2554-01-13

The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.6


The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.6

Pairing : Anh x Shizuru x Alyssa

Rate : M

Genre : Drama - Romance

By : Anhy

My Curse : Alyssa’s POV

ความทรงจำของคืนแห่งการเริ่มต้นของคำสาปที่แท้จริงของฉัน ไม่อาจลบเลือนไปได้โดยง่าย เพราะหัวใจฉันถูกตอกย้ำให้คิดถึงมันด้วยหลักฐานที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของฉันเอง สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่อยู่ภายในท้องของฉันเป็นเครื่องเตือนใจให้คิดถึงมันได้เป็นอย่างดีว่าฉัน..เป็นของเค้า แม้จะไม่อยากยอมรับมัน ฉันเป็นภรรยาเค้า และนี่ก็คือ..ลูกของเค้า ลูกของแอน..

ฉันไม่รู้เลยว่าทำไม ทุกครั้งที่ฉันหลับตาลงในตอนกลางคืน ฉันจะเห็นเค้าอยู่กับฉันบนเตียงด้วยกัน จูบฉัน สัมผัสฉัน คล้ายกันกับที่เค้าทำในคืนนั้น แต่อ่อนโยนมากกว่า..มาก ฉันรู้ว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่มันเหมือนจริงมากกว่าจะเชื่อได้ว่ามันเป็นแค่ภาพจินตนาการของฉันจากจิตใต้สำนึกที่ฉันคิดถึงเค้ามากขนาดนี้ ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นฉันหรือลูกของเค้าที่คิดถึงคนที่สร้างเค้ามากันแน่ ในทุกคืนฉันจะสะดุ้งตื่นขึ้น จากความรู้สึกที่ฉันถูกเค้าพาให้ถึงจุดสุดท้ายของความปรารถนาทางร่างกาย และร้องเรียกชื่อเค้าออกมา ฉันร้องหาแอน น้ำตาฉันไหลอาบแก้มเสมอ เวลาที่รู้ว่ามันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น แต่มันก็น่าประหลาดที่ฉันเห็นว่ามีร่องรอยเปียกชื้นขึ้นบนเสื้อผ้าบริเวณหว่างขาของฉัน แล้วพอฉันสัมผัสมันเพื่อจะดูว่ามันคืออะไร ฉันก็ต้องตกใจที่รู้ว่า มันคือน้ำที่จะหลั่งออกมาจากช่องคลอดเวลาที่เสร็จสมอารมณ์ความใคร่ และที่ฉันตกใจมากกว่าคือความรู้สึกที่ว่า ฉันรู้สึกว่าฉันถูกเค้าสอดใส่จริงๆเหมือนคืนนั้นไม่มีผิด มันเจ็บเหมือนกัน ใจฉันสั่นระทึกเพราะคิดว่า ฉันอาจจะแท้ง แต่ไม่ใช่ ลูกยังอยู่กับฉัน ฉันรู้สึกถึงเค้าได้

ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ ทั้งที่คิดว่า ฉันไม่ได้รักเค้า ไม่ได้รักแอนขนาดที่จะเก็บเอาเค้ามาฝันถึงทุกคืน และยังฝันถึงเรื่องคืนนั้นของฉันกับเค้าอยู่ซ้ำๆ หรืออาจจะเป็นเพราะว่า เค้าเป็นคนแรกของฉัน และทำให้ฉันให้กำเนิดชีวิตใหม่ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเค้าขึ้นมา หรือว่า..ลูกต้องการจะอยู่กับเค้า อยากให้เค้าอยู่ด้วย แต่ฉันก็เลือกแล้วว่า ฉันจะไม่บอกเค้าหรอก ฉันเลือกจะไม่บอกแอนเรื่องเด็กคนนี้ ฉันไม่ต้องการความรับผิดชอบที่ไม่ได้เกิดจากความรัก ยิ่งฉันได้เห็นเค้าวันนั้น ฉันยิ่งมั่นใจ เค้าไม่ได้รักฉันเลย

ฉันกลับไปประเทศอังกฤษอีกครั้งกับท่านพ่อเพื่อร่วมงานพิธีศพของท่านแม่ของแอนและชิซึรุที่ปราสาทวิโอล่า ตอนนั้นฉันยังสามารถไปไหนมาไหนได้ตามปกติโดยไม่ลำบากมากนัก เพราะยังท้องอ่อนๆและยังไม่ได้มีอาการแพ้รุนแรงมาก ฉันเห็นแอนมองมาหาฉัน เราสบตากันไม่กี่นาทีในตอนที่ฉันยืนอยู่ข้างท่านพ่อ เค้าทำท่าจะเข้ามาหาฉัน ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่เค้าจะมาหา แต่พอฉันหันไปเห็นชิจังร้องไห้อยู่ใกล้ๆเค้า ฉันก็เปลี่ยนใจ ฉันหายตัวไปจากสายตาเค้าทันที จริงๆแล้วฉันไม่ได้หายไปจากงานหรอก ฉันแค่ทำเหมือนไม่ได้อยู่ที่นั่น ฉันใช้วิชาล่องหน และนั่นก็ทำให้ฉันได้เห็นอะไรที่ฉันทำให้ฉันมั่นใจได้ว่า ฉันตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่บอกเรื่องที่ฉันท้องลูกของเค้าให้แอนฟัง

ชิจังต้องการเค้ามาก ฉันเห็นชิจังกอดเค้าแน่นและร้องไห้ซบอกเค้าอยู่ แล้วฉันก็เห็นว่าแอนรักชิจังมากขนาดไหน ถึงจะอ่านใจเค้าไม่ออกเลยก็ตาม ท่าทางของเค้าบอกกับฉันแบบนั้น ชิจังก็เหมือนกัน เค้าขาดแอนไม่ได้แน่ๆ ฉันรู้ดี และฉันก็คงจะเป็นได้แค่..ส่วนเกิน

ฉันไม่ต้องการเดินเข้าไปแทรกระหว่างเค้าสองคน.. ฉันจึงเลือกกลับมาอยู่กับลูกของฉันตามลำพังในความดูแลของท่านพ่อและท่านแม่ ผู้ที่ไม่เคยทิ้งไป แม้จะทำอะไรผิดแค่ไหนก็ตาม และตอนนี้ฉันก็รู้แล้วว่า การเป็นแม่ รู้สึกอย่างไร ฉันรักลูกของฉัน..

แต่ฉันไม่คิดว่าการมีลูกจะเป็นเรื่องทรมานสำหรับฉันที่เป็นแวมไพร์ไม่ต่างจากที่มนุษย์ธรรมดาเป็น ฉันไม่น่าจะรู้สึกเจ็บปวดอะไรมากขนาดนี้สำหรับการมีลูก ไม่ใช่สินะ มันไม่ใช่อาการของความเจ็บปวด มันเป็นความทรมานจากการกระหายอย่างไม่สิ้นสุดของฉัน เมื่ออาการแพ้ท้องเพิ่มความรุนแรงขึ้นหลังจากที่ฉันกลับมาจากอังกฤษ จากที่ฉันไม่นิยมดื่มเลือดของมนุษย์จริงๆ และใช้เพียงเลือดของสัตว์เพื่อความอยู่รอด ฉันกลับต้องการมันมากเวลานี้ ฉันเหมือนเสียสติที่ชีวิตช่วงนี้ต้องอยู่ท่ามกลางถุงบรรจุเลือดมากมายที่ท่านพ่อต้องพยายามหามาให้ฉัน ซึ่งมันไม่ยากเมื่อเราไปเอามันมาจากโรงพยาบาลที่เป็นเครือข่ายของท่านพ่อเอง

ใช่..ถึงท่านจะค่อนข้างไม่พอใจกับการที่ฉันท้องแบบนี้ แต่ท่านก็ไม่เลือกที่จะให้ฉันทำลายเด็ก เพราะนี่เป็นหลานของท่าน เป็นลูกของฉัน และที่สำคัญเป็นลูกของแอนที่ท่านตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า จะให้เค้าสืบต่อเชื้อสายของท่านต่อไป เด็กคนนี้เป็นผลพิสูจน์ที่ท่านพ่อต้องการ สิ่งยืนยันของความสำเร็จที่จะทำให้แอนสร้างเผ่าพันธุ์ของเราได้ แต่ท่านต้องผิดหวังเหมือนกัน เมื่อฉันหมดความสามารถที่จะให้กำเนิดแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ตามแผนที่ท่านต้องการ ไม่มีแวมไพร์หนุ่มๆคนไหนที่ต้องการผู้หญิงมีราคีอย่างฉันไปเป็นภรรยาหรอก และนั่นเป็นเรื่องดีสำหรับฉัน

ท้องของฉันใหญ่ขึ้นเร็วมากในเวลาไม่นาน ท่านแม่บอกว่ามันเป็นธรรมชาติของเด็กที่เกิดจากแวมไพร์อย่างเรา และฉันก็จะไม่ต้องอุ้มท้องนานมากนัก แค่เพียงห้าเดือนเท่านั้น ฉันก็จะคลอดลูกสาว ใช่..ต้องเป็นลูกสาวแน่ๆอยู่แล้ว เพราะยังไงซะ ทางด้านโครโมโซม แอนก็ยังคงให้โครโมโซมเอ็กซ์ออกมาจากเค้าอยู่ ยังไงซะเค้าก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่นี่นา ถึงเค้าจะทำให้ฉันท้องได้ก็ตาม

ฉันนั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ไม้โยกได้ริมหน้าต่างห้องนอนของฉันที่บ้านของท่านพ่อและท่านแม่ อย่างสงบ เวลานี้ฉันสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องดื่มเลือดตลอดเวลาได้แล้ว เพราะผ่านจากช่วงของการแพ้ท้อง สายตาของฉันมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ระหว่างนั้นฉันก็ขยับมือขึ้นลูบท้องที่โตขึ้นมากของตัวเอง แล้วอยู่ๆก็รู้สึกได้ถึงน้ำเย็นๆหยดลงจากสองตาของฉัน เวลานี้ฉันเหงาเหลือเกิน ฉันคิดถึงแอน คิดถึงคนที่ร่วมสร้างสิ่งมีชีวิตเล็กๆในท้องของฉัน ฉันอยากให้เค้าอยู่ที่นี่ อยู่โดยไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ แค่อยู่และจับมือฉันไว้ก็พอ..

ฉันมองลงกับท้องที่ใหญ่ขึ้นเหมือนลูกบอลที่ฉันต้องพกติดตัวไว้ตลอดเวลา น้ำตายังไม่หยุดไหล ฉันนึกสงสารลูกที่เค้าคงจะไม่มีโอกาสเห็นหน้าคนที่ทำให้เค้าเกิดมาอีกคน เวลานี้ฉันสับสนมากว่าฉันจะบอกแอนดีหรือไม่ว่า สิ่งที่ฉันกับเค้าทำด้วยกันคืนนั้น สร้างเด็กคนนึงขึ้นมาด้วยกัน และนี่คือลูกของฉันกับเค้า ฉันบอกกับลูกเบาๆพร้อมกับที่ฉันลูบท้องไปมา บอกว่าฉันรักเค้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ถึงไม่มีพี่อยู่ตรงนี้ด้วยกันกับฉันก็ตาม..แอน

ความฝันที่มีเค้ายังอยู่กับฉันทุกคืนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เหมือนเค้าแวะเวียนเข้ามาเติมความรักให้กับลูกของเค้าในท้องฉันอยู่เสมอ ฉันไม่อยากคิดว่ามันเป็นแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไม ฉันถึงต้องฝันถึงเค้าในเมื่อเค้าไม่ได้คิดถึงฉัน เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้ามีลูกแบบนี้ แต่มันก็เป็นเรื่องดีใช่รึเปล่า ที่เค้ามาหาลูกทุกคืน ไม่ว่ามันจะเป็นแค่ความฝันหรืออะไรก็ตาม

ฉันพูดกับลูกทุกวัน ถึงเค้าจะยังอยู่ในท้อง พยายามคุยกับเค้าอย่างที่ท่านแม่แนะนำ มันจะทำให้เด็กได้รู้สึกถึงความรักที่เรามีต่อเค้า พยายามลุกขึ้นเดินบ้าง เพราะมันเป็นการดีกับการที่ฉันจะได้คลอดง่าย และเป็นผลดีกับร่างกายเด็กด้วยที่แม่ของเค้าแข็งแรง แต่มันก็ค่อนข้างจะลำบากที่ต้องเดินและแบกน้ำหนักของท้องที่ใหญ่ขนาดนี้เอาไว้ ท่านแม่ยังคิดว่าฉันอาจจะได้ลูกสาวฝาแฝดเพราะขนาดท้องของฉันที่ใหญ่ผิดปกติแบบนี้ แต่ท่านพ่อก็ค้านว่า คงไม่เป็นแบบนั้น คงเป็นเพราะฉันกับแอนตัวใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ เด็กก็เลยค่อนข้างจะตัวโตกว่าปกติ

ตอนนี้ฉันพยายามไม่ร้องไห้แล้วเวลาที่ฉันคุยกับลูกในท้อง ฉันพยายามทำตัวเองให้สุขภาพจิตดี เพราะไม่อยากให้เป็นผลกระทบต่อลูก แม้ฉันจะยังคิดถึงเค้าอยู่ตลอดเวลาและอยากเห็นหน้าเค้ามากแค่ไหนก็ตาม แอนจะกำลังทำอะไรอยู่เวลานี้ เค้าจะเคยคิดถึงฉันบ้างมั้ย แล้วฉันก็เจ็บใจตัวเองขึ้นมาว่าทำไมฉันถึงไม่ยอมบอกกับเค้า เรื่องลูก เพราะเวลานี้คนที่ฉันต้องการมากที่สุดให้อยู่กับฉัน..เป็นเค้า ฉันต้องการการเอาใจใส่จากคนที่เป็นคนทำให้เด็กคนนี้เกิดมา แต่ว่า..ฉันก็ได้แต่คิด เพราะฉันเลือกเองนี่ ฉันเลือกเองที่จะอยู่แบบนี้ ปัดความรับผิดชอบที่เค้าหยิบยื่นมาให้

แล้ววันหนึ่งซึ่งก็เป็นเวลาประมาณสามเกือบสี่เดือน ฉันก็รู้สึกเจ็บภายในท้อง มันจุกแปลกๆ แต่ก็มารู้ว่า ลูกในท้องฉันดิ้น ฉันเลยยิ้มได้ทั้งที่เจ็บและจุกมาก เพราะฉันมั่นใจแล้วว่าลูกของฉันแข็งแรงดี แล้วอะไรไม่รู้ทำให้ฉันนึกพูดคำนี้ออกมา

ลูกเราดิ้นแล้วนะแอน.. เค้าแข็งแรงดี..

ฉันพูดไปทั้งที่รู้ว่าพี่ไม่ได้ยินมัน เราอยู่ห่างกันมากเกินกว่าพี่จะได้ยิน แต่ฉันก็อยากพูดมันแบบนี้ พูดแล้วน้ำตาของฉันก็ไหลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันยิ้มและมองท้องของตัวเอง รู้สึกดีใจที่ลูกดิ้น ฉันรักเค้า แม้จะไม่คิดว่าจะสามารถมีเค้าได้แบบนี้

ใกล้เวลาที่ฉันจะคลอดลูกสาวมากเท่าไหร่ ร่างกายของฉันก็เหมือนต้องแบกรับภาระมากขึ้นทุกที หน้าอกขยายใหญ่ขึ้นมากกว่าตอนที่ฉันท้องอ่อนๆ มันเจ็บจนแทบสัมผัสไม่ได้เลย ฉันเดินได้ลำบากขึ้นเพราะท้องที่ใหญ่ขึ้นมาก เหนื่อยง่ายและรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็คิดว่าลูกคงจะทรมานฉันแบบนี้ได้อีกไม่นาน แล้วมันก็ไม่นานจริงๆ

ฉันเจ็บท้องคลอดในคืนหนึ่งซึ่งรู้สึกได้ว่ามันแปลกมาก คืนนั้นเป็นคืนวันพระจันทร์เต็มดวงและเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ฉันกับแอนมีความสัมพันธ์กัน ถึงจะจำไม่ค่อยได้ว่า แอนพาอะไรของเค้าเข้าไปในตัวฉันเวลาไหนแน่ๆ แต่ฉันรู้ว่ามันไม่ห่างจากเวลานี้เท่าไหร่เลย และฉันก็รู้ว่าอีกไม่กี่นาทีต่อไป ฉันจะได้ลูกสาว จะได้เห็นหน้าเค้าแล้ว

ฉันไม่ได้ไปคลอดที่โรงพยาบาล ท่านพ่อให้หมอซึ่งเป็นลูกน้องที่ท่านไว้ใจมาทำคลอดให้ฉันถึงที่บ้าน มันทรมานมากเลยการคลอดลูก ฉันเพิ่งรู้เอาวันนี้เองว่าคนที่เป็นแม่ต้องเจ็บมากขนาดไหนเวลาที่จะได้ลูกมาสักคน ฉันคิดถึงแอนมากเวลานั้น อยากให้เค้าอยู่ตรงนี้ พูดปลอบใจ จับมือให้กำลังใจ แต่มันคงเป็นได้แค่ภาพในจินตนาการ แอนไม่มีทางรู้หรอกว่า ฉันจะคลอดลูกวันนี้ ฉันไม่ได้บอกเค้า ท่านพ่อก็คงไม่เหมือนกัน ฉันเหงามากเหลือเกิน แอน.. ฉันคิดถึงพี่..

แต่ก็น่าแปลกอีกเหมือนกันที่เวลาที่ฉันเจ็บท้องคลอด ฉันกลับรู้สึกว่าแอนอยู่ด้วย ฉันรู้สึกว่าเค้าสัมผัสฉัน จูบฉัน เหมือนคืนนั้น แต่คราวนี้เค้าอ่อนโยนมากกว่าครั้งไหนๆในความฝันของฉัน และในฝันครั้งนี้ของฉัน เค้าไม่ได้สอดใส่อวัยวะพิเศษของเค้าเข้ามาในตัวฉันอีกแล้ว เค้าใช้ปากทำรักให้ฉัน ทำให้ฉันรู้สึกดีมากกว่าเจ็บเหมือนครั้งก่อนๆ ฉันตัวสั่นขณะกำลังคลอดลูก ฉันรู้ขาฉันสั่นมาก แต่เพราะความรู้สึกว่ามีแอนอยู่ด้วย และทำออรัลเซ็กซ์ให้ฉันอยู่ จึงช่วยให้ฉันไม่รู้สึกเจ็บมากเท่าที่ควรขณะศีรษะเด็กกำลังโผล่พ้นช่องคลอดของฉันออกมาเรื่อยๆ ใช่..เพราะจริงๆแล้วเป็นหมอที่กำลังช่วยพาลูกออกมาจากตัวฉันให้

ฉันกัดฟันทนจนเค้าคลอดออกมาจนได้ มันนานมากกว่าที่หมอจะสามารถนำลูกสาวออกมาจากช่องคลอดของฉันได้สำเร็จ เพราะเค้าตัวใหญ่มากทีเดียว ในตอนแรกหมอคิดว่า ฉันน่าจะเจ็บมากกว่านี้ แต่คงเป็นเพราะปาฏิหารย์ที่ฉันรู้สึกได้ถึงการกระทำอันอ่อนโยนของแอน มันช่วยลดความเจ็บของฉันให้น้อยลง แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากความรู้สึกเสร็จสมในอารมณ์รักที่แอนทำให้ฉันจากมโนภาพหายไปพร้อมกับความรู้สึกชา ฉันก็ได้รู้ว่าจริงๆแล้ว ฉันเหนื่อยและเจ็บตรงจุดนั้นมากแค่ไหน แต่มันก็มีอาการดีขึ้นทันทีที่เห็นหน้าของเค้า..ลูกสาวของฉัน อารมณ์โมโหที่เกิดขึ้นเพราะความเจ็บจากการปวดท้องคลอดหรือตอนคลอด หมดไปทันทีที่ฉันได้เห็นหน้าของลูกสาว

พยาบาลพาเค้ามาให้ฉันอุ้มในขณะที่ห่อตัวเค้าเรียบร้อยแล้ว ถึงฉันขยับตัวได้ไม่มากเพราะร่างกายไม่พร้อม แต่ก็ค่อยๆขยับขึ้นมาเพื่อจะรับเค้ามา ฉันอุ้มลูกสาวของฉันไว้แนบกับอกตัวเอง และฉันก็ได้เห็นว่า ลูกสาวของฉัน เค้าตัวขาวมากและดูจะมากกว่าผิวของฉันกับแอนที่ขาวมากอยู่แล้วทั้งสองคน เด็กน้อยในอ้อมอกของฉัน ผิวพรรณขาวนวลผ่องจนกระทั่งเห็นได้ถึงแสงเรืองรองที่ออกมาจากตัวของเค้า ฉันไม่แปลกใจเลยที่ผมของเค้าเป็นสีเงินแบบนี้ เหมือนแอนไม่มีผิดเลย และมันก็ไม่แปลกอีกเหมือนกันที่ลูกสาวฉันจะมีหน้าตาแบบนี้ ที่เหมือนฉันมากขนาดนี้ เพราะแอนกับฉันหน้าตาเหมือนกัน ฉันยิ้มให้เค้าทั้งๆที่ยังไม่หายเหนื่อยและเจ็บ จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วไล้เบาๆที่แก้มนุ่มๆนั่น แล้วความเป็นเด็กพิเศษของเค้าก็ทำให้เค้าสามารถลืมตาขึ้นมองหน้าฉันได้แม้จะเพิ่งคลอดออกมา ฉันประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นสีตาของลูกสาวเมื่อเค้าลืมตาขึ้นมองหน้าฉัน สีตาของเค้าเป็นสีฟ้าแต่เข้มมากกว่าของฉัน สีฟ้าครามเหมือนสีของท้องทะเลลึก นึกไปแล้วคงมาจากการผสมสีของสีตาของฉันกับแอนแน่ๆ แต่สิ่งที่ฉันตกใจมากที่สุดของการมีลูกครั้งนี้ก็คือ เค้าไม่สามารถรับน้ำนมจากอกของฉันได้ เค้าปฏิเสธมัน คงเพราะฉันเป็นแวมไพร์

น้ำตาฉันไหลออกมาอย่างไม่มีเวลาสั่งมัน เมื่อฉันรู้ความจริงแล้วว่า ลูกสาวที่เกิดมาจากตัวฉันเอง ไม่ได้เหมือนฉันกับแอน แม้หน้าตาและทุกส่วนในร่างกายของเค้าจะไม่ต่างจากฉันและแอนเลยก็ตาม แต่เค้าก็มีความแตกต่างอย่างที่ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะมีได้ สาเหตุที่ลูกไม่สามารถดื่มน้ำนมจากอกของฉันได้ เพราะว่า..เค้าไม่ใช่แวมไพร์เหมือนฉัน ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกันตามต้นกำเนิดของเค้า ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่า ลูกของฉันที่เกิดมาจากแอนในร่างของจอมมารรัตติกาล จะกลายมาเป็นแบบนี้ เค้าไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่ไม่ได้เป็นแวมไพร์เหมือนฉันกับพ่อของเค้า ลูกสาวฉันเป็น..นางฟ้า เค้ากลายเป็นสิ่งที่ฉันแตะต้องไม่ได้อีกต่อไป ทั้งที่เป็นผู้ให้กำเนิดเค้ามาด้วยความยากลำบากขนาดนี้ แต่ถึงไม่อยากเชื่อในความจริงเรื่องนี้ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

หัวใจของฉันแทบสลายเมื่อรู้ว่า ฉันไม่สามารถเลี้ยงเค้าจนเติบโตได้ เพราะความที่เราแตกต่างกัน ท่านพ่อดูจะเครียดมากกว่าฉันในเวลาที่ท่านหาทางช่วย แต่ท่านก็ทำได้เพียงให้คำแนะนำว่า หากฉันอยากให้ลูกอยู่และเป็นอมตะต่อไป ฉันควรจะพาเค้าไปหาสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกันกับเค้าเลี้ยงดูแทน นั่นจึงหมายความได้อย่างเดียวเลยว่า ฉันต้องพรากจากลูกสาวที่ฉันเพิ่งคลอดออกมาได้ไม่กี่นาทีที่ผ่านมา น้ำตาของฉันไหลอย่างหาทางที่จะหยุดไม่ได้ขณะที่ฉันกอดเค้าไว้แนบกับอกของฉัน อีกไม่นาน ฉันจะต้องพาเค้าไปให้คนอื่นเลี้ยงดูแทน แอนจะทำยังไงกันนะ ถ้าเค้ารู้เรื่องนี้ ฉันฉุกคิดขึ้นมา แต่ฉันก็ไม่มีเวลาแล้วที่จะไปปรึกษากับแอน ไม่มีเวลาที่จะไปอธิบายให้เค้าเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาแบบนี้ ฉันต้องตัดสินใจเดี๋ยวนี้ แล้วฉันก็ไปหาเค้า คนที่ฉันรู้จักมาตั้งแต่เด็กคนนั้น เทพีตนนั้น..อาร์เทมีส

พลังแวมไพร์ที่ฉันมียังฟื้นตัวได้ไม่ดีนักจากการที่ฉันเพิ่งคลอดลูกมา แต่ฉันก็ยังเหลือมันอยู่บ้างจนสามารถพาตัวเองมาถึงที่ที่เป็นที่อยู่ของอาร์เทมีสได้ และแทบไม่ต้องร้องหาเค้า อาร์เทมีสก็มาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฉัน เค้าเข้ามาประคองตัวฉันไว้ในเวลาที่ฉันยังอุ้มลูกไว้แนบอก อาร์เทมีสพาฉันนั่งลงอย่างระมัดระวังบนผืนหญ้า ฉันเห็นสายตาที่เค้ามองมาหาลูกของฉัน เค้าดูเอ็นดูในตัวเด็กมากพอสมควร ถึงเค้าจะมีท่าทางดุมากก็ตามที อาร์เทมีสไม่ได้ถามความจากฉันมากนัก เพราะเค้าก็พอรู้อยู่บ้างแล้วถึงที่มาที่ไปของเด็กซึ่งเป็นลูกของฉัน แต่ฉันก็สังเกตได้เลยว่า เค้าดูโมโหมากเวลาที่ฉันเล่าถึงแอน ใช่..เพราะเค้าไม่ชอบหน้าแอนมานานมากแล้ว นับตั้งแต่รู้ระแคะระคายว่าฉันตั้งท้องเพราะแอนทำ ถึงอย่างนั้น เค้าก็รับปากฉันว่า เค้าจะดูแลลูกสาวฉันให้เป็นอย่างดี แต่เค้าก็มีข้อแม้ที่ทำให้ฉันต้องหยุดคิดทั้งน้ำตา เค้าให้ฉันสัญญาว่า จะไม่มาหาลูกจนกว่าเค้าจะโต โตในที่นี้ก็คือ โตเป็นสาวราวๆกับที่ฉันเป็นอยู่ ซึ่งมันก็ไม่ได้นานมากสำหรับเด็กพิเศษอย่างเค้าที่จะโตได้เร็วจนเป็นสาว ฉันจึงแอบนึกดีใจกับข้อแม้อันนี้ แต่มันก็ยังมีข้อแม้อื่นอีกที่ฉันต้องยอมแม้ไม่อยากยอม นั่นก็คือ ลูกจะรู้ไม่ได้ว่าฉันเป็นแม่ของเค้าและก็รู้ไม่ได้เลยว่า เค้าเกิดมาจากแวมไพร์อย่างฉันกับแอน จนกว่าที่เค้าจะรู้มันด้วยตัวเอง ฉันถามหาเหตุผลในข้อแม้นี้กับอาร์เทมีสว่ามันเรื่องอะไรที่ฉันจะไม่ให้ลูกรู้ว่าเค้าเป็นลูกใคร และฉันก็ต้องนิ่งอึ้งทันที หลังจากที่อาร์เทมีสตอบมา เค้าบอกว่า มันเสียเกียรติและไม่เป็นผลดีกับนางฟ้าที่จะรู้ว่าเค้าเกิดมาจากสิ่งมีชีวิตชั้นที่ต่ำกว่าอย่างอมนุษย์ที่เรียกว่า..แวมไพร์ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ฉันเจ็บใจมากที่สุดของการเกิดมาอยู่บนโลกใบนี้ ฉันไม่มีค่าเลย แม้จะเป็นแวมไพร์เลือดแท้ที่ได้รับเกียรติมากที่สุดในหมู่พวกของฉัน เพราะฉันก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำกว่าเทพ เทพีหรือนางฟ้าอยู่ดี สรุปแล้วฉันจึงไม่มีค่าพอเลยใช่หรือไม่สำหรับการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ น่าสมเพชเวทนาเสียนี่กระไรชีวิตของฉัน แต่ฉันก็ต้องยอมรับมันอย่างไม่อาจจะมีข้อโต้แย้งอะไรกับอาร์เทมีสได้ หากต้องการให้ลูกยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างดีกว่าที่ฉันจะสามารถทำ

ฉันจูบลาลูกสาวของฉันบนหน้าผากเล็กๆของเค้าพร้อมน้ำตาที่ยังไหลออกมาเป็นสาย ก่อนที่ฉันจะส่งเค้าให้เข้าไปสู่อ้อมแขนของอาร์เทมีสที่กำลังรออยู่ เค้าบอกให้ฉันมั่นใจว่าลูกของฉันจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด บอกให้ฉันไม่ต้องเป็นห่วงอะไร และฉันยังมีสิทธิ์ที่จะสามารถรับรู้ถึงความเป็นอยู่ของลูกได้เสมอ จากข่าวสารที่อาร์เทมีสจะส่งไปบอกฉันเป็นระยะ ฉันมองหน้าลูกสาวของฉันเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากที่ฉันยืนขึ้นอย่างลำบากเพราะร่างกายฉันไม่เอื้ออำนวยในการทรงตัว ฉันลูบศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีเงินเส้นละเอียดอ่อนเหมือนกับของแอนและส่งความรักที่ฉันมีทั้งหมดในหัวใจใส่ไปให้เค้ากับสัมผัสนั้น ลูกสาวฉัน เค้ายิ้มให้ฉันเหมือนว่าเค้ารับรู้ในสิ่งที่ฉันให้และบอกไป ฉันก็ยิ้มให้เค้าทั้งน้ำตา จากนั้นฉันก็มองหน้าอาร์เทมีสเป็นครั้งสุดท้ายและบอกกับเค้าว่า ลูกของฉันจะต้องชื่อว่า..เซเรน่า เท่านั้น เพราะเค้าเกิดในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง แล้วฉันก็หายตัวไปจากที่นั่นด้วยพลังแวมไพร์ที่ยังพอมีเหลืออยู่ของฉันในทันทีหลังจากที่อาร์เทมีสพยักหน้ารับคำของฉัน

ลาก่อนลูกสาวของฉัน.. นางฟ้าของฉัน..เซเรน่า..

แล้วนับตั้งแต่วันนั้นมา ความเสียใจทั้งหลายของฉัน ก็ทำให้ฉันเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในปราสาทของท่านพ่อที่ทรานซิลเวเนีย นอนหลับอยู่บนเตียงของฉันโดยไม่คิดที่จะตื่นขึ้นมาอีกเลย เฝ้ารอจนกว่าจะถึงวันนั้นที่ฉันสามารถได้พบกับลูกสาวของฉันได้ ฉันจะไม่ออกมาจากห้องของฉัน ไม่ออกมาจากความฝันของฉันที่มีลูกของฉันอยู่ในนั้นด้วย อยู่กับแอน..

แต่ฉันไม่รู้เลยว่า.. สิ่งที่ฉันทำมันคือการกระทำที่ทำให้ฉันถูกคำสาปอย่างแท้จริงจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันไม่รู้จักเค้าเลย..

To be continue…

2 ความคิดเห็น:

[ Lightning ] กล่าวว่า...

อ่านตอนนี้แล้วเข้าใจเลยล่ะว่าเวลาคนท้องแต่ไม่มีคนที่คิดถึงหรือคนที่รักมาอยู่ด้วยมันรู้สึกเหงาแค่ไหน.. มันว้าเหว่นะที่คนที่ทำให้เด็กเกิดมาไม่ได้อยู่ตรงนี้ อยู่ดูว่าลูกของเค้าเป็นยังไงบ้าง แข็งแรงดีมั้ย แล้วแม่ของลูกสบายดีหรือเปล่า..แต่มันก็เป็นเส้นทางที่อลิสซ่าเลือกเอง เพราะฉะนั้นโทษใครไม่ได้ กลับกันนะ คนที่ต้องอุ้มท้องตามลำพังจะต้องเข้มแข็ง ไม่ควรจะแสดงความอ่อนแออกมามาก เพราะสิง่มีชีวิตที่อ่อนไหวมากๆกำลังเจริญเติบโตอยู่ในตัวเอง.. เด็กจะรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างของแม่ตั้งแต่อายุครรภ์ได้แค่ 4 อาทิตย์ หรือก็คือสองเดือนนั่นแหละ นั่นคือคามอายุครรภ์ของมนุษย์ธรรมดา แต่อลิสซ่าไม่ใช่ อลิสซ่าเป็นแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ เด็กจะต้องโตเร็วกว่านี้แน่นอน และก็รับรู้ถึงความเป็นไปในจิตใจของแม่ได้เร็วกว่าแน่นอน..

แต่มันก็ห้ามความคิดถึงไม่ได้นี่เนาะ เพราะแอนเป็นคนแรกของอลิสซ่า เป็นคนที่พรากเอาสิ่งสำคัญที่สุดของลูกผู้หญิงไป ถึงแม้จิตใจมันจะไม่ได้รัก แต่ความผูกพันมันก็สร้างให้ความรู้สึกนั้นขึ้นมาในภายหลังได้เหมือนกัน.. ยิ่งคนท้อง อารมณ์โหยหาสัมผัสแห่งรักมันยิ่งจะมากขึ้นกว่าคนปกติ เพราะฮอร์โมนมันพุ่งพร่าน และก็จะยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอในทุกๆด้าน ต้องการการดูแล.. ที่อลิสซ่าเห็นแอนในความฝัน แล้วเค้ามาทำแบบนั้นให้บ่อยๆเพราะอลิสซ่าคิดถึงแอนนั่นแหละ ลูกจะไม่ได้รับรู้ถ้าคนที่เป็นพ่ออยู่ไกลมาก เพราะเด็กจะรู้สึกถึงการมีตัวตนของพ่อแม่ได้ก็จากการสัมผัสเท่านั้น ถึงจะเป็นเด็กที่มีความพิเศษก็เถอะ.. คนที่โหยหาและสร้างมโนภาพเหล่านั้นมาก็คืออลิสซ่าเอง.. จะบอกว่าแอนรู้เรื่องที่อลิสซ่าท้อง แล้วก็ถอดจิตมาหา นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะขนาดไปเจอเซเรน่าที่หน้าตาเหมือนตัวเองขนาดนั้นยังไม่ฉุกคิดอีก ว่าเค้าอาจจะเกียวข้องกับตัวเอง.. ทั้งๆที่ตอนนั้นแอนก็ได้ไปทำให้ไมท้องแล้วก็คลอดเจ้าไอออกมาแล้วน่ะ.. ข้าพเจ้าก็เลยคิดว่าความต้องการในการทำอย่างนั้นของอลิสซ่าเองนั่นแหละ ที่ทำให้เกิดเรื่องฝัน(เปียก.. อิอิ)ขึ้นมาได้ และสัมผัสแรกก็ได้มาจากแอนนี่นา จะไปคิดถึงคนอื่นทำไมกันล่ะ.. (ฮ่าๆๆๆๆๆ)..

ในที่สุดอลิสซ่าก็คลอด (ตอนคลอดยังไม่วาย.. หื่นอีกนะ ฮ่าๆๆๆ ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาเค้าไม่มีเวลาไปคิดเรื่องแบบนั้นหรอก เพราะมันเจ็บมาก.. มากที่มากที่สุดอ่ะนะ เจ็บจนจะตายให้ได้เลยล่ะ แถมยังเสียเลือดเยอะ บริเวณนั้นมันปวดจนอาจจะไม่รู้สึกถึงอย่างอื่นอีกก็ได้.. แต่อลิสซ่าสามารถ.. อิอิ) ตอนคลอดคิดถึงแอนขนาดหนักเลยนะเนี่ย ไม่แปลกๆ เพราะคนนั้นเค้าคือพ่อของลูกนี่นา ต้องอยากให้มาอยู่ด้วยในเวลาสำคัญอย่างนี้อยู่แล้ว.. แต่ตอนที่คลอดออกมาแล้วนี่สิ สงสารอลิสซ่ามากเลยอ่ะ อุ้มท้องมาตั้งหลายเดือน คลอดออกมาด้วยความลำบาก.. แต่ลูกของเรา เรากลับเลี้ยงเองไม่ได้ เพราะเค้าไม่เหมือนเรา เค้าแตกต่าง เลยต้องทนทรามานเอาลูกของตัวเองไปให้คนอื่นเลี้ยงทั้งๆที่ยังอุ้มได้ไม่ถึงวันเลย น้ำนมจากอกแม่ลูกก็ไม่ยอมรับ แล้วยังจะไม่ได้เห็นหน้าลูกจนกว่าลูกจะโต แล้วก็ห้ามบอกว่าตัวเองเป็นแม่อีก อะไรมันจะทรมานขนาดนี้.. สงสารสุดๆเลย.. T^T..

อาการเพ้อของอลิสซ่านี่น้า.. ข้าพเจ้าคิดไปแล้วนะเนี่ย ที่บอกว่า "ไม่รักๆ" เนี่ย.. อาจจะเป็นเรื่องโกหกก็ได้อ่ะ..

สุดท้ายอลิสซ่าก็ตรอมใจ นอนหลับจำศีลอยู่ในห้องเพื่อนรอเวลาลูกโต แล้วก็อาจจะได้ไปเจอหน้าเค้าอีก..

ว่าแต่.. แล้วไอ่การถูกสาปจากผู้หญิงเนี่ย.. มันเป็นใครกัน บังอาจมาทำร้ายอลิสซ่าผู้น่าสงสารของข้าพเจ้าได้ยังไง.. ต้องติดตามตอนต่อไป.. อิอิ..

ขอบคุณมากๆค่ะ เรื่องสนุกๆๆขึ้นทุกวันเลยน๊า.. แล้วมาอีกเน้อ.. ข้าพเจ้ารอเสมอค่ะ.. ^^

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Lookgolf ‘s comment...

มุมมองของอลิสซ่าจังว่าที่คุณแม่ กับภายหลังความผิดพลาดในความสัมพันธ์ลึกซึ้งของอลิสซ่าจังและแอนจัง อิอิ
เมื่อได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ความรู้สึกแรกที่มี คืออยากจะมอบโล่ สาขารางวัล “ชีวิตเศร้าโศก อุดมไปด้วยเคราะห์ซ้ำกรรมซัด” ให้กับอลิสซ่าจัง แวมไพร์เลือดแท้ตัวนี้จริง ๆ เหอ ๆๆ

ชีวิตของอลิสซ่าภายหลังจากการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพี่สาวคนโตของตัวเอง ที่แม้จะเกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจและความกระหายเลือดตามสัญชาตญาณดิบของแวมไพร์นั้น ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล และเรื่องราวจากการกระทำนั้นไม่ได้จบลงในคืนนั้นเฉกเช่นของแอนจัง เพราะผลพวงจากการกระทำดังกล่าว ยังคงปรากฏอยู่อย่างไม่อาจมองข้ามได้ นั่นคือการตั้งครรภ์..ทำให้นอกจากจะรู้สึกผิดกับการพลั้งพลาดไปมีอะไร ๆ กับพี่สาวของตัวเองแล้ว อลิสซ่าจังยังต้องรู้สึกผิดกับการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ แถมครรภ์นี้ยังตีตราแวมไพร์เลือดแท้คนนี้ให้เปรียบเสมือนเป็นของมีตำหนิอีกด้วย..ชีวิตช่างย่ำแย่น่าดู..และไหนจะความเปลี่ยวเหงาจากการอุ้มท้องเพียงลำพังอย่างไร้คนเคียงข้างตลอดเวลาที่ตั้งครรภ์นี่อีก และไหนจะความข่มขืนใจจากการจำต้องปล่อยให้พ่อในท้องของลูกตนเองอยู่ดูแลน้องสาวอีกคน จนตัวเองไม่สามารถบอกกล่าวถึงความเป็นพ่อในท้องนั้นได้ และต้องกลับมาเผชิญกับสถานการณ์นี้เพียงคนเดียวอีกครั้ง พร้อมกับความรู้สึกที่เป็นส่วนเกินที่ไม่มีใครต้องการนั่นอีก...จึงทำให้ชีวิตของอลิสซ่าจังในช่วงเวลานี้ช่างน่าหดหู่จริงๆ

ยัง!!..เท่านั้นยังไม่พอ...ยังมีความวิตกจริตจากการอุ้มท้องเพียงลำพังจนกระทั่งเพ้อไปว่าแอนจังมาอยู่เคียงข้างตลอดเวลาอีก แม้จะมีข้อดีอยู่เหมือนกันเพราะทำให้อลิสซ่าจังไม่รู้สึกว้าเหว่มากไปกว่านี้...และไหนจะความเป็นจริงอันโหดร้ายที่ต้องพรากแม่และลูกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นานไปอีก ซึ่งส่งผลตามมาถึงความอ้างว้างและเปลี่ยวเหงาของอลิสซ่าจังที่ต้องแยกจากลูกรักภายหลังคลอด รวมถึงการตอกย้ำความเลวร้ายในชีวิตของตัวเองด้วยการที่ลูกนั้นปฏิเสธน้ำนมจากแม่อย่างตนและความแตกต่างระหว่างชาติกำเนิดของตนที่เป็นแวมไพร์ผู้ต้อยต่ำกับลูกน้อยที่เป็นนางฟ้าผู้สูงศักดิ์อีก..บอกได้คำเดียวว่า รันทดจริงๆ เหอๆๆ

ขอบคุณนะคะ ไรท์เตอร์..เจอเรื่องราวของอลิสซ่าจังเข้าไปแล้ว รู้สึกเห็นใจชะตากรรมและชีวิตของอลิสซ่าจังจับใจ แต่ก็เชื่อว่า ยังไงก็ต้องมีฟ้าใสรออยู่หลังพายุฝนเป็นแน่ สู้ๆ นะ อลิสซ่าจัง...จะรออ่านตอนต่อไปแน่นอนก๊าบ อิอิ

fiction Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...