The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.10
Pairing : Anh x Shizuru x Alyssa
Rate : M
Genre : Drama – Romance
By : Anhy
My Sister - 4 : Shizuru’s POV
ฉันลุกขึ้นมาจากที่นอนพร้อมอาการเจ็บระบมทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ตรงหว่างขาของฉัน แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังหันไปยิ้มให้กับคนที่นอนหลับอยู่บนที่นอนนั่นได้ แม้เค้าจะยังไม่รู้สึกตัวและไม่มีทางเห็นมันก็ตาม แอนคงยังหมดแรงอยู่กับเซ็กซ์ของเราเมื่อคืนและเมื่อเช้ามืด
บอกตามตรงเลยว่า ฉันไม่อยากลุกจากเตียงของเค้า เพราะฉันคงจะไม่ได้กลับมานอนที่นี่อีกแล้ว ไม่ได้มาอยู่ในอ้อมกอดของเค้าอีก คิดแค่นั้น น้ำตาฉันก็ไหลออกมา แต่ถ้ามันจะช่วยให้แอนสบายใจขึ้นบ้าง ฉันก็จะทำ ก่อนหน้าที่ฉันจะลุกขึ้น ฉันคว้าผ้าห่มมาห่มให้เค้า ผิวขาวๆและสรีระสวยๆของเค้าจะได้ไม่ทำให้ฉันฟุ้งซ่านกับการตัดใจไม่สัมผัสมัน แต่ฉันก็ขอจูบเค้าอีกครั้ง คาดว่าครั้งนี้คงจะไม่ทำให้เค้าตื่นแน่ๆ เค้าเพลียมาก ฉันหลับตาและก้มลงจูบหน้าผากของเค้า ตั้งใจว่าจะทำแค่นั้น แต่ฉันก็อดใจไม่ไหวต้องก้มลงอีกครั้ง เพื่อจูบเค้าที่ปาก ระหว่างนั้นน้ำตาฉันกำลังจะไหลลงมาอีก ฉันจึงรีบลุกขึ้นทันทีก่อนที่มันจะหล่นลงกับหน้าสวยๆของแอน ฉันกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ได้ถ้าเห็นสายตาของเค้ามองมาหา ฉันต้องลุกขึ้นก่อนที่เค้าจะเห็นฉันจากไป แต่ก่อนจะออกจากห้องของเค้าจริงๆ ฉันขอไปจัดการกับตัวเองก่อนในห้องน้ำ
ฉันตกใจเมื่อเห็นตัวเองในกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำขนาดใหญ่ในห้องนอนแอน คำตอบของความเจ็บระบมของฉันอยู่ที่นี่ ตัวของฉันมีร่องรอยเขียวช้ำเป็นแห่งๆ โดยเฉพาะที่หน้าอก มันเหมือนเป็นรอยมือ รอยนิ้ว ใช่..มือใหญ่ๆของแอนคงทำให้ทรวงอกของฉันมีสภาพแบบนี้ เค้ายั้งแรงมากมายของตัวเองไม่ได้ เมื่อเค้าเป็นอย่างเมื่อคืนหรือเมื่อเช้า ฉันพยายามใช้มือตัวเองสัมผัสหน้าอก ตรวจดูความเจ็บที่เกิดขึ้นว่ามันแค่ไหน ฉันแตะมันแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ มันเจ็บมาก ฉันเลยเลิกคิดวุ่นวายกับมัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของความสามารถในการรักษาตัวเองของแวมไพร์อย่างฉันจัดการ อีกไม่นานมันก็จะหาย เหมือนกับความรู้สึกเจ็บระบมตรงบริเวณช่องคลอดนั่นแหละ
อวัยวะพิเศษที่แอนใช้กับฉันเมื่อคืนบวกกับแรงกระแทกที่รวมกับน้ำหนักตัวของเค้าและความยาวนานในการร่วมรักนั่น ทำให้ฉันเลือดออกตรงจุดนั้น แต่ในตอนนั้นมันไม่รู้สึกอะไร เพราะมันมีความต้องการทางเพศกลบเกลื่อนความรู้สึกเจ็บไปได้ แล้วยังตอนเช้านั่นอีก กับสามนิ้วใหญ่ๆของแอน เลยไม่น่าแปลกเลยที่ฉันจะเจ็บมากแบบนี้ รวมไปถึงอาการขาสั่นของฉันด้วยที่ฉันยังต้องอาศัยการใช้มือข้างหนึ่งยันไว้กับผนังห้องน้ำในตอนยืนสำรวจตัวเองและค่อยๆเดินพาตัวของฉันเข้าไปใช้น้ำจากฝักบัวชะล้างร่างกาย คราบเลือดที่ลำคอและบริเวณใกล้หว่างขาที่มีคราบของเหลวสีขาวที่มาจากตัวแอนเป็นเรื่องสำคัญที่ฉันต้องจัดการก่อนออกไปเจอหน้าใครๆ
น้ำอุ่นจากฝักบัวในห้องน้ำของแอน ทำให้ตัวฉันที่เป็นเจ้าของเลือดเย็นๆแต่เดิม เริ่มอุ่นขึ้นและมันก็ช่วยให้พลังในการรักษาตัวของแวมไพร์อย่างฉันเร็วขึ้นด้วย แต่ระหว่างที่ฉันค่อยๆไล้ตัวเองเพื่อขจัดคราบเลือดออก ฉันยังคิดถึงสัมผัสจากแอนจนฉันต้องกัดปากตัวเองเพื่อข่มจิตใจ ฉันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว เพราะถ้าฉันเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาและช่วยตัวเองอีกครั้งในตอนนี้ที่ยังอยู่ในห้องของแอนและเค้านอนอยู่บนเตียง เสียงครางจากความต้องการของฉันอาจทำให้แอนตื่นขึ้นมาและอดใจไม่ได้จนต้องช่วยฉันปลดปล่อยความใคร่ที่ไม่มีทางสิ้นสุดลงง่ายๆนี้อีกครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีเลย
ฉันจึงพยายามจัดการกับตัวเองให้เร็วขึ้นและเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พอถึงนาทีที่มือของฉันสัมผัสกับหน้าท้องของฉัน ฉันก็นึกถึงของเหลวที่แอนปล่อยออกมาตอนถึงจุดสุดยอดของเค้า หากว่าเค้าสามารถทำให้ฉันท้องได้จากของเหลวเหนียวๆนั่น ฉันจะเป็นยังไงเวลานี้ ฉันอาจจะมีลูกของแอนอยู่ในท้องก็ได้ ใจหนึ่งฉันก็ดีใจที่เค้ายอมที่จะปล่อยความต้องการของเค้าออกนอกช่องคลอดของฉัน แต่อีกใจก็นึกถึงว่า ฉันน่าจะมีอะไรไว้ให้คิดถึงเค้าเป็นรูปธรรมก่อนจากกันจริงๆแบบนี้ นั่นก็คือ..ลูก แต่ถ้าคิดให้ดีแล้วล่ะก็ คนอย่างฉันคงไม่เหมาะกับการเป็นแม่แน่ๆ ไม่มีเด็กที่ไหนอยากเกิดมาในท้องของผู้หญิงมักมากอย่างฉัน ฉันรู้ตัวเองดี ฉันต้องการเซ็กซ์และสนุกกับมันเกินกว่าที่จะยั้งตัวเองได้ และถ้าฉันท้องจริงๆ ฉันก็คงจะต้องแท้ง ดีแล้ว..ที่แอนไม่ได้เลือกฉันเป็นแม่ของลูกเค้า แต่ทำไมฉันเจ็บที่หัวใจจัง เวลานึกถึงความจริงข้อนี้ และที่สำคัญ การที่ฉันจะมีลูก เพราะการตั้งท้องกับพี่ตัวเอง คงไม่ใช่เรื่องดีนัก แล้วไหนจะนัทสึกิอีกล่ะ ฉันจะบอกกับเธอว่ายังไง ฉันไม่อยากเลิกกับนัทสึกิ ฉันยังต้องการเธอ ฉันยังรักเธออยู่ แม้จะทำตัวเหลวแหลกแบบนี้ก็ตาม
ฉันพยายามสะลัดทิ้งเรื่องวุ่นวายในสมองออกระหว่างคว้าเสื้อผ้าของฉันขึ้นมาสวมใส่ ร่างกายของฉันดีขึ้นแล้วจากการได้อาบน้ำอุ่นและพลังแวมไพร์ในตัวฉันช่วยฟื้นฟูร่างกายของตัวเอง ในกระจกเงาภายในห้องนอนของแอนที่ฉันยืนอยู่เพื่อแต่งตัว ฉันยังเห็นแอนนอนหลับอยู่เหมือนเดิมแต่เค้าเริ่มขยับตัวเล็กน้อย ใช่..เค้าใกล้จะตื่นแล้ว และฉันควรไปก่อนที่เค้าจะตื่นจริงๆ ถึงจะแปลกใจที่เค้าตื่นยากมากวันนี้ แต่ก็พอเข้าใจได้ แอนคงจะเพลียมากจริงๆ ไม่งั้นเค้าไม่เป็นแบบนี้หรอก เค้าก็เหมือนกับฉัน เซ็กซ์ของเค้าร้อนแรงและยั้งไม่ได้ และนั่นก็เป็นเหตุผลให้เค้าหมดแรงอย่างที่เห็น และทำให้ฉันระบมทั้งตัวแบบนี้ด้วย แบบนี้ฉันเลยไม่สงสัยเท่าไหร่ หากมนุษย์ธรรมดาจะทนกับความเป็นเค้าไม่ได้เวลาที่ร่วมเพศกัน ไม่ตายคามือเค้าก็บุญแล้ว แต่..เค้าก็เคยทำผู้หญิงคนหนึ่งตายเพราะเรื่องแบบนี้เหมือนกันนี่นา.. พี่สาวผู้น่าสงสารของฉัน...
“ชิซึรุ..”
ฉันหยุดนิ่งอยู่ที่ประตูห้องของเค้า หลังจากที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง ฉันข่มตาลงก่อนจะเหลียวหน้ามามองเจ้าของเสียงที่ฉันรู้ดีว่าเป็นใคร ฉันออกจากห้องไปไม่ทันเค้าตื่นจริงๆ เพราะมัวแต่ใช้เวลากับการทำใจที่จะต้องจากเค้า และตอนนี้ฉันเห็นแล้วว่าเค้ามองฉันด้วยสายตายังไง น้ำตาฉันไหลอีกครั้ง เค้ากำลังอาวรณ์ฉันอยู่ ฉันรู้ แต่ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำใจได้ยากกว่านี้ ฉันข่มตาลงอีกครั้งและใช้ความเป็นแวมไพร์หายออกไปจากห้องของเค้า ถึงจะรู้ว่าเค้าคงต้องเสียใจกับสิ่งที่ฉันทำ แต่ฉันก็รู้ว่า..เค้าเข้าใจ
พี่จ๋า.. ฉันรักพี่เหลือเกิน.. แต่ฉันก็ต้องทำแบบนี้.. พี่เข้าใจใช่มั้ย...
ฉันตั้งใจจะทำตัวดีอีกครั้ง ฉันพยายามง้อนัทสึกิและขอโทษในสิ่งที่ฉันทำ แต่เธอใจแข็งกับฉันเหมือนคราวนั้นไม่มีผิด ฉันจึงต้องรอจังหวะใหม่ที่จะขอคืนดีกับเธอ ฉันไม่มีแก่ใจจะทำงานอีกต่อไป และงานก็คงไม่ต้องอาศัยอะไรจากตัวฉันมากนัก เพราะฉันวางแผนงานทุกอย่างที่สถาบันวิจัยไว้เรียบร้อยแล้ว ฉันจึงเลือกออกไปนอกบ้าน เพราะจะไม่ต้องเจอทั้งนัทสึกิให้เธอโมโหฉันอีก และที่สำคัญ..ฉันยังไม่อยากเจอแอน ฉันกลัวใจตัวเอง ฉันเลยไปหาน้องเล็กของฉันแทน
อลิสซ่า.. น้องสาวต่างแม่ของฉันมีบ้านอยู่ในป่าที่ไม่ไกลจากเขตบ้านของเราเท่าไหร่นัก ฉันหมายถึงปราสาทวิโอล่าของพวกฉันนั่นแหละที่เราเรียกว่าบ้าน ถามว่าทำไมอลิสซ่าถึงไม่ยอมมาอยู่รวมกันกับฉันและแอน เค้าให้เหตุผลว่า เค้ามีแฟนและต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่าอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่มีคนมากมาย และนั่นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของฉันที่จะมาหา มาพักอยู่กับเค้า อย่างน้อยก็หนึ่งคืน พักฟื้นหัวใจของฉัน
อลิสซ่าเหมือนจะรู้ว่า ฉันจะมาหา เค้าออกมาต้อนรับฉันเป็นอย่างดีเหมือนเดิม แน่นอน..น้องสาวฉันเป็นแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์เพียงคนเดียวของบ้าน หากไม่นับท่านพ่อ เค้ามีความสามารถมากกว่าที่ฉันคาดไว้มากมาย และก็หมายความรวมถึงการรับรู้ล่วงหน้าว่าฉันจะมาหาเค้า เค้าจึงอยู่ตามลำพังในวันนี้ โดยที่ไม่มีแฟนอยู่เหมือนกัน เพราะความที่เค้ารู้ว่าฉันจะมาหา แฟนของเค้าจึงขอไปอยู่ที่อื่นก่อน เพื่อให้เราพี่น้องได้อยู่ด้วยกันอย่างสะดวก แฟนของอลิสซ่า ฉันอาจจะบอกได้ว่า เธอหน้าตาคล้ายฉันเหมือนคนเดียวกัน แค่สีตากับทรงผมเท่านั้นที่ไม่เหมือน และเค้าไม่ใช่แวมไพร์ เธอเป็นเพียงมนุษยธรรมดา อลิสซ่าจึงไม่อยากให้เธอต้องอยู่ท่ามกลางพวกเรามากนัก มันก็เลยเป็นเรื่องดีของฉันในวันนี้เหมือนกัน
แต่ความสามารถพิเศษของแวมไพร์เลือดแท้อย่างอลิสซ่าก็น่ากลัวไม่ใช่เล่น แค่เค้าเห็นหน้าฉันและมองตาเท่านั้น เค้าก็รู้ว่าฉันเป็นอะไรมา แล้วเค้ารู้แล้วว่าความลับของฉันคืออะไร.. ท่าทางเค้าเสียใจเหมือนกัน แต่ไม่พูดอะไรเลย ได้แต่นิ่งฟังฉันเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เค้าเข้าใจเรื่องมากขึ้น ฉันอยู่กับอลิสซ่าด้วยความสบายใจตลอดวันนั้น เค้าแค่นั่งให้ฉันซบบ่ากว้างๆของเค้าที่คล้ายกันกับของแอน หน้าตาของเค้าสองคนและรูปร่างเหมือนกันจนแทบไม่เห็นความแตกต่าง นอกจากสีผมและสีตาที่แยกเค้าออกจากกันได้ แต่ฉันยอมรับว่า อลิสซ่าไม่ได้ทำให้ฉันต้องร้องไห้เวลาอยู่กับเค้า ฉันรู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว
คืนนั้นที่ฉันขอค้างกับเค้าในบ้านหลังนั้น ฉันขอเค้านอนเตียงเดียวกันด้วย อยากให้เค้ากอดฉัน ไม่รู้ทำไม อาจจะเพราะเค้าเหมือนแอนมากก็ได้ล่ะมั้ง ฉันนอนฟังเสียงหัวใจเค้าเต้นอย่างเพลิดเพลิน และหลับตาลงอย่างสบายภายในอ้อมแขนของเค้า เราเข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ เพราะไม่รู้จะทำอะไรดีกว่านี้ ถึงฉันจะหลับไม่ลงก็ตาม แล้วอยู่ๆอะไรบางอย่างในใจฉันก็ทำให้ฉันขยับหน้าตัวเองออกจากการซบอกเค้า เค้ามองหน้าฉันด้วยดวงตาสีฟ้าที่สามารถอ่านทุกอย่างได้นั่น และเค้ารู้ว่าฉันเป็นอะไร รู้มากกว่าที่ฉันรู้ตัวเอง และนั่นเองทำให้เค้าตอบรับการจูบของฉัน ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ฉันต้องการแบบนี้ ฉันเคยทำแบบนี้กับเค้ามาครั้งนึงแล้ว ตอนที่ฉันไปปลุกเค้าที่หลับอย่างไม่สนใจใครตอนนั้น ฉันไม่รู้ว่า ทำไมน้องตัวเองต้องนอนนานขนาดนั้น เหมือนฉันไม่คิดว่าเค้าจะเป็นอะไรไปได้ การไม่มีแฟนในคราวนั้นน่าจะทำให้เค้าไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับใคร ไม่ต้องปวดหัวเหมือนกัน แต่ฉันอาจจะ..คิดผิด
ตอนนี้อลิสซ่าจูบฉันไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่ หรือฉันจะคิดไปเองว่าน้องต้องการให้ฉันทำเรื่องอื่นมากกว่าการที่เราจูบกันคลายเครียดให้กับสมองของฉัน ฉันกำลังนั่งคร่อมตัวเค้าอยู่เหมือนตอนนั้นไม่มีผิด แต่อลิสซ่าสิ ตอนนี้มือสวยๆของเค้ากำลังเคลื่อนไหวไปมาอยู่บนหลังของฉัน ปลายนิ้วของเค้ากดไปตามหลังของฉัน ระหว่างส่งเสียงครางเบาๆในลำคอและจูบฉันเหมือนเค้ากำลังกระหายอยากได้มันมากๆ เค้าทำท่าเหมือนอยากสัมผัสตัวฉันให้มากกว่านี้ ฉันเองก็รู้ตัวดีว่า ฉันกำลังเริ่มอยากจะขยับมือสองข้างของฉันออกจากการประคองแก้มทั้งสองของเค้า ฉันอยากใช้มือของฉันไล้ไปตามร่างกายของเค้าที่มีสรีระคล้ายกันกับแอน ฉันคิดถึงแอนเหลือเกิน และถึงจะไม่ใช่จากความที่ใจฉันคิดถึงแอนอยู่แล้ว ฉันก็ต้องการจะทำแบบนั้นกับอลิสซ่าอยู่ดี ฉันยอมรับตามตรงเลยว่า การจูบกันของเราเวลานี้ สามารถทำให้ฉันรู้สึกถึงความเปียกชุ่มตรงหว่างขาของตัวเอง และฉันก็คิดว่า อลิสซ่าก็คงจะเป็นไม่ต่างจากฉัน แล้วเวลานี้เซ็กซ์กำลังจะทำให้ฉันคลั่งอีกครั้งหนึ่งแล้ว และฉันก็อยากให้เค้าทำอย่างที่เค้าอยากทำกับฉันเหลือเกิน
“นอนกับพี่มั้ย..อลิสซ่า..”
ฉันพูดมันออกมาจนได้อย่างไม่มียางอาย เพราะไฟราคะกำลังเผาผลาญตัวของฉัน และอีกไม่นานฉันจะทนไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการระบายออกมา ฉันกำลังจะทำตัวเหลวแหลกซ้ำซ้อนเหมือนเดิมอีกครั้งกับน้องสาวของฉัน เหมือนที่ฉันทำกับพี่สาวไปแล้ว แต่อลิสซ่าไม่เหมือนอย่างที่คาดไว้ เค้าไม่ทำ และเค้าทำให้ไฟที่กำลังค่อยๆทำลายตัวฉันมอดลงได้อย่างที่ฉันไม่คิดว่า ฉันจะทำมันได้ด้วยตัวเอง
แวมไพร์เลือดแท้ใช้ความสามารถพิเศษของเค้าที่เค้าไม่ค่อยได้ใช้มันมากนักกับฉัน ดวงตาสีฟ้าครามสะกดฉันด้วยการจ้องตา ฉันหยุดนิ่งทันทีระหว่างที่จะก้มลงจูบเค้าที่ปากอีกครั้ง เพราะถึงฉันจะเป็นแวมไพร์ แต่ฉันก็ไม่อาจต้านทานอำนาจของแวมไพร์เลือดแท้อย่างอลิสซ่าได้ ว่ากันตามตรง แล้วจากนั้น ฉันก็รู้สึกว่าสองแขนยาวของเค้าพาตัวฉันลงนอนซบหน้ากับบ่าของเค้าและนั่นหมายถึงทั้งตัวของฉันนอนทับเค้าอยู่ เสียงอันนุ่มนวลน่าฟังของเค้ากระซิบเบาๆออกมา
“หลับเถอะนะ..ชิจัง ฉันจะดูแลพี่เอง..”
จากนั้นอาการเกร็งตัวของฉันที่พยายามจะสู้กับเค้าก็หายไป ฉันหลับตาและยินยอมฟังแค่เพียงเสียงหัวใจของเค้าเหมือนเดิม และเริ่มเพลิดเพลินกับเสียงฮัมเบาๆในลำคอของอลิสซ่าและสัมผัสจากมือทั้งสองของเค้าบนศีรษะและแผ่นหลังตัวเอง เค้ากำลังกล่อมฉันให้หลับอย่างสงบ และใช่..มันได้ผลดีมากจริงๆ ฉันรู้สึกดีขึ้น
ขอบใจนะ..น้องรัก.. ขอบใจที่เธอไม่ทำให้พี่ต้องกลับมาเสียใจกับเรื่องของเรา เหมือนที่พี่กำลังนึกเสียใจอยู่กับเค้า..แบบนี้..
เช้าวันรุ่งขึ้น อลิสซ่าพาฉันมาส่งที่บ้านและจูบหน้าผากฉันก่อนเค้าจะไป ฉันถามว่าทำไมเค้าไม่อยู่ก่อน อยู่เป็นเพื่อนฉัน แต่เค้ายืนยันว่ามีธุระสำคัญอย่างอื่นต้องทำ ฉันจำยอมตามใจเค้า เพราะเค้าทำเพื่อฉันมามากแล้ว ฉันมองดูเค้าหายไปจากสายตาตัวเอง ใจฉันรู้สึกอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน อลิสซ่าจะคิดอะไรรึเปล่ากับเรื่องที่ฉันทำกับเค้าเมื่อคืน แต่คงไม่..เค้ามีแฟนแล้ว.. และฉันก็มี..
ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าที่จะเข้าไปหานัทสึกิอีกครั้ง ไปง้อเธอ แต่ระหว่างเดินเข้าตัวตึกของปราสาท เห็นฮารุกะวิ่งออกมาพอดี ท่าทางลุกรน ฉันเลยสั่งให้เค้าหยุดและถามความ แล้วฉันก็ต้องตกใจกับคำตอบที่ลูกน้องคนนี้ของฉันบอกมา ..แอนหายไป..
แล้วนั่นก็ทำให้ฉันต้องรีบไปหานัทสึกิโดยที่ไม่กลัวแล้วว่าเธอจะทำหน้ายังไงใส่ฉัน ฉันจำเป็นจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากเธอ แม้จะรู้ดีว่า ตัวเองแสนทุเรศสิ้นดีที่ต้องการเลือดจากผู้หญิงที่ฉันทำร้ายเค้ามากมายแบบนี้ และใช่จริงๆ นัทสึกิปฏิเสธที่จะช่วยฉัน แม้ว่าฉันจะบอกความจำเป็นไปว่า ฉันต้องไปช่วยแอน ไปช่วยเค้าจัดการเรื่องสำคัญ สู้กับมนุษย์หมาป่า เมื่อผลออกมาแบบนี้มันก็สมควรแล้วกับความชั่วร้ายของตัวฉัน ฉันควรยอมรับมันใช่มั้ย แล้วฉันก็หายตัวไปต่อหน้านัทสึกิทันที พร้อมน้ำตาที่มันออกมาเพราะความสมเพชในตัวของฉันเอง
และต่อไปนี้..ฉันควรจะยอมรับผลที่เกิดขึ้นจากความเลวครั้งนี้ของฉันด้วยความกล้าหาญ.. เหมือนกับที่แอนยอมรับมัน..
ฉันตามไปเจอแอนได้อย่างไม่ยากนัก เพราะเราสามารถสื่อถึงกันได้ด้วยความที่เรามีวิญญาณดวงเดียวกัน รวมถึงฉันสามารถรับรู้ได้ว่าแอนอยู่ที่ไหน นี่เป็นข้อดีกับการที่ท่านพ่อเชื่อมวิญญาณของเราสองคนไว้ด้วยกัน ฉันจะสามารถช่วยพี่ของฉันได้ง่ายขึ้น และหมายรวมถึงว่า ฉันจะสามารถช่วยเค้ารักษาความปลอดภัยให้กับตัวเองและตัวเค้าด้วยเหมือนกัน
แอนดูประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นหน้าฉัน และฉันก็รู้เหมือนกันว่าเค้ากำลังดีใจไม่น้อยที่เห็นฉันอีกครั้ง ถึงเค้าจะกำลังพยายามวุ่นวายกับเรื่องที่เค้าต้องการทำอยู่ นั่นก็คือการตามหาสถานที่กบดานของพวกมนุษย์หมาป่า ฉันเองก็ต้องพยายามอดทนเหมือนกันไม่ให้เค้าไปกอดเค้าอย่างที่ใจต้องการ ใช่..เพราะเราควรจะทำงานตามอย่างที่เราควรทำให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งหน้าที่ของฉันตอนนี้คือช่วยแอนในเรื่องนั้น ไม่ใช่เรื่องอื่น แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็บ่นเค้าไปหลายชุดเหมือนกันที่เค้าทำลืม ไม่รู้ว่า เค้ากับฉันใช้วิญญาณเดียวกัน และถ้าเค้าเป็นอะไรไป ฉันก็จะต้องเป็นไปด้วยแน่ๆ ฉันนึกโกรธเค้าจริงๆเวลานั้น แต่แค่เห็นสีหน้าสำนึกผิดของเค้ากับรอยยิ้มเจื่อนๆนั่น ฉันก็ยอมให้อภัยหมดใจ จากนั้นเราสองคนก็โผเข้ากอดกัน แต่คราวนี้ ความรู้สึกของฉันคือ แอนเป็นพี่ฉันจริงๆไม่มีอย่างอื่นเลย
ฉันทึ่งกับความเป็นแอนมากขึ้นก็คราวนี้ที่ได้เห็นเค้าต่อสู้อย่างที่มนุษย์ธรรมดาทำ เค้าไม่ยอมกลายร่างเป็นแวมไพร์ เพราะต้องการถนอมกำลังของตัวเอง และสิ่งที่เค้าใช้ต่อกรกับลูกสมุนของมนุษย์หมาป่าที่เราสองคนเจอก็คือ ปืนออโต้เมติก ชื่อ Desert Eagle กับกระสุนเงิน ฉันไม่คิดว่าแวมไพร์อย่างพวกเราจะจำเป็นต้องใช้ของผ่อนแรงขนาดนี้ แต่ก็เห็นดีกับเค้าอยู่เหมือนกัน ส่วนฉันที่ไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างดีเหมือนแอน แต่ไม่อยากจะน้อยหน้าเค้า ก็เลยต้องพยายามงัดเอาของดีของตัวเองขึ้นมาบ้าง ใช่..ฉันก็มีดีเหมือนกัน ไม่ใช่แต่จะไร้สาระไปวันๆเสียเมื่อไหร่ แต่ของดีของฉันก็คงหนีไม่พ้นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของฉัน นั่นก็คือ..เวทย์มนต์และดาบประจำตระกูลของท่านแม่ฉัน คาตะนะด้ามจับสีแดงเพลิง
เราสองคนพี่น้องสู้กับพวกลูกสมุนมากมายของสัตว์ร้ายหน้าขนพวกนั้นที่เหมือนไม่มีวันหมดสิ้น จนทั้งฉันและแอนเกือบหมดแรง ฉันสังเกตเห็นแอนอาการไม่ดีนัก หลังจากที่เราปะทะกับพวกมนุษย์หมาป่าจนแตกกระเจิงไปได้อีกระลอก แล้วตอนนี้พวกเราก็สามารถเข้าใกล้แหล่งกำดานของนายใหญ่ของมัน นั่นก็คือ เจ้าเรโตะ คู่ปรับเก่าของทั้งฉันและแอน ซึ่งเค้าต้องการไปจัดการมันด้วยมือของเค้าเอง แอนเป็นแบบนี้เสมอ เค้าชอบทำอะไรเองโดยไม่ใช้ลูกน้อง จนเค้าต้องเหนื่อยอยู่บ่อยๆแบบนี้ น่าตีจริงๆพี่ฉัน..
ฉันไม่อยากทนเห็นแอนอยู่ในสภาพนี้ หน้าของเค้าที่ขาวซีดมากอยู่แล้ว กำลังไม่มีสีเลือด นั่นมันทำให้ฉันเดาได้เลยว่า เค้าต้องการเลือด เลือดจะช่วยให้เค้าดีขึ้น แต่ฉันก็ไม่อยากจะเสี่ยงหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเค้า ถ้าจะทิ้งเค้าไว้คนเดียวที่นี่ แล้วออกไปหาเลือดมาให้เค้าใช้ เพราะลำพังเลือดในตัวฉันคงไม่พอสำหรับเค้าแน่ๆ และถ้าฉันปล่อยให้เค้าดูดเลือดฉัน ฉันก็คงจะช่วยอะไรเค้าไม่ได้อีกต่อไป ฉันจึงเลือกที่จะใช้สิ่งที่ฉันมีอยู่ในตัวอีกอย่างช่วยเราสองคน
ฉันใช้เวทย์มนต์ที่ฉันเรียนรู้มันมาไม่นานนั่น สร้างเกราะคุ้มภัยให้พวกเรา จากนั้นฉันก็ใช้คาถาเรียกสรรพสิ่งพาสิ่งที่แอนต้องการมาให้เค้า นั่นก็คือ..เลือด ใช่..ฉันเรียกเลือดมาจากห้องทดลองของฉันที่บ้าน มันเหลือเชื่อใช่หรือไม่ แต่ฉันก็ทำมันได้จริงๆ
แอนดูดีใจและรู้สึกผิดระหว่างที่รับขวดบรรจุเลือดไปจากมือฉัน เค้าบอกว่าฉันไม่น่าใช้พลังเวทย์มากนัก เค้ากลัวฉันจะเป็นอะไรไป แต่ฉันก็บอกให้เค้ามั่นใจว่า ฉันสบายดี ใช่..เพราะนอกจากฉันจะนำเลือดมาให้แอน ฉันก็เอาของฉันมาด้วยเหมือนกัน หลังจากที่พวกเราอิ่มหนำกับสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของแวมไพร์เรียบร้อย แอนขอนอนหนุนตักฉัน เค้าบอกว่าเหนื่อย ฉัน..ถึงแม้จะลังเลใจกับความชิดใกล้แบบนั้น ฉันก็ทนสายตาอ้อนวอนของเค้าไม่ได้เหมือนทุกครั้ง และใช่..ฉันยอม
แอนนอนหลับอย่างสงบโดยหนุนตักของฉัน หลังจากที่เค้าขอเวลาพักก่อนจะเดินทางไปในปราสาทหลังนั้น เพื่อจัดการเรื่องสำคัญให้เสร็จสิ้น ซึ่งฉันก็เห็นด้วยกับเค้า เราสองคนอยู่ในวงล้อมของวงเวทย์คุ้มภัยสีทองที่ฉันสร้างมันขึ้นมา ฉันนั่งพิงหลังกับต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆและก้มลงมองหน้าแอน เค้าเหมือนเด็กจริงๆเวลานอนหลับแบบนี้ มือของฉันเลยขยับลูบเบาๆที่ศีรษะของเค้า หวังให้เค้าหลับให้นานๆตามความต้องการของร่างกาย เค้าเหนื่อยมามากแล้ว ฉันก้มลงจูบหน้าผากเค้าเบาๆเพราะอดใจไม่ได้กับความน่ารักที่ฉันมักไม่ค่อยเห็นแบบนี้ และฉันก็มั่นใจได้ว่า ไม่มีทางที่ใครจะได้เห็นเวลาแอนเป็นแบบนี้นอกจากฉัน น่าดีใจมั้ยนะ จากนั้นฉันก็หลับตาลงบ้างตามอย่างเค้า เราสองคนในเวลานี้เหมือนเป็นแค่พี่กับน้องกัน และฉันก็หวังว่ามันจะเป็นได้อย่างนั้น ในเวลาที่เราตื่นขึ้นมา
แม้ว่า..ฉันจะยังรักพี่เหมือนเดิม..
แต่ฉันจะพยายามทำเพื่อเราสองคน.. ถ้ามันเป็นความต้องการของพี่..ฉันจะทำ..
To be continue…
2 ความคิดเห็น:
หลังจากสู้ศึกมาตลอดทั้งคืนและตอนเช้ามืด ร่างกายที่ฟาดฟันกันมาก็เริ่มรู้สึกถึงความล้าของเซ็กซ์อันเร่าร้อนนั่นสินะ.. นี่แหละมันส์มากไปหน่อย ก็ต้องเจ็บเยอะแบบนี้แหละ.. แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาก็คงแหลกคามือแอนไปแล้วอ่ะนะ แถมยังอะไรๆที่โผล่ออกมาก็น่าจะมีความพิเศษกว่ามนุษย์(ผู้ชาย)ธรรมดาอยู่แล้ว เพราะแอนเป็นแวมไพร์บวกกับจอมมารนี่นา.. โฮ๊ะๆๆๆ.. แต่ชิซุรุเค้าชอบของแรงนี่นา บ่ยั้น "สี(มาเถอะ)ทนได้.. ฮ่าๆๆๆๆ..
โอ่.. แต่การพบพาก็ต้องมีการลาจาก มีเริ่มต้นก็ต้องมีจุดจบนะจ๊ะชิจังจ๋า.. เพราะความสัมพันธ์แบบนี้ไม่มีใครเค้ายอมรับได้หรอก เกิดมาจากท้องแม่เดียวกัน แล้วเวลาก็ไม่ต่างกันมากแบบนี้ พวกเธอเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ข้อนี้อย่าลืมนะ.. ความรู้สึกรักน่ะ มีได้ แต่ต้องห้ามการกระทำของตัวเองไว้หน่อย.. ถึงจะรักกัน แต่ต่างคนก็ต่างมีอะไรที่ต้องรับผิดชอบ ชิจังเองก็มีนัทสึกินะ คนนั้นน่ะแฟนตัวจริง.. เข้าใจว่าถ้าจะตัดใจจากคนที่รักมากมันจะเจ็บปวด แต่สู้ตัดใจซะตอนนี้ดีกว่า นานไปมันจะเจ็บกว่านี้หลายร้อย(ล้าน)เท่านะ.. ชิจังสู้ๆ..
ว่าแต่.. ไม่ได้จากคนนึงก็ไปหาอีกคนนึงนะยะหล่อน เมื่อกี้ฉันล่ะสงสารเธอ แต่ตอนนี้ฉันชักอยากจะจับเธอมาถอดกางเกงแล้วกระหน่ำฟาดก้นอย่างไม่ยั้งมือเลยทีเดียว.. ฮ่าๆๆๆ.. จะให้รอยฝ่ามือไปติดอยู่บนก้นงามๆสักอาทิตย์ แวมไพร์ก็แวมไพร์เถอะ.. ขอตีหน่อยซิ!!.. จริงๆแล้วชิจังก็รู้ใช่มั้ยว่าอลิสซ่าคิดยังไงกับตัวเองน่ะ แล้วไปเล่นแบบนั้นกับเค้า แถมขอนอนกับเค้าอีก กามอารมณ์ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆเลย.. แต่ยังดีที่อลิสซ่าเค้ายังหักห้ามตัวเองได้ (ถึงแม้จะเผลอไปหน่อยนึงแล้วก็เถอะ) ไม่ยอมทำตามชิจังน่ะ ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่ (แล้วมันก็เรื่องใหญ่จริงอ่ะนะ =[]=") ตอนที่ชิจังมาที่นี่ก็แค่มาพักใจไม่ใช่เหรอ ก็จงพักซะ เพราะเรื่องราวที่ยุ่งวุ่นวายกว่านี้มันก็ใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว.. เหอๆๆๆ
อร๊า.. แอนจ๋า.. เท่อีกเหมือนเดิม ชักปืนมายิงได้สง่างามมาก.. โฮกกกกกกก.. แอนจังเลิฟๆ.. อิอิ..
อย่างน้อยตอนนี้ชิจังเองก็ได้ทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างล่ะ การได้ทำงานมันก็ช่วยให้ลืมเรื่องอย่างนั้นได้เหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นเวลาฟุ้งซ่านก็หาเรื่อง.. เอ้ย!!.. หางานทำซะ.. ฮ่าๆๆๆ.. อ่า.. มองดูแอนนอนหนุนตักชิจังคราวนี้มันสบายใจยังไงบอกไม่ถูก เพราะบรรยากาศรอบตัวมันไม่เครียดล่ะมั้ง ตอนนี้ก็เป็นแค่สองพี่น้องที่รักกันฉันท์พี่น้อง ถึงแม้จะมีใครบางคนไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น แต่สิ่งที่เป็นอยู่ก็คือสถานะของพวกเธอสองคนที่ถูกระบุเอาไว้แล้วมาตั้งแต่เกิด.. พี่น้องฝาแฝด..
ขอบคุณมากค่ะไรเตอร์ เศร้านะเนี่ยตอนนี้อ่ะ อ่านไปซึมไป แต่ไหงเม้นท์ข้าพเจ้ามันออกมาแบบนี้ล่ะเนี่ย.. ฮ่าๆๆๆ.. แต่ข้าพเจ้าชอบมันจากใจจริงนะคะ บอกตามตรงเลยว่าเรื่องหลักมันทำให้ข้าพเจ้าติดแล้ว เรื่อง sister side story นี่ก็ทำให้ข้าพเจ้าติดไม่แพ้กัน.. แล้วมาอีกนะคะ.. รอเสมอค่า ^^
Lookgolf’s comment…
โอ่..ชิจาง ชิจาง ชิจาง
สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างชิจังและแอนจังพี่สาวแท้ ๆ ของตัวเองนั้น ช่างรุนแรงเพราะอัดแน่นไปด้วยอารมณ์เสน่หาและความอัดอั้นเก็บกดต่อความรู้สึกที่ต่างมีให้กัน ผสมผสานกับความชื่นชอบในเรื่องเช่นนี้ใช่มั้ย ถึงได้ทำให้ตัวเองเจ็บตัวกันจากกิจกรรมนี้ได้มากมายเช่นนี้ เหอๆๆ
แต่ก็เห็นด้วยกับชิจัง ที่ว่าหากคิดจะตัดใจจากคนที่รักแล้ว ควรที่จะรักษาระยะห่างระหว่างกันไว้และพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ด้วยกันเพียงลำพังให้มากที่สุด เพราะยิ่งอยู่ใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ การที่คิดจะตัดใจยิ่งยากขึ้นเท่านั้น...เห็นใจและเสียใจต่อความรักของทั้งสองที่ไม่อาจสุขสมหวังและได้ครองคู่กันตามใจปรารถนา จากใจจริง...อย่างไรก็ดี เมื่อคิดที่จะตีกรอบความสัมพันธ์เป็นแค่พี่และน้องเท่านั้นแล้ว การหุนหันออกมาในทันที แม้จะเจ็บปวด แต่ก็เชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น เพื่อป้องกันการใจอ่อนและไม่อาจหักห้ามใจตัวเองได้..ที่สำคัญเชื่อว่า คนมีความคิดอ่านและใช้เหตุผลเป็นที่ตั้งอย่างแอนจังนั้น เข้าใจถึงความจำเป็นในการกระทำนั้นของชิจังอย่างแน่นอน..
อืม และเพราะสายใยของพี่น้องคู่นี้อ่ะน้า..เลยทำให้สามารถหากันจนเจอ และช่วงเหลือกันและกันได้อย่างทันท่วงที..แถมในครั้งนี้ดูท่าจะเริ่มวางแนวทางร่วมกันในฐานะพี่น้องได้ดีกว่าเก่าเยอะเลยด้วย ดีแล้วล่ะน้า ค่อย ๆ แก้กันไป อิอิ..เพราะอย่างน้อยก็ยังมีกันและกัน
ง่ะ แต่ไหงว่าจะเลิกสิ่งที่ไม่ควรต่างๆ เพื่อหันมาทำในสิ่งที่ถูกที่ควร..แล้วทำไมชิจังถึงได้ลงเอยมาทำเช่นนั้นกับอลิสซ่าจังล่ะนั่น เหอๆๆ...จะเป็นการซ้ำรอบเหมือนเรื่องของตัวเองและแอนจังมากกว่านะ ยิ่งกับกรณีของอลิสซ่าจัง ตัวชิจังเองก็ไม่ได้รู้สึกไปในทางเช่นนั้นกับน้องตัวเองแม้แต่น้อย การกระทำดังกล่าวจึงเป็นไปด้วยพื้นฐานของอารมณ์เป็นที่ตั้งอย่างไม่หน้าให้อภัย เหอๆๆ..ส่วนที่เศร้าเสียใจจนไประบายความอัดอั้นฝห้อลิสซ่าจังฟังก็ดี การที่ไปหาอลิสซ่าจังผู้เป็นน้องเพื่อปลอบประโลมก็ดี เหล่านี้พอเข้าใจได้อยู่ เพราะเมื่อเราอ่อนแอ ก็ต้องหาคนมาเคียงข้างเพื่อให้กำลังใจและเป็นเพื่อนผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายอ่ะน้า..แต่การที่จะไปมีอะไรกับน้องของตนเองอีก นี่คงไม่ใช่แล้วล่ะ..ยังดีที่คราวนี้อลิสซ่าจังสามารถหักห้ามใจตัวเอง และสามารถหยุดหรือสะกดกลั้นชิจังได้ ไม่เช่นนั้น ได้มีปัญหาเพิ่มมากกว่าจะแก้ไขปัญหาได้แน่นอน เหอๆๆ
ตอนนี้ได้เห็นมุมมองของชิจังแล้ว ขอยอมรับเลยว่า ช่างเป็นความคิดที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งจริง ๆ ..เช่น การที่อยากได้ทั้งแอนจัง และก็ยังอยากมีนัทจัง.. แต่ก็ขอยอมรับอีกเช่นกันว่า เนี่ยล่ะ คือธรรมชาติของมนุษย์..ที่ล้วนแต่ต้องการความรัก และเมื่อใดมีรักมากมาย ย่อมอยากได้ไม่มีที่สิ้นสุด..และก็ไม่ยอมจะปล่อยให้รักนั้นจากไป ไม่ว่าเวลาที่รักนั้นอยู่ จะได้ดูแล รักษาหรือซื่อสัตย์กับมันหรือไม่ แค่ไหนก็ตาม..สิ่งที่ชิจังทำไปนั้น จึงสะท้อนความมีชีวิตจิตใจตามธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ได้อย่างดีเหลือเกิน เหอๆๆ
ขอบคุณนะคะ ไรท์เตอร์ หมั่นไส้เจ้าน้องคนกลางนี้จริง ๆ เลยล่ะ ฮ่าๆๆๆ...เขียนและถ่ายทอดได้ดีมากมายเลยนะคะ ไรท์เตอร์..แถมแสดงความเป็นตัวตนที่แท้จริงอันดำมืดในมุมมองของคนทั่ว ๆ ไป เกี่ยวกับความรักได้อย่างชัดเจนและโต้แย้งไม่ขึ้นจริง ๆ ..แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นเช่นนี้ก็ตาม..อิอิ
แสดงความคิดเห็น