็ไม่สามารถจะช่วยแก้ไขอะไรได้ เมื่อความทรงจำของแคลร์กลับคืนมา หล่อนก็คงจะโทษเธอด้วยเหมือนกัน และส่วนหนึ่งนั่นก็คือ เธอเป็นคนส่งคนของแคลร์ออกไปเผชิญหายนะในอลาสก้า

มือหนึ่งมาวางลงบนท่อนแขนของเธอ และเธอก็เงยขึ้นมองเข้าไปในดวงตาของแคลร์ มันอ่อนโยนและสุภาพ

ดูสิ.. เราจะหาทางออกให้ได้.. โอเค..? แคลร์กล่าวและปล่อยให้นิ้วของเธอค่อยหล่นลงจนกระทั่งมันสัมผัสกับของอลิซ ฉันพูดว่า.. เรานอนที่นี่ และตื่นที่นี่เพื่อวันพรุ่งนี้ที่สดใส..

อลิซยอมแพ้ ฉันก็ว่า..เธอถูกนะ..

ใช่..ฉันถูก..

หลังจากนั้น แคลร์ก็เริ่มก้าวลงบันได อลิซส่ายศีรษะของเธออย่างเสียไม่ได้ก่อนจะเดินตามหลังสาวผมแดงคนนั้น ในใจสงสัยว่าเจ้าหล่อนจะหยุดทำเรื่องประหลาดใจกับเธอเมื่อไหร่ แต่เธอก็ได้แต่สงสัยมันต่อไป

เธอตามหล่อนขึ้นไปบนดาดฟ้าและเดินลงมาด้วยกันสู่ห้องขัง ภายนอกห้องโถงกลางมีทางเดินที่เต็มไปด้วยห้องขัง ซึ่งก็มีผู้รอดชีวิตคนอื่นครอบครองแล้ว ในทิศตรงกันข้ามมีสองห้องว่างและสะอาด อลิซจึงหยุดตรงนั้น

สังเกตเข้าไปด้านในห้อง มีเตียงขนาดเล็ก ผ้าห่มเก่าๆ และหมอนบางๆ ที่เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกที่พอจะมีให้ใช้ได้ อลิซเอ่ยขมขื่นออกมาแบบทีเล่นทีจริง อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีอะไรให้น่าดูบ้างนะ..

แคลร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ พร้อมเอ่ยตอบ เตียงก็คือเตียงนั่นล่ะน่า..

จากสิ่งที่เห็นก็ประเมินได้ว่า นอนเตียงเล็กๆก็ยังดีกว่านอนบนพื้น และอย่างน้อยที่สุด เธอก็สามารถนอนค้างแรมโดยปราศจากความกลัวว่าจะโดนจู่โจม ไม่ต้องไปนอนขดตัวอยู่ในห้องนักบินด้วย

มองในแง่ดีตามเคยสินะ.. อลิซหยอกพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก ฝันดีนะ..แคลร์..

โดยไม่ได้รอการโต้ตอบ อลิซก็เดินเข้าห้องและตรงไปยังเตียงเล็กๆนั่น ยังไม่ได้ทันทีที่จะได้ทำอะไร นอกจากหันหลังกลับ ความฉงนใจฉาบขึ้นบนใบหน้าของเธอ ใช่..แคลร์เดินตามมา

จะทำอะไรน่ะ..

ก็ดูให้แน่ใจว่า..เธอหลับจริง.. สาวผมแดงเอ่ยตอบ ราวกับว่ามันเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด เธอก้าวขึ้นเตียงเล็กๆนั่นโดยใช้แผ่นหลังพิงกำแพงและเหลือที่ว่างไว้ให้อลิซได้ขึ้นมานอนด้วย มันแคบและต้องใกล้ชิด

ฉันไม่ต้องการให้เธอมาดูแล..

ก็ได้.. ถ้างั้นฉันจะบอกว่า..ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว..

แคลร์..

ดวงตาสีฟ้าอมเขียวมองจ้องตรงมายังเธออย่างมั่นหมาย มานี่เดี๋ยวนี้.. ฉันไม่กัด..

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ฉันห่วงนี่นา....

แต่อะไรกันล่ะที่เธอห่วงอยู่..? ใกล้ชิดใครบางคนเหรอ..? เรื่องนั้นมันหายไปจากหน้าต่างของเธอนานมาแล้ว แต่เสียงเล็กๆในหัวของเธอบอกเธอว่า..มีสาวสวยคนหนึ่งกวักมือเรียกเธอให้ขึ้นเตียง ดังนั้นเธอก็แค่..รับข้อเสนอนั้น

เธอไม่เคยคิดว่า ฉันเป็นประเภทไม่นอนกับใครที่ไม่รู้จักบ้างเหรอ.. อลิซพูดขึ้นระหว่างนั่งลงกับเตียง คลี่ผ้าห่มคลุมตัวทั้งเธอและอีกคน เธอนอนหันหลังให้แคลร์ พยายามจะทำตัวให้สบายที่สุดสำหรับพื้นที่ที่จำกัดเช่นนี้

สาวผมแดงโต้ตอบกลับมาจากด้านหลังเธอ มันสนุกนะ เพราะเธอก็ไม่เคยคิดว่าฉันเป็นประเภทพวกชอบพูดมากบนเตียง..

และนี่ก็ทำให้เกิดเสียงหัวเราะอย่างจริงใจออกมาจากอลิซ "Touché."

ทั้งสองนอนเคียงกันอย่างเงียบๆหลายนาที กระทั่งแคลร์พูดขึ้น เตียงนี้มันแคบจังนะ..

อลิซเหลียวมองสาวอายุน้อยกว่าแล้วเอ่ยตอบ มันเป็นความคิดของเธอนะ..

ฉันรู้น่า.. และฉันมีวิธีดีกว่านี้..

แขนแข็งแรงข้างหนึ่งโอบตรงกลางลำตัวของอลิซ อะไรบางอย่างหยุกหยิกอยู่ตรงแผ่นหลัง กระทั่งเธอถูกดึงตัวไปติดกับด้านหน้าของตัวแคลร์ ร่างกายของสาวผมแดงอบอุ่นและนุ่มนิ่ม อลิซสาบานได้เลยว่า เธอรู้สึกถึงริมฝีปากสะกิดโดนผิวของเธอขณะที่แคลร์วางใบหน้าของหล่อนไว้ตรงซอกคอ ตำแหน่งการนอนใหม่นี้ สร้างความสบายขึ้นสำหรับการนอนร่วมกัน

ฝันดีนะ..อลิซ..

คำที่กระซิบออกมา ทำให้เธอขนลุก ในใจหนึ่งของเธอ..อลิซนึกดีใจที่แคลร์ดื้อมากๆแบบนี้ ความใกล้ชิดแบบนี้เป็นความต้องการอย่างลับๆของอลิซมาตั้งแต่ตอนอยู่อลาสก้าด้วยกัน แต่เธอก็หยิ่งมากกว่าที่จะถามหามัน มันช่างทำให้รู้สึกมหัศจรรย์นัก

และนี่ก็เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่การนอนหลับกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอ

%%%%%%%

เฮ้..อลิซ-----

อลิซลืมตาขึ้นอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยและมองไปยังทางเดิน นั่นคือลูเทอร์ที่เป็นเจ้าของเสียงพูด แต่เมื่อเขาเห็นแคลร์นอนพิงอยู่ด้านหลังเธอ เขาก็อ้ำอึ้ง

เขาติดอ่างทันที โอ้.. ขอโทษที..

อลิซหัวเราะเบาๆ ไม่เป็นไร.. ต้องการอะไรเหรอ..

ผมมีบางอย่างจะทำให้คุณประหลาดใจ..

เธอเลิกคิ้วขึ้นแล้วถาม ฉันไม่ได้ประหลาดใจอะไรง่ายๆนะ..

แคลร์ส่งเสียงค้านลงกระทบคอของเธอและพึมพำออกมา เช้าไปนะ..

อลิซลุกขึ้นนั่งและบังคับให้แคลร์ต้องลุกตามด้วย เธอหันไปมองหน้าสาวผมแดงที่ยังสายตาพร่าเบลอเพราะความง่วงด้วยรอยยิ้ม

ลูเทอร์มีเรื่องเซอร์ไพรส์เราน่ะ..

โอ้..อันที่จริง.... ลูเทอร์เริ่มต้นขึ้น แต่เมื่ออลิซมองไปยังเขา เขาก็หยุด

มีอะไรรึ..? อลิซถาม

เขากลอกตาไปมาระหว่างเธอทั้งสอง แล้วส่ายศีรษะ เปล่า.. ไม่มีอะไรหรอกครับ.. ตามผมมาคุณผู้หญิง..

เขาหายไปยังทางที่ไปสู่ห้องโถงใหญ่ และเมื่อลุกขึ้นจากเตียงได้ด้วยการบิดตัวผ่อนคลายร่างกายเล็กน้อย พวกเธอก็เดินตามหลังเขาไป แต่ระหว่างที่จะเว้นระยะห่างจากเขาพอสมควร แคลร์ก็บ่นบางอย่างออกมาเบาๆ นายนี่ทำตัวเหมือนหนาม..

อลิซไม่แน่ใจนักว่า เธอควรจะหัวเราะกับคำนั้นหรือตักเตือนแคลร์ดี ดังนั้นเธอจึงปล่อยมันไป

ลูเทอร์นำพวกเธอผ่านทางเดินเข้าไปไม่นานก็เจอประตู ด้านในเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ทันทีที่ไปถึงก็เห็นอ่างล้างหน้าเป็นแนวยาว ห้องอาบน้ำ เดินผ่านอ่างล้างหน้าเข้าไปก็เจอเสาเหล็กขนาดใหญ่มีฝักบัวอยู่ด้านบน

พอไปถึงที่นั่น ลูเทอร์ก็หยิบผ้าขนหนูมาสองผืน และอธิบาย เรายังมีน้ำใช้อยู่นะ..

ดูมีอารยธรรมดีนะ.. แคลร์สวนขึ้น เมื่อทั้งหมดขยับเข้าไปใกล้เสาต้นหนึ่ง

เราทำดีที่สุดแล้วครับ.. ลูเทอร์ตอบและเปิดก๊อก สายน้ำไหลออกมาอย่างสม่ำเสมอ

อลิซเอื้อมมือขึ้นหาสายน้ำนั่น ไม่รู้สึกประหลาดใจที่น้ำเย็นจัด

มันเย็น.. เธอเอ่ย

ดีที่สุดก็เราก็เท่านี้ล่ะครับ.. เขาเอ่ยต่อและยื่นส่งผ้าขนหนู นี่สำหรับพวกคุณ ผมไม่แน่ใจว่า ใครจะอาบก่อน..

ก่อนที่อลิซจะเอ่ยตอบ แคลร์ก็เอ่ยขึ้นแทรก มันไม่จำเป็น..

ลูเทอร์ขมวดคิ้วอย่างตกใจ มองอลิซอย่างครุ่นคิด

สาวผมแดงยักไหล่ แต่เมื่อเธอเอ่ยชี้แจง น้ำเสียงแสดงถึงความเบื่อหน่ายออกมา เค้าเคยเห็นฉันเปลือยมาก่อน.. มันไม่ใช่เรื่องใหญ่..

ตาของลูเทอร์เบิกโตยิ่งกว่าเดิมและเขาก็มองไปยังอลิซ หวังได้รับการยืนยัน

ขอบคุณนะ.. อลิซกล่าว แต่ฉันคิดว่า..เราสองคนทำมันได้..

งั้นเหรอ.. งั้นผมคิดว่า..ผมควรจะปล่อยให้พวกคุณจัดการต่อไป..

อลิซชำเลืองหาแคลร์ซึ่งกำลังทำท่าทางน่ากลัว เธอจึงเอ่ยขึ้น ฉันคิดว่า..คุณควรทำแบบนั้น..

เขามองเธอสองคนไปมาอีกรอบและพูดขึ้น ผมไปคอยข้างนอกล่ะกันครับ..

เธอมองดูเขาจากไป แล้วส่ายศีรษะ เมื่อเธอหันกลับมายังแคลร์ สาวผมแดงกำลังจ้องตาถมึงทึงไปยังทางที่หนุ่มคนนั้นจากไป อลิซไม่แน่ใจนักว่าแคลร์มีปัญหาอะไรกับลูเทอร์ แต่อย่างน้อยมันก็น่าขำดี

เธอจำเรื่องอลาสก้าได้แล้วเหรอ.. อลิซถามขึ้น สาวอายุน้อยกว่าเหมือนจะค่อนข้างอาการดีขึ้นจากเดิม มันทำให้เธอสงสัยว่าหล่อนจะจำเรื่องระหว่างกันได้บ้างหรือไม่

แคลร์เผยยิ้มที่มุมปากระหว่างเริ่มถอดเสื้อผ้า เธอเตะรองเท้าออกและวางมันไว้ข้างๆ ถอดเสื้อคลุมหนัง เอาไปแขวนไว้กับราวเหล็กใกล้ๆ

ฉันจำได้ว่าเธอเรียกฉัน..คนสวย.. สาวผมแดงเริ่มต้นเล่า โดยหันหลังให้อลิซ เธอหันกลับมาและจับขอบเสื้อตัวเอง และฉันจำได้ว่า..เธอถอดเสื้อผ้าฉัน..

ก็เธอเลอะเทอะ.. ฉันปล่อยเธอไว้แบบนั้นไม่ได้..

อ้อ..เหรอ..

นำเสื้อออกจากตัวเรียบร้อย แคลร์ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอ มีเพียงบราสีดำและกางเกงรัดรูปของเธอ

อลิซไม่สามารถที่จะหยุดสายตาตัวเองไม่ให้โลมไล้เรือนร่างของหญิงสาว แม้เธอจะต้องการอยากทำ และเมื่อสายตาเธอกลับคืนมามองยังใบหน้าของคนตรงหน้า แคลร์เลิกคิ้วข้างหนึ่งให้เธอ

มือทั้งสองข้างของสาวผมแดงขยับลงมาตรงซิบกางเกงของเธอและค่อยๆรูดมันลง นาทีต่อมาแคลร์ค่อยๆดึงกางเกงลงจากสะโพกและถอดมันออกในที่สุด จากนั้นก็นำมันไปแขวนไว้ที่ราวเหล็กเหมือนที่ทำไปเมื่อครู่ ขณะที่ยังหันหน้าไปทางอื่น เธอใช้นิ้วปลดกางเกงชั้นในและดึงมันออกจากตัว โชว์สัดส่วนอันงดงามตรงด้านหลังเรือนร่าง

เธอรู้มั้ยว่า.. เอาแต่จ้องฉันแบบนั้น ไม่ได้ทำให้เสร็จเร็วขึ้นหรอกนะ.. แคลร์เอ่ยขึ้นและหันมองมาทางอลิซ และฉันก็ไม่รู้นะว่าเธอเป็นยังไง แต่ฉันไม่อยากให้ลูเทอร์เข้ามาเช็คเรา..

เมื่อสามารถหลุดออกมาจากภวังค์นั้นได้ อลิซก็หันไปทางอื่นและเริ่มปลดเปลื่องเสื้อผ้าของเธอเช่นกัน เธอบ่นว่าตัวเองเงียบๆที่ทำตัวเหมือนพวกวัยรุ่นฮอร์โมนพุ่งพล่าน แต่บางอย่างจากท่าทางของแคลร์บอกมาว่า สาวอายุน้อยกว่า กำลังเพลิดเพลินกับปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ บางทีหล่อนอาจจะตั้งใจ

บ้าจริง.. แคลร์ร้องขึ้นขณะที่เธอเดินเข้าไปใต้ฝักบัว สายน้ำรดลงบนร่างกายของเธอ มันเย็นสุดยอด..

ถอดเสื้อผ้าของตัวเองเรียบร้อย อลิซจึงขยับเข้าไปในส่วนที่อาบน้ำของเธอ และขอบคุณพระเจ้าสำหรับมัน เธอหลับตาลงและปล่อยให้สายน้ำราดรดศีรษะ พยายามไม่คิดถึงสาวผมแดงร่างกายเปล่าเปลือยคนนั้นและมันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า

ระหว่างที่เธอเอาแต่เงียบอยู่ แคลร์ถามขึ้น เธอโอเคมั้ย..อลิซ..?

อลิซชำเลืองตามายังแคลร์ สายน้ำไหลรินลงสู่เรือนร่างของแคลร์อย่างค่อยเป็นค่อยไป ยังผลให้ผิวพรรณที่ขาวนวลของเธอเป็นประกายเปล่งปรั่งเพราะละอองน้ำ

สบายมาก.. อลิซตอบกลับ แต่ในใจนึกไปว่านี่เป็นความทรมานที่มากกว่าการใช้ชีวิตคนเดียวสิบแปดเดือนที่ผ่านมาเสียอีก

การอาบน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็วเพราะพวกเธอก็ไม่ได้อยากอยู่ในน้ำเย็นๆนานมากนักเหมือนกัน ทั้งสองเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนูของตนและแต่งตัว ถึงจะยังคงเหลือความรู้สึกร้อนรุ่มอยู่ภายในใจก็ตาม อลิซก็ยังดีใจที่ว่าอย่างน้อยตัวเธอก็สะอาดขึ้น เธอคิดไปว่า เธอยอมทุ่มทุนสร้างทันทีหากจะสามารถให้มีสบู่และแชมพูมาไว้ใช้ด้วย มันน่าสนุกดีเหมือนกันที่ได้คิดอะไรในแง่ดีซะบ้าง

เมื่อเธอทั้งสองมาถึงห้องโถง ลูเทอร์ก็ผละออกจากกำแพงมาและยิ้มให้พวกเธอ

อาบน้ำสนุกดีมั้ยครับคุณผู้หญิง..? เขาถาม

อลิซชำเลืองมองแคลร์และพูดตอบ ค่ะ..ขอบคุณ..

ผมหวังว่ามันคงไม่เย็นมากไปสำหรับพวกคุณนะ.. เขาเอ่ยเพิ่มเติมขณะพากันเดินกลับเข้าที่พัก

ฉันคิดว่าอลิซคงไม่ว่าอะไรหรอกถึงมันจะเย็นกว่านี้.. แคลร์แทรกขึ้น เผยยิ้มที่มุมปาก และประกายตาขี้เล่นในดวงตาสีฟ้าอมเขียว ใช่มั้ยล่ะ..

ลูเทอร์มองไปมองมาระหว่างสาวสองคน ก่อนที่จะหยุดสายตาของเขาลงตรงอลิซ ฉงนใจกับประโยคกล่าวของสาวผมแดง

มันหมายความว่าอะไรเหรอครับนั่น..

ไม่มีอะไรหรอกค่ะ.. อลิซตอบ แค่เรื่องโจ๊กน่ะ..

โอ้..จริงเหรอ.. แน่นอน..

สองสาวมองประสานสายตากันและกัน จากนั้นก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา ไม่นานพวกเธอก็พากันออกจากจุดนั้น เพื่อกลับห้องพัก ทิ้งลูเทอร์ไว้กับความงวยงงบนใบหน้าของเขาเอง

%%%%%%%%%%%%

คืนนั้น ทั้งสองนอนในห้องด้วยกัน อลิซรู้สึกได้เลยว่าริมฝีปากของคนด้านหลังสัมผัสกับใบหูของเธอโดยเจตนา และยังมีการแกล้งอย่างอื่นอีก คือต้นขาข้างหนึ่งของแคลร์แทรกเข้ามาอยู่ระหว่างกลางขาทั้งสองข้างของเธอ ระหว่างที่หล่อนขยับตัวให้สบายขึ้น และหากไม่กังวลว่าจะมีคนอื่นๆที่นี่เห็นล่ะก็ อลิซคงจะจับแคลร์กดกับที่นอนแล้วแก้แค้นหล่อนให้สาสมกับความทรมานแบบนี้ที่ได้เจอ แต่ในตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงเกาะเกี่ยวมือและนิ้วเข้าไว้ด้วยกันกับอีกฝ่าย และขยับตัวเข้าซุกเข้าหากันในอ้อมกอด

ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนไปหรอก.. พวกเธอยังมีเวลาอีกมากในโลกใบนี้..

To be continue…..

1 ความคิดเห็น:

[ Lightning ] กล่าวว่า...

โอ้ว.. ตอนใหม่มาเร็วปานสายฟ้าแลบ.. ข้าพเจ้าก็โฉบมาอ่านอย่างรวดเร็วเหมือนเดิมค่ะ.. อิอิ

แหมะ.. ห่างกันไม่ได้เลยนะอลิซ ต้องถามหาตลอด แถมยังต้องเก๊กไว้ไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นห่วงสาวอีกแน่ะ ถึงได้รอให้แองเจิ้ลไปแล้วค่อยออกไปหาแคลร์อ่ะ.. อิอิ..

แต่ที่สำคัญมากกว่านั้น.. แคลร์ขี้แกล้งมาก ขี้แกล้งสุดๆ ข้ออ้างการมานอนกับอลิซก็นะ.. ฟังขึ้นมากอ่ะ.. "ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว".. แหมๆๆๆ.. อยากนอนกับเขาก็บอกมาดีๆนะแคลร์.. อิอิ.. แล้ววิธีแก้ไขในการใช้ที่แคบๆนอนด้วยกันสองคนนี่ก็สุดยอดจริงๆอ่ะ เป็นแผนหลอกแต๊ะอั๋งได้แนบเนียนมาก.. ฮ่าๆๆ

ว่าแต่.. อีนังลูเทอร์!!!!!!.. อีบ้า!!!!!.. เข้ามาทำไมกันยะ คนเขากำลังนอนซุกกันสบายเลยอ่ะ ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ สมองมีไว้ให้หนังหัวกับกะโหลกหุ้มจริงๆ.. เซ็ง!!!.. ขัดจังหวะตลอด.. แง่งงงงงง!!!!!..

แต่ก็ยังดีที่พาสองสาวไปหาของเล่นใหม่ ทำให้ได้เห็นอลิซแทบบ้า.. ฮ่าๆๆๆ.. แคลร์ก็เนาะ ช่างจะยั่วจริงๆเลยอ่ะ ถอดเสื้อผ้ายังกะสาวโคโยตี้เต้นอาโกโก้.. ฮ่าๆๆๆ.. ทีละชิ้น ทีละชิ้น แถมยังมาแลตามองอีก.. อ่อยเต็มที่เลย ขอบอก.. อิอิ.. ทำเอาอลิซต้องใช้น้ำเย็นเข้าข่มอารมณ์เลยอ่ะ น่าสงสาร แต่ระวังไว้เถอะ ทำแบบนี้บ่อยๆจะโดนแก้แค้น.. ฮ่าๆๆๆๆ

ขอบคุณนะคะไรเตอร์ ตอนใหม่นี่แอบตื่นเต้นเล็กน้อยนะคะเนี่ย เมื่อไหร่ถึงจะถึงตอนเลือดฉูบฉีดกันน้า (อ๊ะ.. ไม่ใช่ๆ หมายถึงตอนที่ตื่นเต้นอะไรทำนองนั้นน่ะ.. อิอิ).. มาต่อไวไวนะจ๊ะ.. เป็นกำลังใจให้เสมอจ้า.. ^^

fiction Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...