2554-01-19

The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.12


The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.12

Pairing : Anh x Shizuru x Alyssa

Rate : M

Genre : Drama - Romance

By : Anhy

My Curse - 4 : Alyssa’s POV

ฉันกำลังรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองถูกสาปให้กลายเป็นหิน เพราะเวลานี้ฉันขยับตัวไม่ได้เลย แม้จะรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงและเสียงดังยิ่งกว่ากลองรัว จนหูของฉันแทบไม่ได้ยินเสียงอาร์เทมีสบอกแนะนำตัวคนที่มายืนอยู่ตรงหน้าของฉัน ฉันยืนนิ่งอึ้งตาโตอยู่นานจนกระทั่งรู้สึกว่าใครบางคนแตะบ่าฉัน ใช่แล้วล่ะ..คงจะเป็นมือของใครไม่ได้ที่อยู่บนบ่าของฉันนอกจาก..อาร์เทมีส อาร์เทมีสช่วยเรียกสติฉันกลับมา แล้วในที่สุดฉันก็ได้ยินเสียงของตัวเองพึมพำเบาๆ คล้ายกับกำลังล่องลอย

สะ..สวัสดีจ้ะ..เซเรน่า..

ใช่..ฉันมายืนอยู่ตรงหน้าเค้าแล้วตอนนี้ ทุกๆอย่างที่เห็นอยู่นี่คือเรื่องจริง ผู้หญิงสาวสวยที่ทำให้ฉันยืนนิ่งค้างคล้ายถูกสาปเพียงแค่เห็นหน้าก็คือ ลูกสาวของฉันเอง ลูกสาวที่ฉันรอคอยมาแสนนานกว่าจะได้พบเจอเค้าจริงๆ และเวลานี้ดวงตาคู่สวยของเค้าก็กำลังมองฉันอยู่ด้วยสายตาประหลาดใจแต่ไม่คลายความโอบอ้อมอารีที่มีอยู่ในแววตา ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมเค้าจึงได้เป็นถึง..นางฟ้า

ฉันไม่อาจลดอาการเกร็งของตัวเองลงได้ เมื่อเห็นหน้าตาของเค้าใกล้ๆแบบนี้ ฉันในเวลานี้ รู้สึกทั้งความสุขและความปวดร้าวในหัวใจไปพร้อมๆกัน เพราะหากว่านางฟ้าตรงหน้าฉัน ไม่ได้มีสีตาเป็นสีนี้แล้วล่ะก็ ฉันก็คงคิดว่าเป็นเค้าคนนั้นที่ฉันเห็นอยู่แน่ๆ..แอน..

เซเรน่า.. ร่างสูงสง่าที่เป็นสาวเต็มตัวแบบนี้ของเค้า ทำให้ฉันตกตะลึง ด้วยความคาดไม่ถึงว่า ลูกสาวของฉันเองจะเหมือนตัวฉันและ..อีกคนหนึ่งที่เป็นคนทำให้เค้าเกิดมาอย่างมาก ใจฉันสั่นและพยายามสะกดกลั้นน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหล มันเจ็บข้างในใจอย่างหาอะไรมาอธิบายไม่ได้กับอารมณ์นี้ ลูกของฉันทำให้ฉันคิดถึงเค้ามากขึ้น ใช่..เพราะเซเรน่ามีรูปร่างหน้าตาแม้กระทั่งเส้นผมที่เหมือนแอนราวกับคนเดียวกัน แต่เวลานี้ ฉันมาที่นี่ เพื่อจะมาหาลูก ไม่ใช่มาเพื่อจะคิดถึง..คนอื่น

เพราะแอนถือว่าเป็นคนอื่นแล้วสำหรับฉัน ถ้าไม่ใช่ว่าเค้าเป็นพี่ของฉันตามสายเลือดเดียวกัน

แม้จะเป็นแค่เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆที่อาร์เทมีสอนุญาตให้ฉันได้อยู่กับลูก ฉันก็มีความสุขที่ได้เห็นกับตาว่าเค้า เติบโตขึ้นมาพร้อมความสวยสง่าอย่างที่เห็น ผิวขาวของเค้ายังคงเหมือนเดิมครั้งแรกเกิด มันขาวนวลและผ่องจนเรืองรองออกมาสะดุดสายตาฉัน เซเรน่าต่างจากฉันและแอนที่เป็นแวมไพร์ชัดเจนก็ตรงนี้ เพราะตามปกติผิวพรรณของแวมไพร์จะขาวซีดเหมือนคนไม่มีเลือดอยู่ตลอดเวลา ยกเว้นอยู่หนึ่งคนเท่านั้นที่แตกต่าง นั่นก็คือ..ชิจัง รายนั้นเป็นแวมไพร์ที่หน้าตามีเลือดฝาดมากกว่าทุกๆคนที่ฉันเคยเห็น ไม่มีใครให้คำตอบได้ในเรื่องนี้ แต่มันก็ทำให้เค้าดูดีมากกว่าใครในพวกเราสามคนพี่น้อง

ฉันทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่กับลูกแบบนี้ เพราะเค้าก็ไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร อาร์เทมีสยังคงสั่งห้ามการเปิดเผยตัวตนของฉันในเรื่องของการเป็นแม่กับเซเรน่า ซึ่งฉันถึงจะไม่พอใจนักแต่ก็จำเป็นต้องยอม เพราะแค่เห็นลูกมีความสุขดี ฉันก็ดีใจ ฉันนึกขอบคุณอาร์เทมีสในเรื่องนี้เหมือนกัน ที่เค้าไม่ให้ฉันบอกกับเซเรน่าว่าฉันเป็นใคร ลูกอาจจะผิดหวังมากก็ได้ที่มีแม่เป็นอมนุษย์ชั้นต่ำกว่าตัวของเค้า หรือให้ดีหน่อยก็เสียใจเรื่องที่ทำไมฉันไม่ยอมเลี้ยงเค้าเอง ทำไมถึงทำให้เค้าเป็นเด็กกำพร้า

การปกปิดสถานะที่แท้จริงของฉันกับลูกเป็นไปได้อย่างไม่ยากนัก เพราะแม้ลูกกับฉันจะหน้าตาคล้ายกันมากขนาดนี้ ก็สามารถคิดได้ว่ามันเป็นเหตุบังเอิญ เนื่องจากความที่เราต่างเป็นสายพันธุ์ที่มาจากชาติตะวันตก จึงไม่แปลกที่จะมีรูปร่างสูงใหญ่และสวยคม..คล้ายกัน และที่สำคัญ ลูกคงจะไม่คิดว่า แม่ของเค้าจะยังสาวเท่าที่ฉันเป็นอยู่ก็ได้ ยังไม่ลืมใช่มั้ยว่า..ฉันเหมือนเป็นแค่สาวอายุสิบเจ็ดเท่านั้น ทั้งที่อายุจริงปาเข้าไปร่วมร้อยกว่าปีแล้ว

ฉันยังไม่มีโอกาสได้กอดลูกสาวของฉันในวันนี้ เพราะไม่รู้จะหาเหตุอะไรที่จะไปทำท่าทางแบบนั้นกับคนที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก ฉันจึงได้แต่หวังว่าครั้งต่อไปหรือเมื่อไหร่ที่ฉันทำความสนิทสนมกับเค้ามากพอ ฉันจะมีโอกาสทำได้อย่างที่ใจต้องการจะทำ แต่เวลานี้..แค่เพียงเห็นหน้าเค้า และได้พูดคุยกันบ้าง ก็พอ ฉันมีความสุขแล้ว..

ระหว่างทางที่อาร์เทมีสมาส่งฉัน หลังจากที่ให้โอกาสฉันบอกลากับเซเรน่าเป็นที่เรียบร้อย เราคุยกันถึงลูกสาวของฉันในเรื่องที่ฉันควรรู้ อาร์เทมีสบอกว่า เค้าให้เซเรน่าเป็นหนึ่งในนางอัปสรห้าสิบคนตามโควต้าที่ท่านเทพซุส บิดาของเค้ากำหนดไว้ให้ ในตอนแรกฉันเริ่มไม่พอใจที่รู้เรื่องนี้ เพราะฉันตีความหมายของคำว่า นางอัปสร ผิดไป จนกระทั่งอาร์เทมีสอธิบายว่า นางอัปสรเป็นเพียงนางฟ้าที่อยู่ในความดูแลของเค้า ซึ่งจะได้รับทั้งการปกป้องและการดูแล รวมถึงต้องอยู่ในการปกครองของเค้าเท่านั้น มันไม่ได้หมายถึงว่า นางอัปสรทุกคนจำเป็นจะต้องมีความสัมพันธ์พิเศษที่ลึกซึ้งในเรื่องของความโรแมนติกด้วยกันกับผู้ที่เป็นนาย เซเรน่าจึงยังเป็นนางฟ้าสาวที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องในทุกประการ และนั่นทำให้ฉันยิ้มออกมาได้ และขอบคุณเค้า

อาร์เทมีสไม่ว่าอะไร ถ้าฉันจะขอมาเยี่ยมลูกอีกครั้งหรือจะมาบ่อยแค่ไหน เพียงแต่ฉันต้องบอกเค้าทุกครั้งที่จะมา มันคล้ายกับว่าเป็นกฎของการที่เราจะมาติดต่อกับคนในการปกครองของเค้าที่เค้ามีสิทธิ์ที่จะรู้ได้ ในเรื่องนี้ ฉันก็ไม่เห็นว่าจะลำบากอะไร ถ้าฉันจะต้องรายงานความเคลื่อนไหวของตัวเองในเรื่องลูกกับคนที่เลี้ยงเค้ามา อาร์เทมีสถือได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณคนหนึ่งของฉัน และเค้าก็เหมือนเป็นแม่ของเซเรน่าอีกคนด้วย

ฉันไม่ได้รีบร้อนนักในการเดินทางกลับบ้าน อันที่จริง ฉันกำลังคิดอยู่ว่า ฉันควรจะกลับไปอยู่ที่ปราสาทของตระกูลฉันดีหรือไม่ เพราะป่าแถบที่อาร์เทมีสมอบหมายให้เซเรน่า ลูกสาวฉันดูแลแทนอยู่ มีพื้นที่ติดต่อกับเขตปราสาทวิโอล่า จนแทบจะบอกได้ว่าเดินก้าวขาไปเพียงแค่หนึ่งเซน.ก็ถึงอาณาเขตของปราสาทอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นแล้ว ฉันก็อยากกลับไปอยู่บ้านตัวเองเหมือนกัน เพราะจะได้มาเยี่ยมลูกได้สะดวกกว่ามาจากทรานซิลเวเนีย แต่มันก็ติดอยู่ที่ว่า ฉันไม่อยากเจอแอน ฉันยังทำใจไม่ได้ที่จะมองหน้าเค้าและทำเหมือนมันไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้นระหว่างเรา หรือจะทนฟังเค้าถามคำถามอะไรมากมายในช่วงเวลาที่ฉันหายไปจากเค้าหลังคืนนั้น ฉันไม่อยากโกหกเค้าและก็ไม่อยากบอกความจริงเกี่ยวกับลูกด้วย และถ้าฉันกลับไปที่นั่นไปอยู่ที่นั่นเป็นการถาวร ฉันจะหนีหน้าเค้าได้ยังไง ฉันไม่มีข้ออ้างอะไรที่จะไม่ทำงานกับเค้าที่เป็นพี่สาวของฉัน จะให้ฉันหมกตัวอยู่แต่ในห้อง ฉันก็ทำไม่ได้อีกเหมือนกัน หรือจะให้ไปทำตัวติดกับชิจังก็ไม่ได้ เพราะชิจังติดแอนมาก เค้าแทบจะตัวติดกันอยู่แล้ว ฉันไม่มีทางหนีแอนพ้น ถ้าฉันกลับไปบ้าน มันทรมานมากพอแล้ว แค่เพียงนึกถึงมัน และที่สำคัญ ฉันรู้ตัวเองดีว่า การที่เค้าเป็นคนแรกของฉันในคืนนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกโหยหาการถูกสัมผัสจากเค้าอยู่ ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจหรือคิดว่า..รักเค้าจริง และถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็ไม่สามารถรับประกันให้ตัวเองได้ว่า ฉันจะไม่เข้าไปเสนอตัวกับเค้าในเวลาที่ฉันต้องการเซ็กซ์ที่ฉันขาดมันมานานมากนั่น มันเลยไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะกลับไปอยู่บ้าน คิดแล้วก็น่าปวดหัวดีพิลึกจริงๆ

และแล้วความที่ตัวฉันดูเป็นสาวกว่าความเป็นจริงก็สร้างปัญหาให้ฉัน เมื่อฉันเกิดเป็นที่สนใจกับเพศตรงข้ามจนได้ ทั้งที่ไม่อยากเลย..

ระหว่างที่เดินคิดอะไรเรื่อยๆไปในป่าที่ยังอยู่ในความดูแลของอาร์เทมีสและเซเรน่า ฉันก็รู้สึกได้ว่า ฉันไม่ได้เดินอยู่ในป่านั้นเพียงคนเดียว และมันก็ไม่ใช่สัตว์ป่าหรือตัวประหลาดอะไรด้วยที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆตัวฉัน ฉันพยายามใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดของฉันที่ไวต่อการรับรู้ เพื่อพิจารณาดูว่าสิ่งนั้นคืออะไรหรือใครที่กล้าลองดีกับแวมไพร์ ใช่..เพราะถึงฉันจะค่อนข้างดูต่ำต้อยเมื่อแทบกับนางฟ้าอย่างลูกสาวตัวเอง ฉันก็ยังถือได้ว่าเป็นผู้ล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาอมนุษย์ประเภทนักล่าเหมือนกัน จึงทำให้ฉันมั่นใจว่า ความเป็นแวมไพร์เลือดแท้อย่างที่ฉันเป็น จะยังพอเป็นปราการสำคัญที่ฉันมีไว้ป้องกันตัวเองได้ แต่มันกลับใช้ไม่ได้ดีนัก เมื่อเจอกับเขา ผู้ชายคนนั้น

ฉันตกใจที่เห็นผู้ชายคนนี้ที่ฉันพอจะรู้จักเค้าอยู่บ้าง เพราะความที่ฉันสนิทสนมกับอาร์เทมีส รู้จักเทพีแล้วจะไม่รู้จักเทพได้ยังไงล่ะ แต่เขากลับเป็นคนที่ฉันไม่เคยคิดอยากเจออีกเลยตั้งแต่ได้เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อร้อยปีที่แล้ว เขาไม่ควรขึ้นมาอยู่ในโลกมนุษย์แบบนี้เลยด้วยซ้ำ..

เทพแห่งความตาย ทานาทอส

แวมไพร์อย่างฉันแทบไม่เคยรู้จักถึงคำๆนี้ ตาย เพราะชีวิตอย่างพวกฉันอยู่เหนือความเจ็บป่วยใดๆหรือกระทั่งสามารถชนะกาลเวลา แต่เพียงเจอหน้าเขา เราไม่จำเป็นจะต้องตายก็รู้สึกได้ถึงหายนะที่กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้ ทานาทอส เทพที่มาพร้อมกับความอับโชคอย่างหาเหตุผลไม่ได้เลย มันเลยไม่แปลกอะไรที่ฉันจะปฏิเสธกับการเจอหน้าเขา แม้เขาจะบอกว่า ชอบฉัน

ที่สำคัญ..ฉันไม่ชอบผู้ชาย..

แต่ความหนักใจที่จะต้องอยู่ท่ามกลางการเกี้ยวพาราสีของผู้ชายที่มีฐานะเป็นเทพนี้ ก็ดีขึ้น เมื่อฉันเห็นการปรากฏตัวของผู้ชายอีกคนที่มาได้ทันเวลา ซึ่งแม้หน้าตาของพวกเขาทั้งสองจะเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว แต่สีตาและสีผมก็สามารถแบ่งแยกพวกเขาออกจากกันได้โดยสิ้นเชิง สีผมและสีตาของทานาทอสจะเป็นสีเงินทั้งสองอย่าง ส่วนอีกคนที่เป็นฝาแฝดกับเขาสองอย่างนั้นจะเป็นสีทอง คล้ายกับการแบ่งแยกตัวฉันกับแอนออกจากกัน ผิดกันแค่เพียงว่า ฉันกับแอนไม่ได้เป็นฝาแฝดกันแบบนี้เท่านั้น

ฮิปนอสเป็นชื่อของเทพที่เข้ามาช่วยฉันให้พ้นเงื้อมือของทานาทอส เขาทั้งสองแม้จะเป็นฝาแฝดกันและแตกต่างกันแค่สีตาและสีผมตามลักษณะภายนอก แต่ความแตกต่างจากภายในนั้น ต่างกันได้จนน่าหวั่นใจเลยทีเดียว แฝดคนพี่ที่ชื่อ ทานาทอส มีหน้าที่เฝ้าประตูขุมนรกและเป็นศูนย์รวมของด้านมืดทั้งหลาย ส่วนฮิปนอสเป็นเพียงเทพแห่งนิทรา หาได้มีหน้าที่ทำร้ายใครไม่ เป็นผลให้ในด้านจิตใจของพวกเขาต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่มันก็ทำให้ฉันรอดตัวได้แบบนี้ในเวลาที่ฮิปนอสมา ต้องขอบคุณเค้าจริงๆ

และใช่..ฮิปนอสก็เป็นอีกคนที่สนใจฉันอย่างออกนอกหน้า แต่ว่าฉันก็ต้องปฏิเสธไปอย่างสุภาพกับเขา แม้จะอยากจะพูดแรงๆ เพราะเขาแสนดีแบบนี้แหละ จะให้ฉันร้ายกับเขาได้ยังไง และที่สำคัญ เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งนะ แต่มาคิดดูแล้วความมีเสน่ห์ของฉันกับเพศตรงข้ามแบบนี้ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจดีไม่น้อย เพราะอย่างน้อยก็ยังบอกได้ว่า คนอย่างฉันยังมีใครต้องการอยู่ ไม่ใช่ดีแต่ถูกทิ้งขว้างไปเมื่อเสร็จกิจ คิดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว ฉันก็ยังไม่วายที่จะต้องร้องไห้ทุกครั้ง ฉันเหมือนตัวอะไรสักอย่างที่เค้าได้แล้วก็ทิ้ง ทั้งๆที่ฉันก็รู้เหตุผลนั้นดีว่าทำไมแอนกับฉันถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งที่เค้าเป็นสามีฉันโดยพฤตินัย แต่มันเป็นเพราะฉันเองแท้ๆที่เป็นฝ่ายไม่สนใจเค้า ไม่บอกเค้าแม้กระทั่งเรื่องลูก แต่..เวลานี้แล้ว ถ้าฉันจะคิดกลับไปหาแอนอีก ก็คงจะ..ไม่ดี แล้วอีกอย่าง ความคิดนั้น ก็คงทำให้ชิจังเสียใจ และใช่..ฉันยังรักพี่สาวคนรองอยู่เหมือนเดิม

สมองของฉันเริ่มกลับมาฟุ้งซ่านอีกครั้ง เมื่อปลอดภัยจากชายสองคนนั่น ฉันเดินย่ำไปในป่าโดยไม่รู้ว่ามันลึกเข้าไปทุกที ป่าโปร่งกลายเป็นหนาทึบขึ้นเพราะต้นไม้ที่หนาแน่นและยังมีเถาวัลย์ระโยงระยางเกี่ยวกันระหว่างต้นไม้หลายต้นหรือสองต้นใกล้ๆกันด้วย แต่มันก็เป็นความสวยที่ต่างออกไปจากที่เคยเห็นบ่อยๆ ฉันมองสิ่งต่างๆรอบๆตัวทั้งที่ใจลอยคิดเรื่องอื่นอยู่ แต่อยู่ๆหางตาของฉันก็เห็นเงาใครบางคนเข้ามาใกล้อีกครั้ง และครั้งนี้หูของฉันสามารถได้ยินฝีเท้าที่เบามากนั่นและกลิ่นของเธอ ใช่..ใครบางคนนั่นเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน ฉันไม่พลาดหรอกการแยกกลิ่นแบบนี้ กลิ่นนี้เป็นกลิ่นของผู้หญิงที่ยังสาวและมันน่าแปลกที่มันคล้ายกับที่ฉันเคยได้กลิ่นมาเมื่อไม่นาน และฉันก็ต้องตาค้างทันทีที่ฉันเอ่ยปากพูดขึ้นให้ใครคนนั้นแสดงตัว

นาทีแรกของความตกใจของฉันก็คือ การที่ฉันได้เห็นใบหน้าสวยหวานนั้นกับสีผมของเธอ ฉันคิดว่า ฉันเห็นชิจัง แต่ไม่ใช่..เธอคนนี้ไม่มีทางใช่พี่สาวคนรองของฉัน ไม่ใช่แค่เพียงเธอไม่ได้มีดวงตาสีแดงเหมือนเค้าเท่านั้น แต่เธอคนนี้ไม่มีกลิ่นของแวมไพร์ แต่เป็น..แม่มด

ในครั้งแรกฉันไม่สามารถแยกกลิ่นของแม่มดกับมนุษย์ธรรมดาได้ เพราะความที่สองกลิ่นนี้ใกล้เคียงกันมากที่สุดแล้ว แต่ในความเหมือนนั้น ก็มีความแตกต่างอย่างที่ฉันจับได้เหมือนกัน ซึ่งฉันอธิบายไม่ได้หรอกว่า มันต่างกันอย่างไรเป็นคำพูด รู้เพียงแต่ความรู้สึกมันบอกมาเท่านั้น และคำตอบของฉันที่ถามตัวเองว่า ทำไมครั้งแรกที่ฉันเจอเธอในร้านขายของนั่น ฉันถึงแยกไม่ได้ว่าเธอเป็นใครหรือตัวอะไร มันอาจจะเพราะช่วงเวลานั้นๆเป็นเวลาที่ฉันเพิ่งตื่นจากการนอนหลับอันยาวนาน ความสามารถที่ฉันควรมีอย่างแม่นยำนั่นจึงหายไป นับเป็นความผิดพลาดที่ยังพอให้อภัยได้อยู่เหมือนกัน

แต่เวลานี้ ความประหลาดใจของฉันที่เห็นผู้หญิงคนนี้ที่นี่ มันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เมื่อเธอส่งยิ้มหวานๆให้ฉัน ฉันเหมือนเห็นเงาของพี่สาวคนรองของฉันในตัวเธอ เหมือนฉันได้เจอชิจังที่นี่ ในป่า ทั้งที่รู้ดีว่า ชิจังไม่มีทางมาที่นี่แน่ๆ

แล้วภาพหนึ่งวิ่งเข้ามาในหัวฉันในทันใด ฉันจำได้ถึงเวลานั้นที่ฉันและพี่ของฉัน จูบกัน ฉันรู้ดีว่าฉันไม่ได้คิดอยากเล่นกับเค้าเท่านั้น ฉันอยากจะเอาจริง ฉันอยากได้ชิจังเป็นคนรักของฉัน ไม่ใช่แอน ไม่ใช่แอนที่มาพรากทุกอย่างของฉันไปแบบนี้ ทำให้ฉันมีลูก ทำให้ฉันสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของฉัน ทำให้เสียโอกาสที่จะได้แต่งงาน ทำให้ฉันเสียลูกไปให้คนอื่นอีกด้วย นึกแบบนี้แล้วฉันก็เกลียดแอนขึ้นมาทันที ฉันท่าจะบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่นะ

ฉันไม่รู้ตัวเองเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่ ฉันเจอผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้เพียงสองครั้งเท่านั้น ซ้ำเธอคนนี้ยังมาแบบแปลกประหลาดในทุกครั้งนั่น แต่ฉันก็ยังรู้สึกคุ้นกับเธอ เธอเข้ามาทักฉันและถามว่า จำเธอได้มั้ย ฉันพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร รู้สึกเหมือนตัวเองใจลอยได้ตลอดเวลา หรือว่าฉันจะคิดเรื่องอื่นค้างอยู่เลยไม่ได้สนใจฟังคำต่อมาของผู้หญิงตรงหน้าตัวเอง มารู้ตัวอีกที ฉันก็ถูกเธอคนนี้จูบเสียแล้ว

ฉันพยายามแล้วที่จะไม่ตอบสนองสัมผัสแบบนี้ที่ควรมีไว้ให้กับคนที่รักเพียงเท่านั้น แต่ฉันก็ทำไม่ได้ หรือเพราะว่าฉันโดนมนต์สะกดจากแม่มดที่กำลังนั่งคร่อมตัวฉันที่ตอนนี้นอนหงายอยู่กับผืนหญ้า แต่ว่า..หากคิดดูให้ดีแล้วล่ะก็ ต่อให้ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่มดที่ร้ายกาจและมากด้วยคาถาอาคมมากเพียงใด แวมไพร์เลือดแท้อย่างฉันก็สามารถจัดการมันได้อย่างไม่ยากเลย แต่ฉันไม่ทำ อาจจะเพราะว่า ฉันกำลังต้องการเรื่องแบบนี้อยู่ก็ได้ และฉันก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่า ฉันไม่มีทางจะเป็นอะไรไปได้จากเซ็กซ์เพียงครั้งเดียวกับผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้

ฉันเห็นเงาซ้อนของชิจังชัดขึ้นจากผู้หญิงบนตัวฉัน ในเวลาที่เธอจูบฉันแบบนี้ ความคล้ายกันของใบหน้าและสรีระของทั้งสองคนนั้นทำให้ฉันไม่กลัวที่จะปล่อยให้มือทั้งสองของตัวเองลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของร่างเล็กกว่านั่น ชิจังก็ชอบที่จะอยู่บนตัวฉันมากกว่าที่จะยอมอยู่ข้างล่าง และฉันก็คิดว่ามันน่าจะดีที่ยอมให้ผู้หญิงคนนี้อยู่ในตำแหน่งเดียวกับเค้า เพราะฉันก็อยากรู้ว่า เธอจะทำอะไรต่อ หลังจากที่จูบฉันจนเธอส่งเสียงครางในลำคอออกมาเบาๆ ฉันเลือกที่จะอยู่เฉยๆให้อีกฝ่ายเริ่มต้นบรรเลงเพลงรักของเค้าก่อน แล้วฉันก็ได้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างผู้หญิงคนนี้กับพี่สาวของฉัน หรือแม้กระทั่ง..แอน เธออ่อนโยน..

ฉันหายใจได้ลำบากมากขึ้น เมื่อรู้สึกว่าคนที่จูบฉันอยู่กำลังทำอะไรอยู่กับหน้าอกของฉัน แม้มันจะผ่านเสื้อที่ฉันยังสวมมันอยู่ก็ตาม แต่ฉันก็รู้ดีว่าตัวเองแสดงออกอย่างเต็มที่แล้วว่าต้องการได้รับสิ่งนี้ ตัวของฉันอ่อนปวกเปียกในทันทีที่มือเล็กกว่าของฉันนวดทรวงอกให้ แม้มันจะไม่มีใครสัมผัสมันมานานมากแล้วนอกจากตัวฉันเอง แต่มันก็ยังตอบสนองกับการสัมผัสได้ดีเหมือนเดิม เพราะร่างกายฉันยังสาวอยู่และแน่นอน มันเป็นผลกับอารมณ์ทางเพศด้วยเหมือนกัน

ผู้หญิงบนตัวฉันเริ่มทำอะไรที่ต่างจากชิจังทำมากขึ้นแต่คล้ายกับที่แอนทำ นั่นก็คือมือเรียวทั้งสองข้างของเธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อของฉันและเวลานั้นที่เธอละริมฝีปากออกจากปากของฉันไป มันก็ไปวุ่นวายอยู่กับหน้าอกของฉันแทน ฉันเกร็งตัวแต่ก็แอ่นเพื่อจะบอกว่าฉันต้องการถูกสัมผัสมากกว่านี้ ปากสวยๆของเธอกำลังทำกับหน้าอกของฉัน คล้ายกับเธอเป็นลูกสาวของฉัน แต่เวลานี้ฉันไม่มีน้ำนมหลงเหลืออยู่แล้วให้เธอ มีแต่ความเปียกชุ่มตรงหว่างขาเท่านั้น ใช่..ฉันต้องการเซ็กซ์ แล้วฉันก็ได้มันจริงๆ

ในที่สุดร่างกายของฉันก็ไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้นติดตัว แต่ฉันก็ไม่นึกอายเลยในเวลานั้น เพราะคนบนตัวฉันก็ไม่เหลือมันเหมือนกัน และถึงฉันจะไม่เคยเห็นว่าสรีระของชิจังภายใต้ร่มผ้าเป็นยังไง ฉันก็รู้สึกได้ว่ามันคล้ายกันอย่างมาก ซึ่งมันทำให้ฉันอยากสัมผัสเธอบ้างแล้ว

ผู้หญิงบนตัวฉันเวลานี้ถูกเปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่เบื้องล่าง และเธอกำลังส่งเสียงครางหวานจับใจของฉัน ฉันอยากฟังมันเรื่อยๆแบบนี้ต่อไป ฉันจึงต้องพยายามทำให้เธอคราง ฉันกลายเป็นเหมือนลูกสาวน้อยๆของเธอแล้วในเวลานี้ เมื่อฉันวุ่นวายอยู่กับที่หน้าอกอวบอิ่มของเธอ กลิ่นกายของเธอทำให้ฉันแทบคลั่งจนอยากจะซุกไซ้ไปทั่วตัว แม้จะต้องแลกมากับความเจ็บที่ถูกเล็บของเธอจิกหลังเปล่าๆของฉันก็ตาม แต่เธอคนนี้คงจะเจ็บกว่าฉัน ที่คอของเธอต้องถูกเขี้ยวของฉันฝังลงไปในเวลาที่ฉันได้รับการปลดปล่อยด้วยจุดสุดยอดของความปรารถนาทางเพศ ฉันไม่ได้ดูดเลือดเธอมากนัก เนื่องจากไม่ได้กระหายมาก แต่นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ฉันทำให้เธอถึงจุดออกัสซึ่ม ด้วยวิธีเบสิค แค่นิ้วของฉันกับคริสตอริสของเธอ ฉันยังไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในถ้ำสวาทของเธอด้วยซ้ำ เหมือนที่ฉันแค่ใช้ต้นขาของเธอเพื่อบำบัดความต้องการของตัวเอง ฉันใช้ต้นขาของเธอกับจุดอ่อนไหวที่สุดตรงหว่างขาของฉัน ทำให้ถึงจุดออกัสซึ่ม ซึ่งแค่นั้นมันน่าจะพอสำหรับเซ็กซ์ครั้งแรกของเราสองคนที่เพิ่งรู้จักกัน แต่ความคิดนั่นทำให้ฉันต้องถูกนำด้วยมือของเธอเอง แต่ไม่ใช่อย่างที่คาดไว้ ว่าเธอจะเป็นฝ่ายพานิ้วฉันไปใส่ในจุดนั้นที่เธอต้องการ มันกลับกลายเป็นฉันกำลังถูกสอดใส่ด้วยนิ้วของเธอ

ฉันสะดุ้งเฮือกทันทีในนาทีที่รู้สึกว่านิ้วของเธอเข้ามาอยู่ในตัวฉัน ทั้งที่ฉันก็เคยถูกทำแบบนี้กับของที่ใหญ่กว่านิ้วเล็กๆของเธอมาแล้ว อาจจะเป็นเพราะฉันตกใจก็ได้และมันก็เจ็บนิดหน่อยเหมือนกัน แต่นั่นก็ทำให้ฉันต้องแก้แค้นเธอบ้างด้วยการทำอย่างเดียวกันกับเธอ ฉันเห็นเธอสะดุ้งคล้ายฉัน จนฉันยิ้มออกมาด้วยความสะใจ เราสองคนเข้าสู่จังหวะเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อฉันได้ยินเสียงครางดังๆของเธอพร้อมความรู้สึกที่นิ้วของฉันถูกบีบรัดด้วยอวัยวะภายในนั่น ฉันก็รู้สึกว่าเสียงของตัวเองถูกปล่อยออกมาจากลำคออย่างห้ามไม่ได้เหมือนกัน แล้วมันก็ไม่น่าสงสัยเลยที่จะเห็นรอยยิ้มแห่งชัยชนะของผู้หญิงเบื้องล่างตัวฉัน เธอคงดีใจที่ทำให้ฉันถึงจุดนั้นได้เหมือนที่ฉันทำกับเธอ ฉันก็อดไม่ได้เลยที่จะยิ้มให้เธอ ถึงจะเหนื่อยมากก็ตาม

ไม่อยากทานเลือดฉันแล้วเหรอคะ..คุณแวมไพร์..

เสียงหวานๆของเธอถามฉันออกมาในระหว่างที่ฉันนอนซบหน้ากับบ่าของเธอเหมือนคนหมดแรง ฉันไม่ได้แกล้งเลยที่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพแบบนี้ ฉันหมดแรงจริงๆ พลังของฉันเหมือนมันเหือดหายกับเซ็กซ์ที่ผู้หญิงอีกคนทำให้ หรือฉันจะห่างมันมานานเกินไปก็ไม่รู้สินะ แต่คงเป็นเพราะว่า ฉันยังไม่เคยมีใครเลยหลังจากที่มี..แอน

แต่ตอนนี้ฉันจะลืมพี่ให้หมดเลย..แอน..

ขอโทษนะ ฉันห้ามตัวเองไม่ได้..

ฉันบอกเธอไปตามความจริงขณะมองหน้าเธอ เมื่อฉันขยับออกห่างจากการใกล้ชิดกับเรือนร่างสวยๆของเธอเล็กน้อย เธอยังคงยิ้มหวานให้ฉันเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน ฉันชอบจังรอยยิ้มแบบนี้ เหมือนชิจังไม่มีผิดเลย

เธอประคองแก้มของฉันด้วยสองมือเรียวเล็กของเธอและขยับศีรษะขึ้นมาจูบฉัน ทำให้ฉันยิ้มได้ทั้งที่รู้สึกผิดอยู่กับเรื่องที่เธอถาม เพราะความที่เธอทำแบบนี้กับฉันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ฉันรู้สึกว่า ฉันยังควรค่ากับความอ่อนโยนแบบนี้ ฉันจึงกอดเธอไว้ได้อย่างไม่รู้สึกลังเลใจอีกแล้ว ฉันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลย และคิดว่า วันนี้น่าจะเป็นวันดีของฉันเสียที หลังจากที่ผ่านเรื่องร้ายๆมามากในชีวิตของฉัน แต่มันกลับมีเรื่องมาทำให้ฉันต้องนึกระแวงสงสัยในความสุขที่เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวของตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงหวานๆนั้นพูดขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นชื่อของเธอ

ฉันชื่อ อาย ลู นะคะ ถ้าคุณอยากรู้ว่าฉันชื่ออะไร..อลิสซ่าจัง..

แล้วจากนั้น.. แม่มดคนนี้ก็เข้ามาอยู่ในชีวิตฉัน..

แต่ว่า..เธอจะมาช่วยลบคำสาปให้ฉัน หรือจะมาเพิ่มมันให้กันแน่นะ..

To be continue…

2 ความคิดเห็น:

[ Lightning ] กล่าวว่า...

แม่ลูกได้เจอกันเสียทีในตอนนี้.. หลังจากคนเป็นแม่พาตัวเองเข้าสู่นิทรามานานแรมปี ราวกับว่าถูกฮิปนอสเทพนิทราพาไปเสียอย่างนั้น แต่อลิสซ่าคงไม่มีทางที่จะไปกับผู้ชายหรอกใช่มั้ย ต่อให้ฐานะชาติตระกูลและนิสัยดีแค่ไหน.. เพราะในใจของอลิสซ่าตอนนี้มีเพียงผู้หญิง.. ผู้หญิง.. แลก็ผู้หญิงเท่านั้น..

ใช่.. หนึ่งคือลูกสาวสุดที่รักที่แม่รอเวลามานานที่จะได้เจอลูก ทนปิดผนึกตัวเองจากเรื่องราววุ่นวายในโลกมนุษย์เพื่อรอเวลาที่จะตื่นมาแล้วได้มาเจอหน้าลูกสาวคนเดียวของเธอในตอนนี้.. และมันก็ไม่ผิดหวัง ถึงลูกจะมีหน้าตาสีผมและส่วนสูงที่เหมือนกับอีกคนที่ทำให้เธอเกิดมาก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าอลิสซ่าก็คือลูกสาวที่รักมากที่สุดในชีวิต.. ต้องขอบคุณอาร์เทมิสที่ช่วยเลี้ยงและดูแลเซเรน่าให้เติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่ดูดีเหมาะกับคำที่ครค่าว่าจะเรียกว่า "นางฟ้า" ผู้หญิงคนนี้สร้างความสุขขึ้นมาในใจหลังจากที่มันห่างหายมาหลายปีสำหรับอลิสซ่าแล้วล่ะ..

และคนที่สอง.. ชิจัง.. พี่สาวคนรองที่อลิสซ่าแอบรักข้างเดียวมาตลอด มีรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่ข้างๆผู้หญิงขี้เล่นคนนี้ ชิจังเองก็สร้างความสุขให้อลิสซ่าไม่แพ้กับผู้หญิงคนแรก แต่ความสุขนั้นมันก็ควรจะถูกจำกัดไว้ด้วยสถาานะทางครอบครัว อลิสซ่าไม่ควรจะคิดอะไรกับชิจังมากไปกว่านั้นนะ.. แต่ในเมื่อรักไปแล้วก็คงจะเลิกยากล่ะนะ "ความรักมันง่ายที่จะเกิดขึ้นมาในใจ แต่มันจะกลายเป็นเรื่องยากแสนยากเมื่อต้องการลบให้มันออกไปจากก้อนเนื้อเท่ากำมือนั้น" ไม่เป็นไรหรอกอลิสซ่า คิดจะรักน่ะ รักได้ แต่มันต้องมีขอบเขต.. เนาะ..

คนที่สาม.. คนนี้คงเป็นผู้หญิงที่อลิสซ่าอยากจะลืม แต่มันก็คงจะทำไม่ได้ง่ายๆเหมือนกันล่ะ เพราะเค้าคือสามีคนแรก และพ่อของลูกสาวคนเดียวของเธอ.. แอน.. คนนี้อลิสซ่าไม่ได้อยากจะเกี่ยวข้องอะไรใกล้ชิดมากมายมาตั้งแต่เด็กแล้ว ด้วยอำนาจเด็ดขาดของแอน ทำให้แอนดูน่ากลัว น่าเกรงขามมากสำหรับอลิสซ่า ไม่เหมือนชิจัง.. แต่สุดท้ายเค้าก็เอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับอลิสซ่าเองจนได้ เป็นเพราะสวรรค์ลิขิตให้มันเกิดขึ้น แต่ตอนนี้มันผ่านมานานมากแล้ว.. คิดว่าอลิสซ่าน่าจะทำใจได้พอสมควรแล้วล่ะนะ.. สู้เขาอลิสซ่า..

ส่วนคนสุดท้าย.. แม่สาวตาหวานสีม่วงอ่อน แถมหน้าตาท่าทางดันไปคล้ายกับพี่สาวคนรองที่อลิสซ่าแอบรักซะอีก.. พรหมลิขิตแท้ๆที่นำให้เธอมาเจอกัน.. อิอิ.. แล้วสาวคนนี้ยังเป็นแม่มดอีกแน่ะ แอบคิดในใจนะเนี่ยว่าแม่มดหน้าหวานคนนี้จะทำให้อลิสซ่ามีปัญหาเพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า.. แต่ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ.. อลิสซ่าคิดจะคบกับผู้หญิงคนนี้เพื่อแทนใครบางคนหรือเปล่านะ ถ้าคิดจะทำแบบนั้นล่ะก็ แน่นอนว่ามันจะต้องเกิดเรื่องถ้าอายรู้เข้า.. แต่ว่านะ.. อายยยยยยย!!!!.. เจอกันครั้งสองครั้งก็ฟาดอลิสซ่าแล้วเรอะ!!!.. แร๊งงงงงงงง.. จะแรงไปไหนเนี่ยเธอ.. ฮ่าๆๆๆๆ.. แต่ก็ช่างเถอะ ถ้ามันทำให้อลิสซ่าคิดจะเริ่มต้นใหม่ได้แล้วล่ะก็ ตามสบาย.. แต่ก็ขออย่าให้เรื่องที่ข้าพเจ้าแอบคิดไว้ในใจเป็นจริงก็แล้วกันนะ.. สาธู้~~~

ขอบคุณมากค่ะไรเตอร์ อลิสซ่านี่นะเป็นสาวที่น่าสงสารมากเลยอ่ะ แต่หลังจากนี้มันคงจะดีขึ้นแล้ว(หรือเปล่านะ) ฮ่าๆๆๆๆ.. เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ทั้งอลิสซ่าแล้วก็ไรเตอร์ด้วยนะคะ สู้ๆค่ะ.. ข้าพเจ้ารออ่านฟิกสนุกๆตลอดไปนะคะ.. ^^

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Lookgolf’s comment…

ในที่สุดดดดดดดดดด

คนอ่านอย่างเราแอบดีใจจนน้ำแทบไหลออกตา ด้วยความตื้นตันใจ ที่ในที่สุดก็ได้เห็นตอนนี้อลิสซ่าจังได้สมหวังอย่างที่ใจคิดบ้างซะที ฮ่าๆๆๆ เพราะหลังจากที่ชีวิตของน้องสาวคนสุดท้องคนนี้ เหมือนตกอยู่ในวังวนแห่งความโศกเศร้า ผิดหวัง และแวดล้อมไปด้วยเรื่องแย่ ๆ ที่ไม่เคยคาดฝันให้เกิดขึ้น..มาในวันนี้ ก็นับได้ว่าเป็นความสุขสมของอลิสซ่าจังได้อย่างดีวันหนึ่ง...เพราะในวันนี้อลิสซ่าจังได้มีโอกาสพบหน้าลูกน้อยของตน ที่ตอนนี้เติบใหญ่ เป็นนางฟ้าแสนงาม..แม้ว่าจะรูปลักษณ์คล้ายกับพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดมากมายก็ตาม..แต่ก็ไม่น่าแปลกใจในความเหมือนนั้น และนับว่าน่าประทับใจอย่างยิ่ง ที่เวลาแห่งการรอคอยอย่างโดดเดี่ยวอันยาวนานของอลิสซ่าจังได้สิ้นสุดลง ณ วันนี้..ดีใจด้วยใจจริง ๆ เลยนะ อลิสซ่าจัง อิอิ

..และแม้ว่าอลิสซ่าจังจะไม่สามารถบอกให้เซเรน่าทราบถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงของตนและลูกได้ แต่ก็เชื่อว่า แค่นี้สำหรับหัวอกของคนเป็นแม่ก็สุขใจเป็นล้นพ้นแล้วล่ะน้า อิอิ..และทำให้รู้ว่าในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีแอบแฝงอยู่ นั่นก็คือ แม้จะโชคร้ายที่ตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ แม้จะเลี้ยงลูกที่ตนให้กำเนิดมาด้วยตนเองไม่ได้จนต้องพลัดพรากจากกันนับสิบปีก็ตาม..แต่ก็นับว่าโชคดีที่เด็กทารกในเวลานั้นเป็นถึงนางฟ้าแสนงาม และได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี จน ณ วันนี้แม่ลูกได้เจอหน้ากันในที่สุด อิอิ..ซึ่งเหมือนเหรียญที่มีสองด้านเสมอ..เลือกที่จะมองในด้านที่ดีเพื่อจิตใจที่เบิกบานเถอะนะ อลิสซ่าจัง อิอิ

โอ่ คุณแม่ลูกหนึ่งนี่เสน่ห์แรงจริง ๆ มีผู้ชายมาติดพันหลายคน แถมเป็นถึงเทพกันทั้งคู่ด้วยสิเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

ง่ะ รอดจากเหล่าทวยเทพที่มาให้ท่าได้อย่างง่ายดาย แต่กลับมาตายรังกลางป่ากับหญิงนิรนามที่เพิ่งเคยเจอเพียงแวบเดียวเนี่ยนะ ฮ่าๆๆๆ..คงเป็นเพราะสาวคนนี้เหมือนชิจังพี่สาวที่ตนแอบหลงรักสินะ อลิสซ่าจัง...โอ่ แต่ความต้องการในเรื่องนี้ของแวมไพร์ช่างมีมากมายจริง ๆ อลิสซ่าจังก็นะ กับคนที่ไม่เคยรู้จักมักจี่หรือสนทนาด้วยกันมาก่อน ยังปล่อยให้เลยเถิดไปขนาดนั้นได้ เนี่ยล่ะน้า ข้อเสียของการมีชีวิตอมตะ เหอๆๆ...อย่างไรก็ตาม ก็นับว่านี่เป็นอีกเรื่องที่สุขใจและสมหวังอลิสซ่าจังในวันนี้..แม้ว่าจะดูไม่น่าไว้วางใจนักก็ตามในเรื่องหลัง ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณนะคะ ไรท์เตอร์..ตอนนี้แอบหายสงสารอลิสซ่าจังไปอยู่มากโข และซึ้งใจที่แม่และลูกได้เจอกัน อิอิ..แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเห็นแย้งในการสมยอมของอลิสซ่าจังกับแม่มดอาย ฮ่าๆๆ..เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์เสมอนะคะ ^^

fiction Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...