The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.17
Pairing : Anh x Shizuru x Alyssa
Rate : M
Genre : Drama - Romance
By : Anhy
The Dark side of mine. - 6 : Anh’s POV
ถึงฉันจะพร่ำบอกกับตัวเองว่า เรื่องของฉันกับน้องมันจบลงแล้ว ตั้งแต่ที่น้องทิ้งฉันไว้ในห้องนอนคนเดียวโดยไม่ยอมบอกลาฉัน ฉันพยายามคิดว่า ในเมื่อน้องต้องการแบบนั้น ฉันก็จะยอมให้น้องได้อย่างที่เค้าต้องการ แต่ฉันก็รู้ว่า จริงๆแล้วใจฉันมันไม่เคยยอมรับมัน ฉันยังคงต้องการน้องอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเค้าจะต้องกำลังต้องการฉันอยู่หรือไม่.. ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเค้า..
ชิซึรุ.. พี่รักเธอ..
ฉันกำลังนั่งจับปากกาเพื่อเซ็นเอกสารงานต่างๆที่ฉันกำลังเริ่มกลับมาดูแลมันในฐานะของประธานบริษัท ฉันอยากจะจัดการมันให้เรียบร้อย หลังจากที่ฉันรับงานคืนมาจากท่านพ่อที่ท่านดูแลแทนให้ฉันชั่วคราวเมื่อครั้งที่ฉันเสียสติแบบนั้น ฉันไม่ได้อยากทำเพราะฉันพยายามจะเป็นคนดีที่ทุกคนต้องการให้ฉันกลับคืนมาเป็นแบบนั้นอีกครั้ง ที่ฉันยอมทำก็เพราะฉันต้องการจะลดความฟุ้งซ่านในใจฉันเอง ที่เฝ้าคิดถึงแต่น้องสาวสุดที่รักของฉัน เจ้าหญิงของฉัน..
กองแฟ้มเอกสารที่ตั้งอยู่เกือบเต็มพื้นที่ของโต๊ะทำงานไม้ขนาดใหญ่ของฉันมันเพิ่งจะถูกฉันจัดการไปไม่ถึงครึ่ง และแล้วมือฉันก็สั่นจนไม่สามารถจะขีดเขียนอะไรไปได้อีก น้ำตาฉันหล่นลงเปียกกระดาษเอกสารตรงหน้าของฉันเอง ความโมโหกับอาการที่ฉันไม่ควรเป็นทำให้ฉันฉีกกระดาษแผ่นนั้นทิ้งไป ฉันเรียกฮารุกะมาทำมันใหม่ให้ฉัน หลังจากที่ฉันปาดน้ำตาจากความบ้าๆบอๆนั่นออกจากหน้าตัวเอง ฉันไม่ต้องการให้ใครมาเห็นความน่าสมเพชแบบนี้ของฉัน ฉันจะเก็บกดมันเอาไว้ถึงมันจะปวดอยู่ที่หัวใจตลอดก็ตาม ฉันจะพยายามไม่คิดถึงมัน
แต่ระหว่างนั่งรอลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของฉันทำเอกสารใหม่มาให้ ฉันก็นั่งหันหลังให้โต๊ะทำงานและเดินไปเปิดผ้าม่านหน้าต่างห้องที่อยู่ด้านหลังของห้องทำงานนั่น มองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อให้จิตใจสงบขึ้น แต่สิ่งที่ฉันเห็นมันเหมือนมาเพิ่มอาการเจ็บที่หัวใจให้ฉัน ..ชิซึรุ..
น้องกำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ เค้ากำลังก้มหน้าและใช้มือข้างหนึ่งยันตัวเองไว้ ถึงมันจะไกลแบบนั้น แต่ฉันก็มองเห็นเค้าได้ชัด กระทั่งรู้ว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ ตัวของชิซึรุสั่นเหมือนกำลังร้องไห้อย่างหนัก เค้าเหมือนไม่มีแรงจะยืนด้วยซ้ำ ฉันตกใจมากที่เห็นน้องเป็นแบบนั้น ฉันก็เลยรีบออกจากห้องทำงานตัวเองไป กึ่งเดินกึ่งวิ่งสวนกับฮารุกะที่กำลังจะเอางานที่ฉันสั่งมาให้ ฮารุกะตะโกนเรียกตามหลังฉันมา แต่ฉันไม่สนใจ ตอนนี้ฉันสนใจแต่น้องของฉันเท่านั้น
ชิซึรุ.. เธอร้องไห้ทำไม.. เสียใจอะไรอยู่เหรอ.. คิดถึงพี่บ้างมั้ย..
ฉันวิ่งลงจากบันได้บ้านชั้นสองที่ห้องทำงานฉันอยู่ที่นั่น เพื่อไปหาน้อง ไปดูเค้าว่าเค้าเป็นอะไร แต่..เค้าไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว น้องหายไปไม่มีวี่แววเลย ความเร็วของตัวฉันยังไม่ทันที่น้องจะหนีจากฉันไป ทำไมฉันรู้สึกปวดที่หัวใจแบบนี้กันนะ เหมือนมีใครเอาอะไรมาหนีบบีบหัวใจของฉัน ตอนนี้ฉันเหมือนคนเป็นโรคหัวใจเข้าไปทุกที แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ละความพยายามที่จะตามหาเค้า
ชิซึรุมีที่ไม่กี่ที่ ที่เค้าจะไปเวลาเค้าร้องไห้แบบนี้ เค้าคงจะไม่ได้ไปห้องแล็ปที่มีคนมากๆอยู่หรอก น้องฉันไม่ชอบทำตัวอ่อนแอให้ใครเห็น นอกจากคนที่เค้ารักหรือไว้ใจ เค้าจะยอมเจอหน้าคนอื่นก็ต่อเมื่อเค้าดูดีมากพอแล้ว ฉันรู้จักเค้าดี และคงจะดีกว่าที่ฉันรู้จักตัวฉันเองเสียอีก ทำไมนะหรือ เพราะว่า..ฉันสนใจเค้ามากกว่าที่ฉันจะสนใจตัวของฉันเอง ฉันรักเค้ามากกว่าที่ฉันรักตัวของฉัน หัวใจของฉันตอนนี้ มันอยู่ที่เค้าหมดแล้ว ไม่ใช่แค่วิญญาณที่เราใช้ร่วมกันอยู่ ฉันกำลังรู้สึกว่า ฉันกับเค้าเป็นคนเดียวกัน นับตั้งแต่คืนที่ฉันกับเค้ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันทางร่างกาย และฉันคิดว่า เค้ากับฉัน ไม่ใช่แค่พี่น้องกันอีกต่อไป ...เรารักกัน...
แต่เหมือนชิซึรุจะไม่คิดแบบเดียวกันกับที่ฉันคิด เค้าออกปากไล่ฉันเองตอนที่ฉันไปหาเค้าเจอในห้องทำงานของเค้า ฉันพยายามเดินเข้าหาแต่เค้าก็ถอยห่างไป ทำท่าเหมือนรังเกียจและปัดมือฉัน ทั้งที่ฉันไม่ได้อยากจะทำอะไรเค้า มากกว่าการสัมผัสหน้าผาก เพราะอยากรู้ว่าเค้ายังสบายดีมั้ย หน้าตาเค้าแดงก่ำโดยเฉพาะขอบตา และดูอ่อนแรงจนน่าใจหาย น้องเหมือนคนป่วยหนัก แต่เค้าปฏิเสธการดูแลจากฉัน มันเกิดอะไรขึ้นกับเค้ากันแน่ ฉันไม่เข้าใจ ทั้งที่สายตาของเค้าที่มองฉันอยู่นั่น มันก็บอกออกมาอยู่แล้วว่า..เค้ารักฉัน แต่ทำไมเค้าปฏิเสธมันแบบนี้..
ความสับสนในใจ กับความรู้สึกเจ็บปวดหัวใจของฉัน มันผลักดันให้ฉันโมโหมากจนหยุดไม่อยู่ และฉันก็ปล่อยให้ด้านมืดของฉันออกมาอีกจนได้ หัวใจที่อ่อนแอของฉันพ่ายแพ้ให้แก่ปีศาจในตัวฉัน ฉันเข้าไปดึงตัวชิซึรุมากอดจนได้ถึงเค้าจะพยายามหนี เค้าพยายามจะหายตัวไป แต่เค้าก็ไปไม่ทันฉัน แวมไพร์อ่อนหัดอย่างชิซึรุหรือจะสู้ฉันได้ ว่ากันตามตรง ความเป็นมนุษย์ที่ชิซึรุมีอยู่ครึ่งหนึ่งซึ่งมากกว่าฉัน มันทำให้เค้าแพ้ ฉันรัดตัวเค้าไว้ให้แน่น ไม่ให้หนีไปไหนได้อีก ฉันไม่สนใจว่าเค้าจะใช้มือของเค้าทั้งสองข้างทุบตีตัวฉันให้ฉันปล่อย แต่มันไม่มีทาง ฉันพร่ำบอกกับเค้าว่า ฉันรักเค้า อยากให้เค้าอยู่กับฉัน ความเห็นแก่ตัวของฉัน มันแสดงออกมาอย่างเต็มที่ เมื่อด้านมืดของฉันชนะด้านสว่าง ฉันไม่สนใจใคร ฉันหมดความแคร์ที่มีให้ทุกคน แม้กระทั่งคนที่ฉันเห็นเค้าเป็นน้องสาวคนหนึ่ง เป็นครอบครัว ฉันไม่แคร์นัทสึกิเลย เพราะฉันอยากได้ชิซึรุ ชิซึรุต้องเป็นของฉันคนเดียว แต่พอชิซึรุเลิกดิ้นรนออกจากการถูกฉันกอด เค้าก็ทำให้ฉันต้องปล่อยตัวเค้า ทั้งที่ฉันไม่ต้องการ เค้าไล่ฉันทางอ้อมจนฉันต้องยอมเค้า ถึงจะเสียใจและเหมือนใครเอามีดมากรีดหัวใจฉันให้ขาดออกจากกัน
ชิซึรุซบหน้าสวยที่แดงก่ำของเค้าไว้กับบ่าของฉัน สองมือของเค้ายังจับหัวไหล่ฉันอยู่เพื่อพยุงตัวเค้าเอง หรือเค้าตั้งใจจะทำอะไรในเวลานั้น ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าฉันไม่ได้หูฝาดไปล่ะก็ ฉันรู้สึกว่าน้องกำลังร้องไห้ ฉันขยับมือข้างหนึ่งขึ้นลูบเบาๆที่ศีรษะของน้อง เราอยู่กันในท่านั้นนานพอสมควร จนฉันไม่ได้ยินเสียงสะอื้นในคอของน้องแล้ว แต่มันมีเสียงอื่นขึ้นมาแทน หลังจากที่ชิซึรุผลักตัวฉันที่กำลังเผลออยู่ออกจากตัวเค้า
“แอน.. อย่ามาแตะต้องตัวฉัน..!”
หัวใจฉันแทบสลาย เมื่อได้ยินคำๆนี้จากปากของเค้า ชิซึรุกำลังมองฉัน เหมือนฉันเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ น้องไล่ฉันเหมือนหมาตัวหนึ่ง ยกฉันให้คนอื่นไป ไล่ฉันไปแต่งงานกับคนอื่น แล้วก็สะบัดหน้าหนีไป น้ำตาฉันไม่เหลือพอที่จะไหลออกมา มันไหลกลับไปอาบที่หัวใจฉันที่ยับเยินไปด้วยแผลมากมาย จนมันปวดแสบปวดร้อนไปหมด ให้ฉันทนอะไร ฉันก็ทนได้ แต่สิ่งที่ชิซึรุกำลังทำอยู่ ฉันทนไม่ไหว ฉันเคยคิดว่า เค้ารักฉัน เหมือนที่ฉันรัก และเรารักกัน แต่ตอนนี้ น้องเกลียดฉันแล้ว ฉันคงอยู่สู้หน้าเค้าไม่ได้อีกต่อไป และฉันก็รีบพาตัวเองให้หายไปจากสายตาเค้าให้เร็วที่สุด มันคงเป็นสิ่งเดียวที่ฉันจะทำให้เค้าได้ เป็นสิ่งสุดท้ายแล้วนับจากนี้
ฉันกลับไปทำงานไม่ได้ ฉันรู้ตัว สติของฉันไม่ดีพอที่จะใช้มันสำหรับงานที่ต้องมีสมาธิแบบนั้น ฉันขอให้ท่านพ่อช่วยฉันอีกครั้ง ครั้งนี้ท่านพ่อใจดีอย่างไม่น่าเชื่อ ท่านยอมทำตามที่ฉันขอ แต่อาจจะเพราะท่านทนเห็นฉันในสภาพน่าอนาถใจแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งท่านก็พอจะรู้จักลูกของท่านดีพอ ท่านจึงไม่คิดเสี่ยงบังคับให้ฉันทำงานต่อไป ฉันรักท่านพ่อมากจริงๆ แต่เวลานี้ ฉันคงจะรักตัวเองมากกว่าใคร ในเมื่อไม่มีใครอีกแล้วที่ดีใจกับความรักที่ฉันมีให้เค้า เจ้าหญิงของฉันหายไปกับความฝันของฉันจริงๆ ความฝันครั้งสุดท้ายที่ฉันมีเธอ.. ฉันไม่อยากอยู่บนโลกนี้อีกแล้ว ฉันไม่อยากทรมาน..
ฉันคิดถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาได้ในเวลาแบบนี้ ฉันนึกถึงเธอขึ้นมาทุกครั้งที่ฉันหาทางออกอะไรให้กับตัวเองไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นที่รักฉันมาก รักที่ตัวตนเลวร้ายของฉัน แม้กระทั่งในตอนที่เธอหมดลมหายใจและจากโลกนี้ไป ด้วยน้ำมือของฉัน ด้วยปีศาจในตัวของฉัน ก่อนที่เสียงการเต้นของหัวใจเธอจะหยุดลง เธอบอกกับฉันว่า เธอรักฉัน รักมากไม่ว่าฉันจะเป็นอะไร จะเป็นปีศาจที่มาจากนรกขุมไหนก็ตาม
ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน..มิจิรุ นางฟ้าในใจของฉัน...
ฉันไปหาเธอที่หลุมศพของเธอที่ฉันฝังร่างที่ไร้ชีวิตของเธอไว้ ที่ที่มักจะเป็นที่โปรดของฉันเวลาที่ฉันเหงาและต้องการใครสักคนที่พร้อมจะรับฟังทุกอย่างที่ฉันจะพูด ฉันรู้.. เธอโต้ตอบอะไรฉันกลับมาไม่ได้แล้ว ไม่เหมือนตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ มิจิรุอยู่เคียงข้างฉันเสมอเวลาที่ฉันรู้สึกอ่อนแอ เธอคล้ายเป็นทุกอย่างของฉันในเวลานั้น แต่ฉันก็ทำลายทุกอย่างของฉันที่มีความหมายของฉันที่สุดนั่น ด้วยมือของฉันเอง ตอนนี้ฉันคิดถึงเธออีกครั้ง ทั้งที่ไม่สมควรเลย ฉันเจ็บปวดจากความรักที่มีให้กับใครอีกคน ฉันไม่ควรมาหาเธออีกแล้ว แต่..ฉันไม่มีที่จะไป..
ทุกๆครั้งที่ฉันมาที่นี่ ฉันจะต้องเอาไวโอลินของเธอมาด้วย เพื่อจะเล่นเพลงที่เธอเคยสอนฉันไว้ครั้งที่เธอยังมีชีวิตอยู่ มิจิรุเล่นไวโอลินได้เพราะมาก มันหวานจับใจฉัน ฉันประทับใจในเสียงไวโอลินของเธอที่เธอเล่นในงานเลี้ยงๆหนึ่งที่ฉันไป จนกระทั่งฉันต้องไปทำความรู้จักเธอ และในที่สุดเราก็รักกัน แต่เพลงที่เธอเคยสอนให้ฉันเล่น ไม่ได้เศร้ามากขนาดนี้ ครั้งนี้เสียงจากไวโอลินของเธอจากฝีมือฉัน มันไม่เหมือนเดิม ถึงเมื่อก่อนตอนที่เธอเสียไป มันจะเศร้ามากอยู่แล้วก็ตาม แต่คราวนี้ มันเหมือนกับว่า ทุกตัวโน้ตถูกอาบด้วยน้ำตาของฉัน ทำไมฉันถึงเป็นได้ขนาดนี้กันนะ ไม่เข้าใจเลย..
และเหมือนว่า เพลงของฉันจะพาแขกที่ฉันไม่คิดว่าจะเจอมาให้ นัทสึกิมาหาฉัน..
ฉันไม่เข้าใจเลยว่า อะไรที่ทำให้เธอยังทนมองหน้าฉันอยู่ได้ในตอนนี้ ทั้งที่ฉันแสนเลวขนาดนั้น แต่ถ้าเธออยากเจอฉันก็ตามใจเธอ ฉันยังคงเล่นเพลงของฉันต่อไป เหมือนไม่เห็นว่าเธอมา กระทั่งเธอถามถึงชื่อบนป้ายที่ปักไว้ตรงหลุมศพ ถามว่ามิจิรุเป็นใคร นัทสึกิแสดงทีท่าเสียใจกับฉันที่ฉันเสียคนรักอย่างมิจิรุไป หลังจากที่ฉันบอกว่า ใครคือมิจิรุ ไคโอ ฉันยอมรับว่าฉันอารมณ์เสียกับการแสดงออกที่แสนดีของนัทสึกิ ฉันก็เลยถามไปว่า ใครใช้ให้เธอมาหาฉัน สาวแสนซื่อนั่น บอกกับฉันว่า ชิซึรุสั่งให้มาดูฉัน มาดูว่าฉันเป็นยังไง ที่จริงแล้ว เค้าอาจจะอยากรู้ว่า ฉันใกล้ตายแล้วรึยังก็ได้ หรือไม่ก็อยากรู้ว่า ฉันกำลังคิดแผนชั่วอะไรที่จะไปเอาตัวเค้ามาให้ได้ น้องอาจจะคิดแบบนี้จริงๆก็ได้ ใครจะรู้..
ฉันไม่อยากเห็นหน้าใครอีกต่อไป เพราะอารมณ์ที่ไม่ปกติของฉันอาจจะฆ่าใครก็ได้ ฉันยังไม่อยากเป็นฆาตกรตอนนี้ ฉันเลยบอกนัทสึกิไปว่า ให้ไปบอกชิซึรุด้วยว่า ถึงฉันจะเลวแค่ไหนก็ตาม ฉันก็รักษาสัญญา ฉันจะไม่ไปยุ่งกับเค้าอีก ไม่ต้องห่วงอะไรเรื่องของฉัน ไม่ต้องมาสนใจ แล้วฉันก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเธอ ทิ้งให้นัทสึกิยืนงงกับท่าทีของคนเสียสติอย่างฉัน
สัญญาของฉันที่ให้ชิซึรุไว้ ก็คือ ไม่ไปยุ่งกับเค้าอีก ห้ามไปแตะต้องตัวเค้า และไปแต่งงานซะ ไปแต่งกับคนที่รักฉัน ที่ไม่ใช่เค้า เพราะเค้าไม่มีทางรักฉันได้ เค้ามีแฟนแล้ว เค้าไม่มีทางเลิกกับแฟน และมาเลือกฉัน ฉันก็แค่..เครื่องบำบัดความใคร่ ฉันให้เค้าได้ดีที่สุดก็แค่..เซ็กซ์ ฉันไม่มีอะไรดีพอที่จะเป็นคนรักของเค้า แค่เป็นพี่น้องกันอยู่ เค้าก็ฝืนใจมากพอแล้ว เค้าบอกกับฉันแบบนี้ น้องเกลียดฉัน.. ฉันก็จะตัดขาดจากเค้าไม่ให้เหลืออะไรต่อกันอีกต่อไป และนั่นก็หมายความว่า ฉันควรจะต้องแยกตัวเองออกมาจากเค้าให้ได้ก่อน ฉันจะแยกวิญญาณของฉันออกจากชิซึรุ ในเมื่อเค้า..เกลียดฉัน..
ท่านพ่อเข้าไปหาฉันเองอีกครั้งในหอหนังสือ น่าแปลกใจจริงๆที่ท่านเคาท์ผู้ยิ่งใหญ่ต้องออกตามหาตัวลูกสาวเองแบบนี้ ทั้งที่ฉันก็แค่ลูกเลวๆของท่านคนหนึ่งเท่านั้น ท่านยังมีลูกอีกตั้งสองคนที่ท่านจะฝากอะไรไว้ได้ ท่านจะมาสนใจฉันทำไม จะมาแคร์ทำไมถ้าฉันจะแยกวิญญาณจากลูกฝาแฝดของท่านอีกคน และตายไปแบบนั้น เพราะฉันมันสมควรตาย..
พิธีแยกวิญญาณที่ฉันกำลังศึกษามันอยู่ตอนเก็บตัวเงียบในหอหนังสือ บอกว่า ผู้ที่เป็นแฝดพี่จะต้องสูญเสียพลังชีวิตให้กับน้อง..เกือบทั้งหมด และนั่นก็หมายความได้ง่ายๆเลยว่า..ฉันจะต้องตาย ถ้าฉันแยกตัวเองออกมาจากชิซึรุ แต่มันก็ดีแล้วนี่นา อย่างฉันจะอยู่ต่อไปทำไม ในเมื่อฉันมันไม่มีประโยชน์อะไรกับใครเลย ตายไปซะ บางทีแผ่นดินจะได้สูงขึ้น ฉันจึงไม่ฟังท่านพ่อที่ท่านเข้ามาคัดค้าน ในที่สุดท่านก็จากไปพร้อมกับสีหน้าที่บอกได้เลยว่า ผิดหวังกับตัวฉันเป็นที่สุด แต่ฉันไม่แคร์หรอก..
ความไม่เป็นผู้เป็นคนของฉัน ที่มันเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทำให้ฉันพาลไปทุกอย่าง ฉันเข้าไปซ้อมหมาป่าหน้าโง่นั่นที่ในคุก แต่มันก็ยังปากแข็งอยู่ ไม่ยอมบอกที่ซ่อนของนายใหญ่มัน ฉันทรมานมันทุกวิถีทาง แต่ไม่ให้มันตาย ฉันรู้สึกสะใจที่เลือดเปื้อนมือฉันทุกวัน ฉันกินเลือดจากห้องแล็บเป็นว่าเล่น จนทางสถาบันผลิตใหม่เกือบไม่ทัน พวกเขาต้องพยายามหาเลือดมาให้ฉันทุกวิธี เพราะเขารู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันขาดเลือด มนุษย์ที่ทำงานอยู่ที่นี่อาจจะกลายเป็นศพได้โดยไม่รู้ตัว แต่ถึงอย่างนั้น ความบ้าคลั่งของฉันก็ยังไม่อาจหยุดลงได้ ฉันจับลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของฉันมาเป็นเป้าในการซ้อมยิงธนู และถึงฮารุกะจะรู้ว่า ฉันไม่เคยยิงพลาดก็ตาม เธอก็ยังกลัวอยู่ดี แล้วนั่นก็พาให้แขกที่ฉันไม่อยากเจอมาหาอีกครั้ง..จนได้ ไมจังมา...
เธอยั่วโมโหฉันจนฉันทนไม่ได้ ฉันก็เลยลากเธอมาในห้องนอน ตอนแรกก็แค่คิดว่าจะขู่ให้เธอกลัวฉัน แล้วเลิกพูดจาให้ฉันโมโห แต่ไม่..ไมจังไม่ยอมหยุดดูถูกฉัน เธอหาว่าฉันไม่มีน้ำยา ฉันไม่เคยทำอะไรเธอได้จากหลายครั้งที่ผ่านมา ฉันก็เลยทนไม่ได้อีกต่อไป ครั้งนี้ฉันจะให้เธอสำนึกว่า อย่ามาดูถูกฉัน เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น เธอควรจะกลัวฉัน ไม่ใช่มาลองดี และฉันก็ทำร้ายเธอจนสำเร็จ..
มันเป็นคืนวันเพ็ญอีกครั้งสำหรับคืนนี้ที่ฉันอยู่กับไมจัง ฉันจึงยั้งตัวเองไม่ได้ เมื่อจอมมารรัตติกาลมีพลังมากกว่าฉันในเวลานี้ โดยเฉพาะในสภาพที่ฉันอ่อนแอทั้งกายและใจ และใช่.. ฉันปล้ำไมจัง ทั้งที่ฉันกลัวว่าเธออาจจะตาย น่าสงสารมนุษย์ตัวเล็กๆที่ฉันควรจะทะนุถนอมเธอให้มากๆ แต่ฉันกลับเลือกที่จะทำร้าย.. ฉันมันเลว..
ไมจังคงจะเจ็บมากทีเดียว แต่เธออดทนมากๆที่ไม่ร้องออกมาเลย เด็กสาวอายุเพียงสิบแปดปี และไม่เคยกับเรื่องแบบนี้มาก่อน ช่องคลอดของเธอจึงฟิตมาก แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกดีเวลาที่สอดใส่อวัยวะที่มันจะมีขึ้นมาในคืนพิเศษแบบนี้ลงไปในตัวของเธอ บอกตามตรง ฉันไม่ได้เอาไมจังไปเปรียบเทียบกับใครที่ฉันเคยนอนด้วยมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น มิจิรุ อลิสซ่า หรือแม้กระทั่ง..ชิซึรุ ที่ฉันเคยนอนด้วยและใช้มันแบบนี้ด้วย แต่ฉันก็รู้สึกได้ว่า เธอทำให้ฉันรู้สึกดีไม่แพ้ใคร ถึงหุ่นของเธอจะเทียบไม่ได้กับหลายๆคนที่ฉันเคยผ่านมา เพราะว่าเธอตัวเล็กที่สุดแล้ว แต่มันก็ไม่มีปัญหากับฉัน โดยเฉพาะเวลาที่ฉันไม่มีสติและคิดถึงแต่เรื่องเดียวเท่านั้นในสมอง..แค่เซ็กซ์
มันก็นานเหมือนครั้งก่อนๆที่ฉันนอนกับชิซึรุ ฉันก็เลยคิดว่า ไมจังน่าจะเจ็บเหมือนที่น้องเจ็บ แต่เธออาจจะบอบช้ำมากกว่าชิซึรุมากก็ได้ ไม่ใช่สิ..ต้องมากกว่าเลย ถึงจะถูก เพราะยังไงซะ ชิซึรุก็เป็นแวมไพร์ ร่างกายของเค้าเจ็บปวดกับอะไรได้ไม่นาน ไม่เหมือนมนุษย์อย่างไมจัง ฉันสงสารเธอมาก แต่ฉันทำอะไรไม่ได้ แค่ทำตามความต้องการของร่างกายเท่านั้น และเพราะไมจังไม่ร้องเลย เธอก็เลยยิ่งจะเจ็บมากขึ้น ปีศาจอย่างฉัน ชอบได้ยินเสียงร้องดังๆเสียด้วย ฉันก็เลยทำแรงๆกับเธอ หวังให้เธอร้องให้ได้ และมันก็สำเร็จ ไมจังร้องเสียที พร้อมๆกับที่จิกเล็บลงกับหลังของฉัน แต่ฉันไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย เพราะฉันรู้สึกอย่างอื่นมากกว่า จุดออกัสซึ่มที่ฉันรอมันมาแสนนาน ทำให้ฉันไม่ยั้งที่ปล่อยอะไรเข้าสู่ร่างกายไมจังอย่างเต็มที่ ตรงช่องคลอดของเธอ และเพียงเท่านั้น ฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย ฉันหลับอย่างสบายอยู่กับความอบอุ่นที่ฉันโหยหามัน ซึ่งฉันเอามันมาด้วยความเห็นแก่ตัว แต่ฉันไม่แคร์
แล้วผลของความไม่แคร์อะไรของฉันในตอนนั้นก็ทำให้ฉันต้องเสียใจมาก ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมความว่างเปล่าบนที่นอนอีกครั้ง ฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว ทุกคนที่บอกว่ารักฉัน หนีจากฉันไปจนหมดสิ้น แถมฉันยังได้รู้ว่า ตัวเองป่าเถื่อนขนาดไหน ทำร้ายมนุษย์ตัวเล็กๆของไมจังได้ลง ฉันมันปีศาจชัดๆ ฉันเลยคิดจะกำจัดตัวฉันเองให้ได้ในตอนนี้ ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว ฉันอยากตาย..
แต่ฉันก็ตายไม่ได้อย่างที่ใจต้องการ เมื่อท่านพ่อบอกว่า..ฉันมีลูก..
ฉันไม่เชื่อท่าน ไม่มีทางเชื่อ ฉันเป็นผู้หญิงจะทำแบบนั้นได้ยังไง มันก็ใช่ในทุกคืนวันเพ็ญ ตัวฉันจะมีอวัยวะแบบนั้นออกมา มันคล้ายอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้ชาย แต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะทำได้อย่างที่ผู้ชายทำ ฉันจะทำผู้หญิงเหมือนกันท้องได้ยังไง ไม่มีทาง..
แต่ชิซึรุก็ยืนยันคำของท่านพ่อด้วย เค้าตะโกนบอกฉัน ตอนที่เค้ายังถูกฉันมัดไว้กับแท่นหินทำพิธี ใช่..ฉันกำลังจะทำพิธีแยกวิญญาณเราสองคนออกจากกัน แล้วท่านพ่อก็เข้ามาขวางฉัน ด้วยการบอกข่าวแบบนี้ที่ฉันไม่อยากเชื่อออกมา ฉันเถียงว่า ทำไมกับมิจิรุหรือน้องถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ถ้าฉันทำแบบนั้นได้จริง ท่านก็บอกว่า ท่านปิดเรื่องที่มิจิรุแท้งลูกของฉันไว้มาตลอด เพราะเธอขอให้ท่านช่วยปิดให้ เธอกลัวฉันเสียใจ และผิดหวังที่ร่างกายของเธออ่อนแอเกินไปที่จะให้กำเนิดลูกของเรา แต่กับชิซึรุ ฉันแน่ใจว่าน้องแข็งแรงพอ น้องจะต้องมีลูกกับฉันได้ เพราะฉันทำตามคำสั่งท่านพ่อไม่ได้ ฉันเผลอใช้อวัยวะนั่นหลั่งในตัวเค้า แล้วน้องก็ต้องท้องสิ แต่ทำไม...
แล้วฉันก็ได้รู้ว่า ยังไงซะ ต่อให้ฉันทำอะไรกับน้องแบบนั้น เป็นร้อยเป็นพันครั้ง ชิซึรุก็ท้องไม่ได้ ร่างกายของเค้าแอนตี้มัน ร่างกายของเค้าปฏิเสธที่จะมีลูกกับฉัน เพราะฉะนั้น..เรื่องที่ไมจังท้องลูกของฉัน มันจึงเป็นเรื่องจริง
ฉันนิ่งอึ้งและทำอะไรต่อไปไม่ได้ จนท่านพ่อเข้ามาปล่อยตัวน้องออกจากแท่นทำพิธี ฉันหายตัวจากหน้าใครๆไปในทันที หลังจากรู้ความจริงข้อนี้ ฉันมีลูก.. ฉันดีใจ แต่ก็สับสนไปด้วย มันรับเรื่องนี้ไม่ทัน ฉันจะต้องไปตั้งหลักใหม่ก่อน ก่อนที่ฉันจะคิดทำอะไรต่อไป
ฉันนั่งอยู่บนเตียงของฉันคนเดียว คิดย้อนไปถึงครั้งที่ฉันทำแบบนั้นกับอลิสซ่า ฉันแน่ใจเหมือนกันว่า ฉันหลั่งในตัวน้อง เหมือนกับที่ทำกับทุกคน แล้วทำไม.. ทำไมอลิสซ่าถึงไม่ท้องเหมือนไมจัง แต่พอคิดไปคิดมา ที่อลิสซ่าหายตัวไปจากฉันหลังจากคืนนั้น อาจจะเพราะเค้าต้องการจะปิดบังเรื่องอะไรบางอย่างกับฉันหรือเปล่า แล้วทำไมท่านพ่อถึงไม่บอกฉัน ถ้าหากน้องท้องจริงๆ
ฉันไม่ได้เจออลิสซ่ามานานมาก แต่ก็พอรู้ข่าวว่า พอสิบปีให้หลัง หลังจากที่เกิดเรื่องระหว่างฉันกับเค้า น้องก็กลับมาทำงานที่บริษัทอีก แต่ไม่ยอมเจอหน้าฉัน น้องเลือกทำงานกับคนอื่นแทนที่จะทำกับฉันที่เค้าเคยทำด้วย เค้าทำงานกับชิซึรุ แต่ไม่ยอมกลับมาอยู่กับฉันที่บ้าน อ้างว่าจะอยู่กับแฟน ฉันก็เลยไม่ได้ไปติดตามถามอะไรเค้าอีก และสุดท้ายที่ฉันได้ข่าวเค้า ก็คือน้องเล็กของฉันกลับไปอยู่กับท่านแม่ของเค้าที่ทรานซิลเวเนีย เพราะเสียใจที่แฟนเค้าหายไป แล้วตกลงว่า..อลิสซ่ามีลูกกับฉันรึเปล่า ถ้าฉันทำคนท้องได้แบบนั้น แล้วถ้ามี ตอนนี้ลูกของฉันคนนั้นอยู่ที่ไหน ถ้าอลิสซ่ามีลูกกับฉันจริงๆ ฉันก็แน่ใจว่า น้องต้องอุ้มท้องได้แน่นอน แค่ห้าเดือนเท่านั้นสำหรับการอุ้มท้องเด็กแวมไพร์ อลิสซ่าตัวใหญ่เท่าๆกับฉัน เค้าไม่มีทางแท้ง แต่..ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ลูกของฉันอยู่ที่ไหน นี่มันเรื่องอะไรกันนะ ทำไมฉันต้องกลายเป็นคนไม่รู้อะไรเลยแบบนี้ด้วย...
แล้วทำไม.. โชคชะตาจะต้องโหดร้ายกับฉันมากขนาดนี้.. กับคนที่ฉันรักเค้ามากที่สุดในชีวิต..
ฉันกลับมีลูกด้วยไม่ได้.. ทำไมกันนะ.. ทำไมกันล่ะ..ชิซึรุ..
แต่ฉันจะมามัวจมอยู่กับความเสียใจแบบนี้ไม่ได้ ในเมื่อฉันมีลูกแล้ว..
และอาจมีแล้วถึงสองคนด้วยซ้ำ ถ้าเรื่องที่ฉันคิดไว้มันเป็นจริง แต่ตอนนี้ลูกของฉันหายไปไม่เหลือ.. แม้กระทั่งแม่ของลูก.. แล้วฉันจะทำยังไงต่อไปดี..
ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่า.. ตอนนี้ฉันเป็นพ่อของเด็กถึงสองคน.. ที่หายไปหมดแล้วทั้งสองคนด้วย..
ลูกของฉัน.. ฉันจะตามหาเค้าให้เจอ.. ถึงฉันจะไม่ใช่คนดีมากพอ..
แต่ปะป๊าก็จะพยายามทำตัวให้ดีให้ได้นะลูกนะ.. ขอแค่หนูกลับมา..
เอาล่ะ..ฉันจะต้องชนะปีศาจที่อยู่ในด้านมืดของฉันให้ได้.. เพื่อลูกของฉัน..
รอปะป๊าด้วยนะ..ลูกนะ.. ปะป๊าจะไปตามหนูกลับมาให้ได้.. มาอยู่ด้วยกัน..
To be continue…
2 ความคิดเห็น:
Lookgolf’s comment…
โอ้ววว แม่นแร้วๆ..ท่านจอมมารรัตติกาล..เพราะท่านเป็นพ่อของเด็กถึงสองคน คนหนึ่งในป่าของอาร์เทมีส และอีกคนในท้องของไมจัง..ดังนั้น อย่าคิดสั้นและทำอะไรโดยไม่คิดถึงลูกของตัวเองเป็นอันขาดนะ
เจอความเสียศูนย์ของจอมมารรัตติกาลผู้เกรียงไกรเข้าไปแล้ว ก็ทำให้รู้สึกสงสารและเห็นใจชะตากรรมแสนโหดร้ายของแอนจังและชิจังสองพี่น้องผู้มีความรักซึ่งกันและกันแต่ไม่อาจครองคู่กันได้เพิ่มเข้าไปอีกเยอะเลย เหอๆๆ
น่าเสียดายเป็นอย่างมากที่การเลิกลาของแอนจังและชิจังในครั้งนี้นั้นปราศจากการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือเหตุผลความจำเป็น..ส่งผลให้ทั้งสองต่างเข้าใจกันและกันผิดไปจากความรู้สึกที่แท้จริงอยู่มากโข..อันนำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจที่มากเกินกว่าที่ควรจะเป็นถ้าทั้งสองได้พูดคุยกันอย่างเปิดอก
แต่ก็นะ เมื่ออะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด..และอะไรที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับ เพราะไม่อาจย้อนอดีตไปเปลี่ยนแปลงมันได้..สิ่งที่ทำได้..จึงมีแต่การแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด และดำเนินชีวิตต่อไปตามทางที่ถูกที่ควรที่พอจะทำได้..ก็เท่านั้นเอง
การประชดชีวิตต่างๆ นานาของแอนจัง ที่เกิดขึ้นมากจากการจำต้องสูญเสียหรือสิ้นสุดความสัมพันธ์เช่นนั้นกับชิจังน้องของตนนั้น อาจกล่าวได้ว่า ไม่ใช่การกระทำที่๙ญฉลาดหรือถูกต้องเลยแม้แต่น้อย..แต่ในทางกลับกัน ใครบ้างล่ะที่ไม่เคยผิดพลาด ใครบ้างล่ะที่ไม่เคยท้อแท้ ใครบ้างล่ะที่ไม่เคยเอาแต่ใจตัวเอง..คำตอบคือ ไม่..ไม่มีใครหรอกที่จะทำทุกอย่างได้ถูกต้องและเหมาะสมเสมอ..เพราะความสมบูรณ์แบบของชีวิตคน ไม่ได้อยู่ที่ความถูกต้องในทุกสิ่งที่กระทำ..หากแต่อยู่ที่ความดผิดพลาดจากการกระทำของตน และทำให้คนๆ นั้นได้เรียนรู้จากมันและเติบโตขึ้นต่างหาก..และความผิดพลาดและเรียนรู้ที่จะแก้ไขนั่นเอง ที่ทำให้ชีวิตของคนนั้นสมบูรณ์แบบ....และแอนจังก็ผ่านบททดสอบแห่งความสมบูรณ์แบบของชีวิตเป็นที่เรียบร้อยในที่สุด เพราะจอมมารสามารถเรียนรู้และใคร่ครวญคิดพิจารณาดึงตัวเองจากจุดที่ต่ำที่สุดของชีวิต กลับสู่จุดที่ถูกที่ควรอีกครั้ง..และแน่นอนคนที่สมควรจะได้รับความดีความชอบในเรื่องนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นผู้ปิดทองหลังพระอย่างชิจัง ผู้เสียสละอย่างไมจัง ผู้ที่ถูกลืมอย่างอลิสซ่าจัง และผู้เป็นบิดาอย่างท่านเคานท์เอนริคนั่นเอง
เมื่อคิดได้แล้วเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายที่จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็จงใช้จุดหมายนั้น..นำทาง..และประคับประคองชีวิตอันเป็นนิรันดร์นี้ให้ดีและมีความสุข(ซะที)นะ ท่านจอมมารรัตติกาล
ขอบคุณนะคะ ไรท์เตอร์...ตอนนี้เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ในปัญหานี้แล้วล่ะ..หวังว่าตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนไปยังแสงสว่างนั้นจะยังไม่หมดแรงไปก่อนก็แล้วกัน อิอิ...เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมนะคะ..ชอบมากมายเลยล่ะ side story ชุดนี้ อิอิ
ทรมานเนอะ.. อ่านเรื่องนี้แล้วข้าพเจ้ารู้สึกจุกตลอดเลย ยิ่งหลังๆเป็นซีนอารมณ์ล้วนๆมันก็ยิ่งทำให้คนอ่านอย่างข้าพเจ้า.. จุกมากๆ..
มันเป็นเรื่องราวของความรักพี่เป็นห่วงโซ่คล้องกันไปมา แล้วด้วยเรื่องของสองพี่น้องฝาแฝดก็ยิ่งทำให้เรื่องนี้ดูดราม่าหนักขึ้นไปอีก.. ที่ข้าพเจ้ารู้สึกจุกก็เพราะเข้าใจความรักของสองพี่น้องคู่นี้ดี มันยากมากเลยนะคะที่พยายามจะเม้นท์ในตอนหลังๆนี่ เพราะข้าพเจ้าไม่รู้จะเม้นท์ยังไงเพื่อให้สอดคล้องกับตัวละคร.. ไม่ใช่ตัวข้าพเจ้าเอง.. แต่ทุกครั้งที่ได้มาอ่าน มันทำให้ข้าพเจ้าอยากร้องไห้ แต่มันก็ร้องไม่ออก.. ใครมาอ่านเม้นท์ของข้าพเจ้าก็คงอาจจะคิดว่าข้าพเจ้าเวอร์ไปแล้ว.. แต่ข้าพเจ้าขอบอกไว้เลยนะคะ ถ้าเรื่องแบบนี้ ใครไม่เจอกับตัว ก็อาจจะไม่รู้สึก และอาจจะไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ.. แต่กรณีของข้าพเจ้ามันไม่ได้เป็นความรักที่สวยงามแบบที่ชิจังมีต่อแอนจัง หรือแบบที่แอนจังมีต่อชิจังหรอกนะ.. ว่าแต่.. ข้าพเจ้าจะมาพร่ำเพ้อพรรณนาเรื่องตัวเองให้คนอื่นฟังทำไมกันเนี่ย.. ฮ่าๆๆๆ
ถูกสิ่งถูกอย่างมันมีจุดเริ่มต้นมันก็ต้องมีจุดจบ เพียงแต่จะเลือกให้มันจบแค่ไหนก็เท่านั้น.. ทางออกมีหลายทาง ทางที่เจ็บปวด ทางที่แสนหวาน ขึ้นอยู่กับว่าคนที่เจอปัญหานี้จะเลือกทางไหนมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น..
สำหรับชิจังแล้ว ตอนนี้คงคิดว่าถ้าห่างกันไปตั้งแต่ตอนนี้ความรู้สึกรักแอนมากมายนั่นมันก็คงจะลดน้อยลงบ้าง.. แต่มันไม่เป็นแบบนั้นหรอกชิจัง ยิ่งเราอยากจะลืม ยิ่งเราอยากจะลดความสำคัญของใครที่เราเห็นว่าเค้ามีอิทธิพลต่อเรามากน่ะ มันก็ยิ่งจะทำไม่ได้หรอก ยิ่งลืมก็ยิ่งจำ.. เพราะเราก็จะเฝ้าแต่คิดว่าต้องลืม.. ต้องลืม.. มันก็เหมือนเรายังคิดถึงคนๆนั้นอยู่ตลอดเวลา ยังไงเค้าก็อยู่ในความนึกคิดของเราอยู่ตลอดเวลา.. ลืมเค้าไม่ได้หรอก เลิกรักก็ไม่ได้ด้วย.. อึดอัดเนอะ..
และสำหรับแอนจัง.. ตัวเองก็ต้องเข้าใจนะ ว่าเธอกับชิจังอยู่ในสถานะแบบไหน ถึงจะเคยมีความสัมพันธ์อะไรกันมามากมายแค่ไหน ผูกพันกันแค่ไหน แอนก็ไม่สามารถจะเก็บน้องมาไว้คนเดียวได้อีกต่อไป น้องเองก็มีคนรักอยู่แล้ว และแอนเองก็ไม่อยากทำร้ายแฟนของน้อง เพราะฉะนั้นที่น้องบอกให้ลืมน้องไปซะ ให้ออกห่างจากน้อง แอนก็ต้องทำให้ได้นะ เพราะสิ่งเหล่านั้นน้องทำออกมาด้วยความเจ็บปวด ชิจังพยายามอดกลั้นพูดในสิ่งที่ไม่อยากพูดออกมา เพื่อที่จะให้แอนไปเจอสิ่งที่ดีกว่า ไม่ใช่อยู่กับคนที่ไม่เคให้ประโยชน์ต่อแอนเลยสักนิดเดียวแบบนี้.. เข้าใจน้องเถอะนะแอน การออกห่างของชิจังเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า.. น้องรักแอนมากแค่ไหน.. ทำเพื่อน้อง.. แล้วก็ลูกนะ.. แอน..
ขอบคุณมากค่ะ.. เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ..
แสดงความคิดเห็น