Human Again.
Rated: M
English - Horror/Romance
Alice & Claire R.
By : andella07/FanFiction.net
Translated to Thai : Anhy
Chapter 19 : Viper.
เมื่ออลิซเดินเข้าไปในห้องโถง เธอเห็นลูเทอร์ แองเจิ้ล และแคลร์ นั่งรวมกันอยู่ที่โต๊ะ พวกเขากำลังสนุกสนานกันเหนือจานอาหารที่ว่างเปล่า สาวผมแดงนั่นไม่ได้มองขึ้นมาขณะที่เธอเดินผ่านพวกเขาเพื่อไปหยิบจานอาหารของตัวเอง
เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลพยายามควบคุมอารมณ์ที่เดือดพล่านเอาไว้ระหว่างที่เธอฟังบทสนทนาของพวกเขาสามคน และมีคริสตัลที่พยายามจะคุยกับเธอขณะเสริฟอาหารให้
แต่เสียงของแคลร์ก็ดังขึ้นเหนือเสียงของคริสตัลมาให้ได้ยิน
“นายรู้มั้ยว่า.. ฉันมีความรู้สึกแปลกมากๆที่คิดว่า ฉันรู้จักนาย..” สาวผมแดงพูดอย่างประหลาดใจใส่ลูเทอร์
“ครับ.. ผมได้ยินมาบ่อยเรื่องนี้..” เขาเอ่ยตอบด้วยท่าทางภาคภูมิ
มันช่างเป็นวิธีปลุกอีโก้ในตัวนายนั่น..แคลร์ แล้วทำไมเธอถึงจะรู้ว่า..เขาเป็นใคร ความทรงจำของเธอมันมีนิดเดียวนี่..
“อืม..คุณเป็นแฟนบาสเกตบอลรึเปล่า..” ชายผิวสีเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยทางแคลร์
“เอ่อ.. เดี๋ยวนะ.. ลูเทอร์ เวสท์..” ดวงตาของสาวผมแดงเป็นประกายระหว่างที่เธอพูด “สตาร์พอยท์การ์ดของแอลเอ เลเกอร์..”
เวร.. หล่อนจำเขาได้ หล่อนจำช็อตเด็ดของนักกีฬานั่นได้ แต่จำฉันไม่ได้.. อลิซคิด
ลูเทอร์ยิ้มกว้างและวางมือใหญ่ๆของเขาบนบ่าข้างหนึ่งของแคลร์ “ยินดีเสมอครับที่ได้เจอแฟนคลับ..” เขากล่าว อลิซใช้เวลาประมาณสองวินาทีในการปลดมีดพกของเธอออกมาจากจุดที่เก็บไว้ แต่จากนั้นชายในชุดสูทสีดำก็เดินผ่านหน้าเธอ แล้วหยิบจานอาหารที่ถูกยื่นให้กับเธอไป โดยไม่พูดอะไรและความน่ารำคาญใจใหม่นี้ก็หักเหความสนใจของสาวผมสีน้ำตาล
“เฮ้...” อลิซเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจใส่เขา แต่ชายคนนั้นเดินจากไปอย่างไม่สนใจและนั่งลงข้างชายชาวเอเชีย แคลร์กับลูเทอร์กำลังหัวเราะอีกแล้ว แต่คริสตัลพูดขึ้น
“คนแย่ๆก็เป็น..คนแย่ๆเหมือนเดิม..”
“เขามีปัญหาอะไรล่ะ..” อลิซโต้ตอบ
“เมื่อก่อนน่ะค่ะ เราเคยเดทกัน เขาเป็นโปรดิวเซอร์และฉันก็กำลังพยายามจะเป็นนักแสดง คุณต้องเดาได้แน่ๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน..” คริสตัลกล่าว พลางส่งถอนหายใจระหว่างที่เธอส่งจานอาหารให้อลิซ
“แล้วเขาล่ะ..” สาวผมน้ำตาลถามต่อและพยักเพยิดหน้าไปทางชายชาวเอเชีย
“นั่น คิมยอง ลิ่วล้อของเบนเนทน่ะค่ะ..”
“ขอบคุณสำหรับอาหารนะ.” อลิซพึมพำและเดินกลับมาร่วมกับแคลร์และคนอื่นๆ เธอนั่งลง คนอื่นๆเงียบไปกะทันหัน นาทีที่เธอหยิบช้อนขึ้น สาวผมแดงก็ลุกขึ้นจากโต๊ะและออกจากห้องโถงไป อลิซสูดลมหายใจลึกๆเพื่อควบคุมอารมณ์ของเธอไม่ให้แสดงออกมากเกินไปและเริ่มต้นทานอาหาร ขณะที่คริสตัลเข้ามานั่งตรงจุดที่แคลร์จากไป ลูเทอร์กับแองเจิ้ลเดินนำอาหารจานที่สองกัน และนั่นก็ทำให้นักแสดงสาวมีโอกาสเอ่ยถามอลิซ
“เครื่องบินของคุณ.. คิดว่ามันยังบินได้อยู่มั้ยคะ..”
“ได้สิ.. แต่มันแค่สองที่นั่งเท่านั้นนะ..” อลิซตอบ
“แล้วคุณจะพาพวกเราไปคนละครั้งได้รึเปล่าคะ..” คริสตัลถามขึ้นอย่างกระตือรือร้น แต่หยุดชะงักทันทีเมื่อลูเทอร์เดินกลับมา
“เธอโชคดีแล้วที่จอดได้ครั้งนี้ เจ็ดหรือแปดครั้ง ก็เท่ากับฆ่าตัวตาย..”
นักแสดงสาวกลับไปสนใจอาหารของเธอและจบการรับประทาน อลิซไม่ได้รู้สึกหิวเลยแม้แต่น้อย และมันก็เป็นไปได้ว่าอาหารทุกอย่างนั่นอาจจะทำให้เธอป่วย หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะลูเทอร์ที่กำลังสาธยายเกี่ยวกับเรื่องภาคภูมิใจของเขาในวันแข่งต่างๆ ใช่..เขาพรรณาถึงช่วงที่เขาทำสามแต้มได้และทำให้ทีมชนะในรอบสุดท้าย อลิซมองคริสตัลลุกขึ้นและทำอาหารจานที่สอง จากนั้นก็ออกจากห้องไป โดยที่ลูเทอร์และคนอื่นๆไม่สังเกตเห็น
สาวผมน้ำตาลขัดจังหวะการเล่าของเขาด้วยความเห็นของเธอ “คุณพูดว่า เจ็ดหรือแปดครั้ง ยังมีใครอีกหรือที่ฉันยังไม่ได้เจอ..”
ชายผิวสีเหลือบตาขึ้นมองดูเธอทำท่าประหลาดใจ “โอ้..นั่น..เวนเดลไงล่ะ..”
“นั่นคนที่เจ็ด และใครล่ะคนที่แปด..”
ลูเทอร์ดูไม่พอใจกับประโยคคำถามของอลิซและนั่นก็ทำให้เธอเดาได้ว่า เขาคงจะเคยเป็นแต่คนควานหาคำตอบ ไม่ใช่คนที่คอยตอบใคร
“เขาไม่ควรค่ากับการเสียเวลาของคุณ..” ลูเทอร์เตือน
“ฉันจะตัดสินใจในเรื่องนั้นเอง เขาอยู่ที่ไหน..”
ชายผู้นำนั่นสูดลมหายใจอย่างรำคาญก่อนการตอบ เขาส่งสัญญาณไปทางประตูที่คริสตัลเดินผ่านเข้าไปและพูดขึ้น “ไปทางขวา ลงบันไดไปข้างล่าง เขาอยู่ที่ปลายห้องโถง..” ฟันขาวอย่างไม่เป็นธรรมชาติของลูเทอร์โชว์ออกมาขณะที่เขาส่งยิ้มอย่างไม่จริงใจ อลิซลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินไปยังประตูนั่น เมื่อเธอเดินผ่านมัน เธอหันไปทางซ้ายอย่างที่เห็นคริสตัลทำและส่งยิ้มกลับมาให้ลูเทอร์ที่กำลังขู่ด้วยการกลายรอยยิ้มของเขาเป็นการแยกเขี้ยวใส่เธอ
ขั้นบันไดมีแสงสลัวของคบเพลิง อลิซก้าวเดินลงไปด้วยความระมัดระวัง จนถึงตอนท้ายสุดของห้องโถงนั่น ด้านหลังประตู เธอสามารถได้ยินเสียงกระซิบ เธอแน่ใจเลยว่ามันคือเสียงของคริสตัลและเสียงนุ่มโทนต่ำของชายคนหนึ่ง
“บอกผมมาเกี่ยวกับคนใหม่นั่น – นักบินน่ะ..” ชายคนนั้นถาม
“เธอก็ดีค่ะ แต่เครื่องบินของเธอมีแค่สองที่นั่งนะ – มันดูดี----.”
“เงียบๆหน่อยสิ..ที่รัก ยังไงเราก็ไม่ต้องอาศัยเครื่องบินของเธอหรอก.. ที่เราต้องการคือความช่วยเหลือของเธอมากกว่า..”
บทสนทนานี่ทำให้อลิซมีปัญหา มันคือการวางแผนและการเตรียมการ
“แต่ถ้าความคิดของคุณไม่ได้ผลล่ะคะ..” คริสตัลถามขึ้น
“ต้องได้สิ ตอนนี้ก็ทำตัวเป็นเด็กดีหน่อยนะ และเข้าทางลูเทอร์ไว้..”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือผู้นำอีกคน คนออกคำสั่ง มีความมั่นใจในทุกอย่างที่เขาคิดทำ
ก่อนที่นักแสดงสาวจะมีโอกาสเปิดเผยการซ่อนตัวสอดแนมของอลิซ สาวผมสีน้ำตาลก็เปิดประตูและเดินเข้าไปในห้องนั่น ด้านในมีห้องขังที่มีรั้วรอบขอบชิดซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของชั้นนั้น เธอตกใจที่เห็นชายคนหนึ่งอยู่ด้านในห้องขังนั่น
“โอ้..สวัสดีค่ะ..” คริสตัลฟื้นตัวได้
อลิซจำเป็นต้องแสดงตัวไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย เธอจึงเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางปกติ “สวัสดี..”
นักโทษนั่นหันมาหาอลิซและเธอก็สังเกตได้เลยตั้งแต่ครั้งแรกในท่าทางที่เขาเป็น เขาเห็นเธอ จากนั้นก็หันไปสบตากับคริสตัล ออกคำสั่งทางสายตา สาวคนนั้นจากไปโดยไม่เอ่ยพูดอะไรออกมาสักคำระหว่างที่ชายหนุ่มวางจานของเขาลงและยื่นมือของออกมาทักทายจากช่องของห้องขัง
“คริสครับ..”
อะไรกันนะ พวกผู้ชายพวกนี้ถึงได้สุภาพกันนัก อลิซถามตัวเองในใจ แต่เธอไม่ได้บอกชื่อตัวเธอหรือยื่นมือให้เขา
เพื่อไม่เป็นการเก้อเขิน คริสเปลี่ยนการเสนอมือของเขาเพื่อมาทักทายให้กลายเป็นการชี้นิ้วแทน “คุณเป็นคนที่ขับเครื่องบินนั่นใช่มั้ยครับ..”
อีกครั้งที่ต้องทำเพื่อกลบเกลื่อนสำหรับการสืบข่าวของเธอ เธอจึงถาม “คุณรู้ได้ยังไงล่ะ..”
“คริสตัลบอกผม..”
จริงๆเลย – นี่เป็นเรื่องใหม่ อลิซคิดไปในขณะที่คริสนำมือของเขากลับและเอ่ยต่อ
“ฟังนะครับ ผมรู้สึกว่า เราสามารถช่วยเหลือกันและกันได้ เหมือนกับที่เรียกว่า... คุณเกาหลังให้ผม – ผมเกาให้คุณ..” ดวงตาสีเขียวของคริสจ้องมองเธอ คิ้วต่ำๆของเขาช่วยในการจดจ้องและวินาทีหนึ่งเธอรู้สึกประหลาดในการมองแบบนี้ การเรียกความสนใจจากชายหนุ่มรูปงามอาจจะทำได้สำเร็จกับนักแสดงสาวนั่น แต่ไม่ใช่กับเธอ
“และแค่กับอะไรที่คุณมี คงน่าจะเป็นอะไรที่ฉันต้องการ..งั้นสิ..”
“ทางออกไงครับ..”
“ผิดแล้ว..” อลิซเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ฉันมีทางออกของฉันอยู่แล้ว..”
คริสไม่ได้ไร้สมอง “คุณลงจอดอย่างไม่เอาไหนในครั้งแรก และนั่นก็หมายความว่า โอกาสที่คุณจะนำเครื่องขึ้นสำเร็จน่ะ มีน้อยมาก มากกว่านั้น ทำไมคุณจะต้องเสี่ยงชีวิตด้วย และนั่นก็ชีวิตของเพื่อนคุณด้วยเหมือนกัน..” เขาเอ่ยถึงแคลร์ อลิซโมโหขึ้นจมูกทันที “แค่จะจากไปงั้นรึ ? คุณต้องการช่วยคนอื่นๆ ผมรู้ว่าคุณต้องเป็นอย่างนั้น..”
อลิซไม่ชอบเลยที่ชายคนนี้อ่านเธอออกง่ายๆ หรือบางที เธออาจจะเป็นหนังสือที่เปิดอ่านง่ายกว่าที่เธอคิดไว้
“คุณช่วยผม และผมก็สามารถช่วยพวกเขาได้..” เขาเอ่ยต่อ
“เหมือนกับฉันจะเดาได้ว่า ทำไมคุณถึงได้อยู่ในนั้น..”
“ทำไมผมถึงอยู่ในนี้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ผมก็บอกได้ว่า – ผมไม่ใช่นักโทษ..”
คริสพยายามแสดงทีท่าโน้มน้าวใจ แต่อลิซไม่สนใจมัน “แล้วทำไมฉันถึงจะต้องเชื่อใจคุณล่ะ..”
“หรือคุณจะทิ้งโชคชะตาของคุณไว้ในมือของลูเทอร์ล่ะครับ ผู้ชายคนนั้นมันงี่เง่า มีแต่แรงไม่มีสมอง ไม่เหมือนเราสองคน ผมสามารถเห็นมันได้นะครับ..”
เธอไม่ชอบเลยที่จะต้องยอมรับเรื่องนี้ คริสพูดถูกต้องและเธอก็เริ่มจะชอบในวิธีคิดของเขา
เขาเอ่ยต่ออีก “ผมไม่สนใจว่าคุณจะทำยังไง โน้มน้าวใจลูเทอร์ให้ปลดกุญแจห้องขังนี่ ขโมยกุญแจจากกระเป๋าของเขา หรืออัดเขาให้ดิ้นและเอาอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ..”
ใช่แล้ว..อลิซชอบคริสมากขึ้นและมากขึ้นแล้วตอนนี้ “แค่เอากุญแจมาให้ได้ แล้วผมจะทำที่เหลือเอง..”
ทันใดนั้น คริสเดินกลับไปสุดทางของห้องขังของเขา หยิบจานอาหารและเริ่มต้นทานมันระหว่างที่ลูเทอร์เดินเข้ามาในห้อง
“ผมจะไม่เชื่อที่เขาพูดสักคำ..” ชายผิวสีเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด “มันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น เขาพูดได้ทุกอย่างที่จะได้ออกมา..”
อลิซเริ่มทบทวนถึงความเป็นไปได้กับเรื่องในหัวของเธอ ลูเทอร์ก็เอ่ยขึ้นอีก “ผมจะพาคุณไปที่ห้อง..” สาวผมสีน้ำตาลเดินตามหลังชายร่างใหญ่นั่นออกไปแต่ชำเลืองกลับมาที่คริสขณะที่เขาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์กลับมา
เราติดอยู่กับกับดักของพวกอสรพิษ ลูเทอร์มีเขี้ยว แต่คริสมีพิษ อลิซรำพึงในใจ
ลูเทอร์หยิบคบเพลิงอันหนึ่งขึ้นมาและเริ่มขึ้นบันได “ถ้าผมเป็นคุณล่ะก็ จะไม่กลับไปที่นั่นอีก ผู้ชายคนนั้นมันอันตราย..” เขาเตือนเธอด้วยความไม่จริงใจนัก
ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนเดียวหรอก...
“ผมเห็นมันในตาของเขา..”
ฉันท้าให้นายมองตาฉัน ยิ้มให้กับความเจ้าเล่ห์ดูจะเหมาะกับสถานที่แห่งนี้ เพราะความคิดนี่..
อลิซเผยยิ้มเยาะเหมือนปีศาจร้ายตัวจริง..
To be continue….
2 ความคิดเห็น:
สงครามเย็นก่อตัวขึ้นเหนือหญิงสาวทั้งสองคนแล้วอ่ะ แคลร์พยายามปั่นหัวอลิซอย่างรุนแรงเลยนะตอนนี้.. แล้วมันก็ได้ผล อลิซโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ก็ยังสามารถเก็บมันไว้ในใจไม่แสดงออกมา เพราะไม่ต้องการให้ใครรับรู้เรื่องระหว่างเธอกับแคลร์ (งั้นเหรอ??) แต่จะบอกให้นะ ว่าสิ่งที่แคลร์ทำลงไปเนี่ย มันจะยิ่งไปสร้างแผลในใจให้อลิซ การที่อลิซเว้นช่องว่างระหว่างตัวเองกับแคลร์เอาไว้ในตอนแรก มันก็จะยิ่งมากขึ้นนะ.. สู้หันหน้าคุยกันดีๆ ไม่ดีกว่าเหรอ.. แบบนี้มันจะยิ่งเข้าใจผิดกันไปซะเปล่าๆ แล้วความรู้สึกดีๆที่มีให้กันมันก็จะค่อยๆลดลงด้วยนะ.. เหอๆๆ
แต่ข้าพเจ้าล่ะหมั่นไส้ไอ่บ้าลูเทอร์นี่จริงๆเลย เก๊กไปไหน หล่อตายล่ะ.. ฮ่าๆๆๆ.. คงเป็นอย่างที่คริสว่านั่นล่ะนะ มันไม่มีสมอง.. ฮ่าๆๆๆ.. ปากจัดจริงๆ สมแล้วที่เป็นญาติกับใครบางคนน่ะ.. อิอิ..
แล้วอลิซจะตัดสินใจยังไงนะ จะช่วยคริสออกมาจากที่คุมขัง แล้วก็หนีไปด้วยกันหรือเปล่า หรือจะยอมทนอยู่ที่นี่กันแน่.. เอาล่ะ.. แบบนี้ต้องรอดูกันในตอนต่อไป.. อิอิ..
ขอบคุณมากเลยนะคะ เรื่องสนุกมากขึ้นทุกวันเลยอ่ะ.. แล้วมาต่ออีกนะ.. ข้าพเจ้าจะรอ.. ^^
อยากจะบอกว้าเพิ่งได้เจอบล็อกคะกำลังหาอะไรมันส์แบบนีอ่าน
มาเจอฟิคแปลงพอดี แหะๆ
อย่างแรกต้องขอบคุณนะคะที่แปลมาให้อ่าน
สนุกมากคะชอบ
ฮิฮิ
อลิซแคล ในดวงใจ >< (อันที่จรืงก็แอบจิ้น จิล แคล ฮ่าๆ)
แปลได้ดีคะ เนื้อสนุกดี ไม่สะดุดเวลาต่อเข้าหนังด้วย ชอบๆ ><
อยากอ่าน แปลอีกนะคะ สาธุขอให้คนเขียนต้นฉบับอัพไวๆ ฮิฮิ
สู้ๆคะคนแปล ^^
แสดงความคิดเห็น