The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.11
Pairing : Anh x Shizuru x Alyssa
Rate : M
Genre : Drama - Romance
By : Anhy
The Dark side of mine. - 4 : Anh’s POV
ชิซึรุจากไปแล้ว.. เค้าไม่มีทางกลับมา ฉันลืมตาขึ้นมาทันเวลาที่จะเรียกเค้า แต่ก็ได้เพียงเห็นหน้าสวยแต่แสนเศร้าของเค้าเพียงครึ่งนาทีก่อนที่เค้าจะหายไปจากสายตาของฉัน เวลานั้นน้ำตาฉันไม่ไหลออกมาเหมือนทุกครั้ง เพราะมันย้อนกลับไปอาบที่หัวใจของฉัน มันเจ็บจนฉันร้องไม่ออกอีกต่อไป
ฉันหลับตาลงอีกครั้ง ฝังตัวเองไว้กับที่นอนอีกครึ่งวัน เพราะรู้สึกว่ายังไม่พร้อมจะเจอหน้าใครๆ แม้กระทั่งลูกน้องของฉัน ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดตัวเองแรงๆพร้อมกับที่กอดหมอนอีกใบของฉันไว้แนบอก ฉันยังได้กลิ่นของน้องอยู่ หอมเกินกว่าใคร สุดที่รักของฉัน ฉันคงไม่มีโอกาสได้กอดเค้าแบบนั้นอีกแล้ว ฉันเหงา...
ในที่สุดฉันก็ลุกขึ้นมาจนได้ แต่ก็แค่นั่งพิงหลังกับหัวเตียงและยังกอดหมอนใบนั้นอยู่ สายตาของฉันมองพิจารณาสิ่งต่างๆภายในห้องนอนและตัวของฉันเอง ฉันไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นคราบเลือดตามผ้าปูที่นอนและบนตัวฉัน แวมไพร์อย่างฉันกับน้องใช้ชีวิตผูกพันกับเลือดมาตลอดชีวิต แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ฉันประหลาดใจ มันเป็นคราบขาวๆที่เริ่มมีอาการขุ่นเล็กน้อยแล้วตรงต้นขาของฉันและผ้าปูที่นอนบริเวณที่อยู่ใกล้ๆ มันเยอะมากทีเดียว ความตกใจและสงสัยทำให้ฉันดึงผ้าขึ้นมาพิสูจน์กลิ่นใกล้ๆ ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะตัดสินใจได้ว่ามันคืออะไร แต่มันคล้ายของเหลวที่ผู้ชายปล่อยออกมาเวลาที่เขาเสร็จสมกับการร่วมรัก แต่ถ้ามันเป็นของแบบนั้นจริง แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ชิซึรุไม่มีของแบบนั้นแน่นอน น้องสาวฉันเป็นผู้หญิง ใช่..ฉันพิสูจน์มาแล้ว งั้นมันก็คงมาจากฉัน
ฉันตกใจมากกับความคิดนั้น อวัยวะที่มันโผล่ออกมาจากตัวฉันคงทำให้ผ้าปูที่นอนของฉันเป็นแบบนี้แน่ๆ และฉันควรจะดีใจสินะ ที่ฉันดึงมันออกมาจากตัวของชิซึรุได้ทันเวลาที่มันจะพาอะไรเข้าไปสู่ตัวของเค้า เพราะถ้าฉันทำได้อย่างที่ผู้ชายทำ น้องสาวฉันคงจะท้อง แล้วมันคงจะเป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆ ท่านพ่อจะต้องฆ่าฉันแน่ เพราะท่านเตือนไว้แล้ว คิดแล้วฉันก็..กอดหมอนที่ชิซึรุใช้เมื่อคืนแน่นๆอีกครั้ง ฉันคิดถึงเค้า อยากกอดเค้า แต่คงทำไม่ได้แล้ว
แล้วฉันก็ลุกขึ้นจากเตียงจนได้ หลังจากคิดว่าหมดเวลาจะมาทอดอาลัยกับเรื่องแบบนี้ ฉันไม่สนใจเลยว่าฉันกำลังปวดเอวอยู่ มันรู้สึกเสียวขึ้นมาทันทีที่ฉันลุกขึ้นยืน ฉันรู้ต้นเหตุของมัน เซ็กซ์ทำให้ฉันปวดเมื่อยทั้งตัว แต่ช่างมัน ฉันไม่แคร์ และฉันก็ใช้เวทย์ง่ายๆจัดการกับเตียงของตัวเองให้สะอาดเรียบร้อย ก่อนไปจัดการของตัวของฉันในห้องน้ำ แล้วฉันก็ตกใจอีกครั้งกับสิ่งที่เห็นในนั้น ไม่ใช่สิ ฉันไม่ได้เห็นอะไรแปลกไปในห้องน้ำของตัวเอง เพียงแต่ฉันได้กลิ่นมัน กลิ่นที่ประสาทรับรู้ที่ไวมากของฉันรู้สึกถึงมันได้ มันเป็นกลิ่นเลือดและกลิ่นของของเหลวสีขาวนั่น มันคงเพราะชิซึรุมาล้างตัวของเค้าที่นี่ ถึงเวลานี้ห้องน้ำของฉันจะดูสะอาดเหมือนเดิมก็ตาม เพราะความน้องฉันเป็นคนรักสะอาด เค้าไม่มีทางทิ้งอะไรที่ไม่น่าดูเอาไว้ให้ฉันดูต่างหน้าเค้า แต่กลิ่นนั้นที่ประสาทรับรู้ของฉันสัมผัสมันได้ ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงด้วยความกลัว แล้วอยู่ๆน้ำตาฉันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวเอง กลิ่นคาวเลือดมากมายขนาดนี้ มันมีความหมายเพียงอย่างเดียวว่า ฉันทำร้ายน้องสาวตัวเอง
นี่ฉันทำมันอีกแล้วสินะ น้องคงจะเจ็บมากกับสิ่งที่ฉันทำกับเค้า ฉันมันปีศาจร้ายที่มือเปื้อนเลือดได้ตลอดเวลาจริงๆ แม้กระทั่งตอนที่ฉันควรจะทำให้คนที่ฉันรักมีความสุขกับมัน กับเซ็กซ์ของเรา สิ่งที่จะน่าจะช่วยยืนยันกับเค้าได้ว่า ฉันรักเค้ามากเพียงใด แต่มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ฉันทำให้เค้าเจ็บมากขนาดนี้
พี่ขอโทษ..ชิซึรุ.. ที่ความรักของพี่ทำให้เธอเจ็บ.. ซ้ำแล้วซ้ำเล่า..
แต่ตอนนี้ ฉันไม่ควรจะเสียเวลากับความคิดแบบนี้สินะ ฉันควรจะทำตัวเสียใหม่ ทำตัวเองให้เป็นประโยชน์มากกว่าที่เป็นอยู่ หางานทำซะ เลิกฟุ้งซ่านกับเรื่องไร้สาระเสียที แล้วฉันก็ออกห้องของฉันไป หลังจากที่ฉันจัดการกับตัวเองเสร็จเรียบร้อย ทิ้งความหลังของฉันกับน้องสาวที่ฉันรักไว้เพียงในห้องนอนของฉัน
“ชิซึรุ”
ตามแผนในการปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่ของฉัน หนึ่งในนั้นคือ ฉันจะต้องหาใครสักคนมาเติมช่องว่างข้างในใจของฉันให้ได้เสียก่อน หลังจากที่ฉันเสียของรักของฉันไป และแผนนั้นก็เป็นต้นเหตุให้ฉันคิดทำเรื่องร้ายๆอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำมัน ฉันเรียกไมจังเข้ามาหาในห้องทำงาน ใช่..เธอต้องมาแน่ เพราะฉันสั่งในฐานะเจ้านาย ไมจังทำท่าเหมือนไม่อยากคุยกับฉัน ไม่อยากเห็นหน้า แต่ฉันรู้ดี เธอต้องการฉัน ฉันมองเธอออก เธอรักฉันอยู่ แบบนี้มันก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายที่ฉันจะทำตามแผนชั่วๆในใจฉัน แต่ฉันคิดผิด
เธอตบหน้าฉัน มือเธอหนักไม่เบา แม้มันจะว่ามันเล็กแบบนั้น เป็นเพราะฉันประมาทเอง หรือฉันจะหยาบคายเกินไปกับเธอ ทั้งที่ฉันพยายามจะทำให้มันดูดีพอ กับการขอให้เธอเป็นของฉัน ฉันคิดว่ามันน่าจะดีแล้ว เธออยากได้ฉัน ฉันก็จะให้เธอได้ แต่ทำไมเธอตบหน้าฉัน ตอนที่ฉันจูบเธอ หรือว่าเธอจะคิดได้แล้วว่าฉันมันไม่ดีพอ ฉันเลวใช่มั้ย
ก็คงจะใช่.. ตอนที่ฉันจูบไมจัง และกำลังเริ่มที่จะทำอะไรกับเธอมากกว่านั้น ภาพของชิซึรุก็ผุดขึ้นมาในสมองของฉัน ทำให้ฉันต้องปล่อยเธอ ฉันนิ่งอึ้งและน้ำตาไหลออกมา ตอนนั้นเลยเป็นโอกาสให้เธอตบหน้าฉันได้ ฉันไม่ควรโทษเธอสินะ เธอคงจะตกใจมาก ที่อยู่ๆก็ถูกปีศาจอย่างฉันทำมิดีมิร้าย แต่มันก็ดีที่เธอตบฉัน มันทำให้ฉันได้สติ ฉันเลยหายไปจากห้องทำงานของฉันเอง ใช่..ฉันต้องไป ก่อนที่ฉันจะฆ่าเธอ.. ปีศาจในตัวฉันมันไม่เคยละเว้นใคร เธอรู้เอาไว้..ไมจัง
ฉันกลับมาสู่ห้องแห่งความทรงจำของฉันอีกครั้ง ภาพของฉันกับน้องยังอยู่เต็มห้องนอนห้องนี้
ชิซึรุ..พี่คิดถึงเธอ เธออยู่ไหน.. ทำอะไรอยู่นะ เธอคิดถึงพี่บ้างรึเปล่า..
ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ในห้องของฉันเอง ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่ใส่อยู่ทีละเม็ด แล้วฉันก็เห็นมัน ร่องรอยของความทรงจำของฉัน ที่น้องสาวสุดที่รักของฉันฝากเอาไว้เต็มตัวฉัน ฉันนึกขอบคุณที่ไมจังไม่ยอมเป็นของฉันวันนี้จริงๆ ไม่งั้นเธอคงจะรู้ความลับของฉันจนหมดแน่ๆ หลักฐานคาตาขนาดนี้แล้ว เธอคงจะเดาถูกว่าใครจะทำแบบนี้กับฉันได้ รอยแดงเป็นจ้ำๆตามหน้าอก หน้าท้อง และก็คงจะทั่วตัวของฉัน ใครกันล่ะที่ฉันจะปล่อยให้ทำกับฉันได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่คนที่ฉันรักมาก และก็คงจะหนีไม่พ้นที่จะต้องเป็นแวมไพร์เหมือนฉัน เพราะรอยเขี้ยวที่คอทั้งสองข้างแบบนี้
ชิซึรุ.. เธอทำเพราะ.. เธอรักพี่มากเหมือนกันใช่มั้ย.. ทำไมกันนะ ทำไมเราต้องเป็นพี่น้องกันด้วย..
ฉันจะต้องจัดการกับความฟุ้งซ่านแบบนี้ให้ได้ ฉันต้องหาอะไรทำก่อนที่ฉันจะบ้าไปมากกว่านี้..
ฉันแต่งตัวใหม่ แล้วเข้าไปรื้อหาของที่ฉันต้องการในห้องทำงานที่อยู่ไม่ไกลห้องนอนของฉัน และฉันเจอมันแล้ว ปืนของฉัน Desert Eagle ฉันชอบมันถึงจะไม่ค่อยได้ใช้มัน เพราะไม่ค่อยเห็นความจำเป็นของมันมากนักก็ตาม มันก็เป็นอะไรที่ดูสวยและเหมาะกับมือของฉันมากที่สุดแล้วในจำนวนอีกมากที่ฉันมี ฉันลืมบอกสินะว่า ฉันชอบปืนเหมือนกัน ถึงจะเป็นแวมไพร์แบบนี้ก็เถอะ
ปืนออโต้เมติกแบบ Desert Eagle ที่ฉันถือมันอยู่นี่ อาจจะดูไม่ค่อยคลาสิกเท่าไหร่ ไม่เหมือนปืนลูกโม่อย่าง Smith & Wesson อีกกระบอกที่ฉันมีอยู่ในลิ้นชักเดียวกัน ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันเลือกมันจากชั้น คนขายบอกว่า ผู้หญิงไม่ค่อยเหมาะกับปืนแบบนี้ เพราะมันเป็นปืนแรงถีบสูง เวลายิงจะทำให้พลาดเป้าได้ แต่เค้าก็บอกว่า สำหรับฉันน่าจะเป็นข้อยกเว้นได้ เพราะความตัวใหญ่ของฉันที่สูงมากกว่าเค้าเสียอีก และเค้าก็สังเกตเห็นข้อมือของฉัน คิดว่ามันน่าจะแข็งแรงพอที่จะไม่เป็นอันตรายจากปืนกระบอกนี้ ความจริงแล้ว เค้าอาจจะเห็นฉันไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงล่ะมั้ง เค้าเลยไม่ค่อยห่วงและเต็มใจขายให้ นับว่าเป็นข้อดีอีกอย่างสำหรับความเป็นคนตัวสูงเหมือนเสาไฟแบบฉัน
Desert Eagle ที่ฉันเลือกมาใช้คราวนี้ แทนปืนลูกโม่ที่ฉันก็ชอบ ฉันเลือกมัน เพราะความที่มันบรรจุกระสุนได้มากกว่า มันเหมาะสำหรับงานนี้ที่ฉันคิดทำ จะเรียกว่าหาเรื่องทำก็ได้นะ ฉันจะไปล่ามนุษย์หมาป่า แก้แค้นมันที่มันทำให้ฉันต้องอายคราวนั้น ฉันยังจำหน้ามันได้ติดตา ไอ่เรโตะ มันฉวยโอกาสที่ฉันหมดแรง เล่นงานฉัน และมันก็เกือบที่จะ... อา.... คิดแล้วน่าขยะแขยง ตอนนึกถึงว่ามือหยาบกร้านของมันมาจับคางของฉัน ดีนะที่ชิซึรุมาทัน ไม่งั้น..ฉันคงจะต้องอายกว่านี้ ที่จะต้องเป็นเมียมนุษย์หมาป่า ฉันคงต้องขอลาตายจากชีวิตอมตะนี้แน่ๆ และก็คงลืมไปว่าการตายของฉันจะทำให้น้องฝาแฝดร่วมวิญญาณของฉันตายไปด้วย มันทุเรศสิ้นดี ..ขอบใจนะ..น้องพี่.. ที่ช่วยพี่วันนั้น..
แต่ฉันก็ยังมีของต้องหาอีกอย่างที่จำเป็นต้องหาให้เจอในห้องทำงานนี้ มันเป็นของที่ฉันสั่งทำไว้หลังจากที่กลับมาจากป่านั่น กระสุนเงิน ใช่..ฉันจะเอาไว้ฆ่าพวกมันโดยตรง มนุษย์หมาป่ามันแพ้ของแบบนี้ มันตายทันทีที่กระสุนเงินพุ่งทะลุร่างของมัน แต่มันก็รู้ดีเหมือนกันว่า แวมไพร์อย่างพวกฉันแพ้อะไร ใช่..แสงแดดทำอะไรฉันไม่ได้ นั่นก็ทำให้เหลือเพียงวิธีเดียว คือ มันต้องหาไม้ปลายแหลมหรืออะไรสักอย่างมาทิ่มทะลุที่หัวใจฉัน ฉันถึงจะตาย..
ที่แวมไพร์อย่างฉันไม่แพ้แสงแดดอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่เพราะแค่ฉันใส่แหวนประจำตระกูลอยู่หรอกนะ แล้วฉันจะเล่าให้ฟังว่าทำไม
ตามปกติแล้วแวมไพร์จะแพ้แสงแดดตามตำนานของพวกเราที่เล่าขานต่อกันมานานมาแล้ว จนต้องนอนในโลงศพในตอนกลางวัน และออกมาดำเนินชีวิตในตอนกลางคืน แต่เพราะวิวัฒนาการของพวกเราที่เป็นมาอย่างต่อเนื่อง ในเวลานี้เราจึงอยู่ได้อย่างมนุษย์ธรรมดา จะว่าเป็นการเลียนแบบความเป็นอยู่ของมนุษย์ก็ได้ล่ะมั้ง แวมไพร์นับตั้งแต่รุ่นที่ท่านพ่อปกครอง สามารถอยู่ได้กลางแดดติดต่อกันถึงสามวัน และหยุดพักอยู่แต่ในที่ร่มประมาณหนึ่งวัน จากนั้นก็จะออกแดดได้อีกครั้ง เป็นเช่นนั้นไปตลอดจนกว่าจนหมดสิ้นชีวิตอมตะของพวกเขา แต่ไม่ใช่พวกฉันที่เป็นลูกของท่านพ่อ หรือแม้กระทั่งอลิสซ่าที่เป็นแวมไพร์เลือดแท้ ที่น่าจะสู้แสงแดดไม่ได้เหมือนที่ตำนานว่าไว้
พวกเราลูกหลานตระกูลวิโอล่า เป็นผู้ชนะแสงแดดมานานมากแล้ว อาจจะเพราะเราได้พรจากเหล่าทวยเทพ สำหรับความดีที่ตระกูลของเราสร้างสมมานาน โดยเฉพาะความไม่พยายามที่จะล่ามนุษย์เพื่อเลือด
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ฉันก็ยังใส่แหวนประจำตระกูลอยู่ ไม่ใช่แค่ฉัน ชิซึรุกับอลิสซ่า หรือไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อเอง ก็ใส่มันไว้เหมือนกัน ถึงจะไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจของมันในการอยู่ภายใต้แสงแดดก็ตาม เพราะมันเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความเป็นเชื้อสายเดียวกันของพวกเรา มันเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เกิดในตระกูลอันยิ่งใหญ่นี้
แต่ฉัน..จะเป็นคนทำให้ความภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกหลานตระกูลวิโอล่า ถูกทำลายไปหรือไม่
ท่านพ่อ.. ท่านคิดผิดหรือไม่.. ที่ให้ลูกเป็นผู้สืบทอดวงศ์ตระกูลของเรา ลูกยังเหมาะกับหน้าที่ที่ท่านมอบหมายให้ทำอีกหรือ...
ในที่สุดฉันก็เจอมันแล้ว ฉันไม่น่าสะเพร่าเก็บของไม่เป็นที่เป็นทาง เวลาต้องการจะใช้จะได้ไม่เสียเวลามากแบบนี้ ฉันได้กระสุนเงินที่คาดว่าน่าจะพอสำหรับการใช้ล่าพวกมัน แวมไพร์อย่างฉันไม่น่าจำเป็นที่จะต้องใช้ของทุ่นแรงแบบนี้ในการฆ่าตัวอะไรสักตัวหรือสักฝูงหนึ่ง แต่ฉันคิดว่ามันไม่ใช่แค่หนึ่งตัวหรือหนึ่งฝูงแน่นอน ลูกสมุนของพวกมัน มันต้องรู้ว่าฉันจะไปฆ่ามัน มันต้องเตรียมตัวตั้งรับฉันอยู่แล้ว ไอ่เรโตะ ฉันจะให้แกตายคามือฉันให้ได้
ความแค้นของฉันที่มีต่อมัน ถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปเพราะฉันมีเรื่องอื่นให้ต้องสนใจมากกว่า เรื่องหัวใจของฉัน แต่เมื่อฉันหมดรักแล้ว ไม่มีใครรักหรือต้องการฉัน ความแค้นที่ฉันเกือบลืมมันไปว่าจะต้องสะสาง ก็กลับมา ฉันจะใช้ปีศาจในตัวฉันฆ่าพวกมันให้หมด ไม่ให้เหลือสักตัว ในฐานะที่พวกมันผิดข้อตกลงในการสงบศึกของสองเผ่าพันธุ์ ที่ทำสนธิสัญญากันเอาไว้ตั้งแต่รุ่นก่อนที่ท่านพ่อของฉันจะมาปกครอง ในเมื่อมันต้องการสงคราม ฉันก็จะให้มันได้อย่างที่มันต้องการ ฉันจะทำสงครามกับมัน
ฉันเหมือนคนบ้าในทันทีที่ฉันคว้าอาวุธของฉัน เตรียมตัวพร้อมเพื่อจะไป แม้จะถูกยั้งไว้จากสองลูกน้องคนสนิทของฉัน ฮารุกะกับยูคิโนะ พวกเค้าไม่อยากให้ฉันเป็นอันตราย เพราะฉันคิดจะไปเพียงคนเดียว โดยสั่งให้พวกเค้าอยู่ประจำบ้าน ดูแลกิจการงานที่นี่และรักษาความปลอดภัยด้วย ห้ามตามฉันไปเด็ดขาด อำนาจสูงสุดของฉันที่นี่ไม่มีใครกล้าขัด ใครๆก็รู้จักฉันในฐานะจอมเผด็จการของปราสาทวิโอล่า ฉันไม่ว่าพวกเขาหรอก ที่ตั้งฉายานี้ให้ฉัน มันเป็นเรื่องจริง คำสั่งของฉันถือเป็นที่สุด ใครขัดหรือไม่ทำตาม ฉันไม่รับประกันความปลอดภัย แต่ในความแข็งแห่งกฎเหล็กของฉัน ก็ยังมีคนที่ละเมิดมันและไม่โดนทำโทษอะไรเลยได้อยู่หนึ่งคน คงไม่ต้องเดาเลยใช่หรือไม่ว่าเป็นใคร น้องสาวที่รักของฉัน หัวใจของฉัน..ชิซึรุ
พี่คิดถึงเธอนะ..น้องรัก.. แต่นี่คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ที่จะทำให้พี่เลิกคลั่งรักเธอ พี่จะบ้าเลือดแทน ยกโทษให้พี่ด้วยนะ..
ฉันเดินทางในป่าอย่างไม่ลำบากนัก ถึงมันจะเป็นคืนเดือนมืด ความเป็นแวมไพร์ช่วยฉันได้มากทีเดียว ไม่ต้องอาศัยไฟฉาย คบเพลิง หรืออะไรที่ให้ความสว่าง ตาของฉันเห็นได้ในความมืดโดยไม่จำเป็นต้องกลายร่าง ฉันไม่ได้รีบมากนักกับการเดินทางครั้งนี้ จึงไม่คิดหายตัวไปโผล่ที่นั่นที่คาดว่าพวกมันกบดานกันอยู่ เพราะฉันอยากจะแน่ใจว่า ฉันไปถูกทางจริงๆ ฉันไม่ได้ใช้แผนที่หรือเวทย์นำทางอะไร แค่ใช้ความรู้สึกและกลิ่นของพวกมันนำทางให้ฉัน และฉันก็เจอมันจนได้ พวกมันเยอะมากจริงๆ
แต่ไม่ใช่แค่พวกมันเท่านั้นที่ฉันเจอเวลานี้ ฉันตกใจมากที่เห็นเค้า ชิซึรุกระโดดลงมาจากฟ้า ฉันทำตาโตโดยไม่รู้ตัวที่เห็นหน้าเค้า ฉันแหงนขึ้นมองบนฟ้า อยากรู้ว่าเค้ามาได้ยังไง คำตอบอยู่ที่นั่น
อรากอน..มังกรแฮบริเดี้ยนสีดำ เค้าให้มันพามาหาฉันนั่นเอง แน่จริงๆน้องสาวฉัน ทำให้มังกรที่ดุร้ายที่สุดแบบนี้เชื่อฟังได้ อาจเพราะเค้ามีพลังเวทย์
ใช่..ชิซึรุเป็นแวมไพร์จอมเวทย์นี่นา ฉันลืมไปได้ยังไง
ตอนนี้ฉันได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้เค้า ชิซึรุบ่นฉันจนหูชา เค้าบอกว่า ฉันทำไมทำอะไรบ้าๆแบบนี้ มาล่ามนุษย์หมาป่าคนเดียว ถามว่าฉันลืมไปแล้วรึว่า เค้ากับฉันใช้วิญญาณดวงเดียวกัน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ฉันไม่คิดหรือว่าเค้าจะเป็นยังไงบ้าง เค้าก็จะต้องเป็นอย่างที่ฉันเป็น ฉันในตอนนั้นได้แต่ก้มหน้านิ่งฟังคำน้องสาวตัวเองว่า แต่พอเค้าบ่นจนพอใจ ชิซึรุก็เข้ามากอดฉัน ฉันดีใจ ดีใจมากที่เค้ากอดฉัน แม้จะเป็นแค่ที่เค้ารู้สึกว่า ฉันเป็นพี่ของเค้าก็ยังดี ฉันกอดตอบเค้า พยายามให้เป็นแบบที่เค้าอยากให้เป็นในตอนนี้ ใช่..พี่เป็นพี่ของเธอ.. น้องสาวที่รัก..
ฉันใช้อาวุธที่ฉันเตรียมมาจัดการกับฝูงมนุษย์หมาป่าที่เป็นเพียงลูกสมุนกระจอกของไอ่เจ้าเรโตะ ส่วนชิซึรุใช้ดาบคาตะนะที่เป็นของประจำตระกูลของท่านแม่ของเรา ท่านลุงที่เป็นพี่ชายของท่านแม่ของพวกฉันให้เป็นของขวัญกับเค้ามา ชิซึรุเรียนการใช้ดาบแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เค้าจึงเก่งมากกับการใช้ดาบแบบนี้ ท่าทางเวลาเค้าใช้มัน สวยมาก เหมือนเค้ากำลังร่ายรำมากกว่าการฆ่า อันที่จริง ฉันก็เรียนเหมือนกัน แต่ไม่ถนัดนัก เพราะศาสตร์นี้ ถ้าให้ดีต้องเรียนที่ญี่ปุ่น ซึ่งฉันมีเวลาอยู่ที่นั่นน้อยมาก ดาบของฉันที่ท่านลุงให้มาพร้อมกันกับน้อง ก็คือ วากิซาชิ ฉันแขวนมันไว้ในห้องทำงานของฉันที่ปราสาทวิโอล่า วากิซาชิ ตามจริงแล้ว มันเป็นดาบที่ใช้พกคู่กับคาตะนะ แต่เพราะความที่ฉันกับน้องเป็นฝาแฝดกัน ท่านลุงจึงแบ่งให้คนละด้าม แต่ฉันกลับคิดว่า..ท่านลุงคงให้ดาบผิดคนนะ เพราะคาตะนะมันเป็นดาบยาว แต่วากิซาชิเป็นดาบขนาดกลาง ถ้าเทียบกันตามขนาดตัวแล้วล่ะก็ ชิซึรุน่าจะใช้วากิซาชิมากกว่าคาตะนะ แต่...เค้าก็เหมาะกับมันดีนะ เค้าดูสวยมากทีเดียวเวลาจับดาบเล่มนี้ และสีของมันก็เหมือนทำมาให้เค้าโดยเฉพาะเลย ด้ามของมันเป็น..สีแดง
ฉันรู้สึกเหนื่อยและอ่อนแรงขึ้นมากะทันหัน หลังจากผ่านการต่อสู้กับพวกลูกสมุนของเรโตะ มันมีมาเพิ่มเติมเป็นกองทัพที่ล้มเท่าไหร่ก็ไม่หมดเสียที และที่ฉันสังเกตเห็น มันน่าประหลาดมากที่พวกมันแต่ละตัว ไม่กลัวตายกันเลย ดาหน้าเข้ามาหาฉันกับน้อง เหมือนกองทัพซอมบี้ มาทื่อๆแข็งๆ คล้ายถูกสะกดมา หรือว่างานนี้จะไม่ใช่แค่มนุษย์หมาป่าเท่านั้นที่ฉันต้องเจอ มันต้องมีใครที่เข้าร่วมกับมันด้วยแน่ๆ เพราะลำพังแค่เจ้าเรโตะ เจ้าหมาขี้เรื้อนนั่น ไม่น่าจะทำเรื่องใหญ่ๆขนาดนี้ได้คนเดียว แต่..ใครกันนะที่คิดทำเรื่องแบบนี้ ที่มันต้องการความเป็นอมตะขนาดนั้น ถึงขนาดต้องการกินเลือดและหัวใจคน
ชิซึรุเห็นอาการไม่ดีของฉัน เค้าเลยทำเรื่องให้ฉันนึกทึ่งในตัวเค้าอีกครั้ง เค้ากางวงเวทย์คุ้มภัยให้พวกเราอยู่กันอย่างไม่ต้องกลัวการจู่โจม เค้าอยากให้ฉันได้พัก และเพิ่มแรงก่อนที่จะเข้าไปหาตัวการใหญ่ในปราสาทที่เราสองคนใกล้จะไปถึงกันแล้ว ฉันไม่เห็นด้วยเลยกับการที่เค้าใช้พลังเวทย์ทำเรื่องแบบนี้ ฉันกลัวเค้าเหนื่อย ตัวเค้าเองก็ใช่ว่าจะดีกว่าฉัน หน้าของเค้าที่เคยเป็นสีขาวอมชมพู ตอนนี้ก็เริ่มซีดแล้ว เค้าคงกำลังต้องการอย่างที่ฉันต้องการ..เลือด
แล้วพวกเราก็ได้มัน.. ชิซึรุใช้คาถาเรียกสรรพสิ่ง เอาเลือดของฉันที่เค้าเป็นคนทำให้ เลือดที่ได้มาจากการผลิตมาตามโครงสร้างของเลือดไมจัง ซึ่งได้ผลดีกับตัวฉันมากที่สุดมาให้ฉัน จากห้องแล็ปของเค้า ฉันอิดออดทำท่าจะไม่ยอมรับมันเหมือนกัน ฉันละอายใจที่ฉันจะต้องใช้เลือดที่ได้มาจากไมจังแบบนี้ ฉันไม่ดีกับเธอ แต่ฉันก็ทำให้น้องเสียใจไม่ได้ เค้าทำเพื่อฉัน และฉันห่วงเค้ามาก ยังดีที่ว่า..เค้าไม่ลืมที่จะเอาส่วนของตัวเองมาด้วย ไม่อย่างนั้น ฉันคงต้องให้น้องดื่มเลือดจากตัวฉันแทน และมันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ก็ได้ กับความใกล้ชิดกันขนาดนั้น ฉันกลัวใจตัวเอง
ถึงฉันจะอยากไปทำงานที่ฉันตั้งใจให้เสร็จ แต่ร่างกายของฉันที่มันล้ามานาน ก็ประท้วงฉัน ข้อเสียที่ฉันไม่ใช่แวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์เหมือนท่านพ่อ ทำให้ฉันอ่อนแอง่ายกว่าท่านและ..อลิสซ่า
นึกถึงอลิสซ่าแล้ว.. ฉันอยากเจอน้องจัง.. เค้าจะเป็นยังไงบ้างนะ หายโกรธฉันแล้วรึยัง คิดถึงฉันบ้างมั้ย.. หรือเค้าอยากจะตีฉัน
แต่..ตอนนี้ ฉันเหนื่อยมาก ฉันขอพักก่อนได้มั้ย หัวใจฉันมันล้าอย่างบอกไม่ถูก ชิซึรุอยู่ตรงนี้ แต่ฉันกลับรู้สึกว่าเค้าอยู่แสนไกล ฉันเอื้อมมือเท่าไหร่ก็คงไปไม่ถึงเค้า ถึงเค้าจะกอดฉันอยู่ ให้ฉันนอนตักนุ่มๆของเค้า แต่ฉันก็ยังรู้สึก..เหงาเหลือเกิน
ตื่นจากฝันครั้งนี้ที่มีเธออยู่ในนั้น.. พี่คงจะเป็นได้แค่พี่ของเธอจริงๆใช่มั้ย..ชิซึรุ..
ถูกต้อง..อยู่ในที่ของเจ้าซะที.. ปีศาจร้าย.. อย่าได้ออกมาทำร้ายใครๆอีกเลย..
To be continue…
2 ความคิดเห็น:
ยังไงก็ยังรู้สเจ็บอยู่ดีสินะแอน.. แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่เธอเองเลือกให้มันเป็นแบบนี้.. แล้วมันก็โทษใครไม่ได้เลยด้วยที่เรื่องมันออกมาในรูปนี้ อย่างน้อยเธอก็ยังได้รู้ใจตัวเองว่าเธอรักใคร ถึงแม้มันจะสายไปมากโขอยู่ก็เถอะ..
เจ็บปวดเนาะ.. กับการรักใครสักคนหนึ่ง แต่เป็นอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ เพราะความเป็นพี่น้อง และอีกคนก็มีเจ้าของไปซะแล้ว ถึงแม้จะอยากได้เค้ามาเป็นของตัวมากแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากทำร้ายอีกคนที่เค้าเองก็รักคนที่เรารักไม่แพ้กัน.. อีกอย่างนัสึกิเองก็ไม่ได้ไปมีใครพร่ำเพื่อ.. นัทสึกิมีเพียงแค่ชิซูรุอยู่คนเดียว ทั้งๆที่เจ้าชิซุรุไปมีใครอีกคน นั่นก็คือพี่สาวตัวเอง.. รักหลายเส้า พันอีรุงตุงนังกันอยู่เนี่ย.. แต่เมื่อความรักมันจะเกิด มันห้ามได้ที่ไหน แล้วเราจะรู้มั้ยล่ะ ว่าคนที่เรารักอยู่ เรารักมากแค่ไหน มันก็ต้องให้ไปเจอคนอื่นก่อน ถึงจะรู้นั่นแหละนะ.. แบบนี้ไม่ดีเลยเนอะ..
แต่การแก้ปัญหาของแอนมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเลยนะ ปัญหาเกิดตรงไหนก็น่าจะไปแก้ตรงนั้น ไม่ใช่ไปเที่ยวก่อเรื่องขึ้นมาซ้ำๆอีก.. ใช่.. ไมน่ะรักแอนนะ แต่ก็ไม่ได้อยากจะเป็นตัวแทนของใคร ถึงไมจะไม่รู้ก็เถอะว่าแอนทำไมเป็นแบบนั้น ทำไมถึงมาทำกิริยารุ่มร่ามแบบนั้นกับตัวเอง แต่หัวใจมันเจ็บปวดนะ.. ไมน่ะอยากเป็นคนที่อยู่หัวใจแอน แต่ก็ไม่ได้อยากจะไปอยู่ทับแทนที่ใครในนั้น..
พอหมดจากเรื่องไม ก็มาเรื่องมนุษย์หมาป่าอีกแระ น่าตีจริงๆเลยให้ตาย "เลิกคลั่งรัก แต่บ้าเลือดแทน" ทำแบบนี้เธอไม่ได้ไปตายคนเดียวซะหน่อยนะแอน ถ้าเธอรักชิจังจริงๆ เธอก็ต้องรักตัวเองด้วย เพราะเธอสองคนมีวิญญาณดวงเดียวกัน ถ้าแอนเป็นอะไรไปชิจังก็ต้องเป็นไปด้วยนะ.. แต่ถ้าจะเป็นการตัดช่องน้อยแต่พอตัวละก็ ตายไปด้วยกันเลย จะได้ไปอยู่ด้วยกันแค่สองคนไงล่ะ.. แต่ว่ามันไม่ดี โลกนี้ไม่ได้มีแค่เธอสองคนนะ.. อยู่บนโลกรับโทษทัณฑ์ไปก่อนแหละดีแล้ว
"สุดท้ายแล้วเราก็แค่พี่น้องกัน เป็นอะไรมากกว่านั้นไม่ได้.. ถึงฉันจะรักพี่ แต่มันไม่ถูกต้อง.. ลืมเรื่องของเราไปซะเถอะ.. พี่จ๋า.."
แง้ๆๆๆๆ.. T[]T .. คิดแล้วก็เศร้า ทำไมรักกันมากขนาดนั้นแต่ก็ไม่ได้กัน.. เพราะเรารู้สึกตัวช้าไป.. ฮือๆๆๆๆ..
ขอบคุณเจ้าค่ะไรเตอร์ ที่เขียนออกมาได้เพ้อขนาดนี้ แอนเพ้อแล้วก็สงสาร นทั้งน่ากอด น่าปลอบ และน่าตีไปในเวลาเดียวกัน.. เหอๆๆๆ.. ไว้มาอีกนะคะ ข้าพเจ้ารอเสมอจ้า.. ^^
Lookgolf’s comment…
โอ้ววววว...ท่านจอมมารรัตติกาล
ได้เห็นมุมมองความรู้สึกภายในจิตใจของแอนจังตอนนี้แล้ว..บอกได้คำเดียวว่า..มันคือช่วงเวลาที่จอมมารรัตติกาลสูญเสียความเป็นผู้ใหญ่ที่รอบคอบและมีเหตุมีผลของตนไปได้อย่างมากมายจนไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว เหอๆๆ...และทั้งหมดทั้งมวลที่เป็นสาเหตุของเรื่องนี้ก็คือ ความรู้สึกธรรมดา ๆ ที่ไม่เคยธรรมดา ที่เรียกว่า รัก
เพราะรักมาก ก็เสียใจมาก..และสิ่งนั้นเอง เลยเป็นแรงขับเคลื่อนให้แอนจังไปทำในสิ่งต่าง ๆ นานา เพื่อที่จะลืมน้องสาวของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการไปรวบรัดและล่วงเกินไมจังก็ดี การไปเดินเล่น..อ๊ะ ไม่ใช่สิ..การไปเที่ยวไล่ฆ่าเหล่ามนุษย์หมาป่าคู่อริเพียงลำพังก็ดี...อืม แล้วผลที่ตามมาจากการพยายามทำสิ่ง ๆ ต่างเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างที่แรงกล้าอยู่ภายในจิตใจของตนนั้น แทนที่จะส่งผลดีกลับส่งผลเสียตามมาอย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็นความมพอใจที่ไมจังมีต่อการกระทำของแอนจัง หรืออันตรายที่เกิดขึ้นจากการลุยเดี่ยวทำสงครามกับฝูงหมาป่าจนนำพาน้องสาวแสนรักมาร่วมเสี่ยงภัยด้วย...ยังดีที่ในอันหลังนี้ เหตุการณ์ผ่านพ้นไปด้วยดี ไม่มีใครถึงแก่ชีวิตหรือได้รับอันตรายแก่กาย คงมีแต่เพียงจิตใจที่อ่อนล้าและต้องการที่พักพิง..และนั่นจึงได้เห็นความพยายามของคนที่รักกันเหลือเกินแต่ก็ต้องห้ามใจไว้ไม่ให้ความรู้สึกนั้นเกินไปกว่าสถานะที่ได้มาโดยกำเนิดระหว่างกันและกัน พี่น้อง
โอ่ ตอนนี้เลยทำให้รู้ว่าแอนจังชอบสะสมปืนรึเนี่ย อิอิ..แถมปืนที่พกไปไล่ยิงน้องตูบแก้เซ็งนี้ กระบอกเบ้อเริ่มเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ..เห็นแบบนี้แล้ว คนอ่านอย่างเราจึงไม่อยากเป็นสาเหตุที่จะทำให้ท่านจอมมารรัตติกาลขุ่นเคืองใจเลยจริงๆ แม้เราจะไม่ได้เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับน้องตูบก็เถอะ ฮ่าๆๆๆ
และตอนนี้ก็ยังได้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับแวมไพร์ และได้ทราบประวัติตระกูลแวมไพร์วิโอล่าด้วยอีกต่างหาก ฮ่าๆๆๆ
เอาล่ะ นี่เป็นตอนสุดโต่งของท่านจอมมารสินะ..อย่าคิดมาก คนที่เจอเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย และเก็บกดเอาไว้ในใจเพียงคนเดียว ก็ย่อมถึงขีดจำกัดกันสักวัน..เมื่อปลดปล่อยมันออกมาแล้ว ก็ปล่อยออกมาให้หมดนะ อย่าให้เหลือ แล้วก็พักผ่อนซะ..เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา...แอน ลู วิโอล่า จอมมารรัตติกาล ผู้สุขุม เย็นชา และเงียบขรึม แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกายและความคิดผู้นั้น ก็จะกลับมาเองล่ะน้า
ขอบคุณนะคะ ไรท์เตอร์ ตอนนี้แอบผิดหวังในตัวของท่านจอมมารเล็ก ๆ ..แต่ก็นะ เนี่ยล่ะน้า ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ..และนั่นทำให้อะไร ๆ เหล่านั้นมีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ที่น่าจับตามอง อิอิ..จะรอติดตามอ่านตอนต่อไปอย่างแน่นอนจ้า
แสดงความคิดเห็น