Story Shot [The bodyguard]
My Goddess. Ch2.
Rate : M
By : Anhy
Pairing : Anh/Shizuma X Shizuru
การเรียนของฉันที่นี่ดูหนักขึ้นทุกที เพราะมันมีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา ตามประสานักเรียนเตรียมทหารที่ต้องฝึกหนักตามปกติแบบนี้ แต่ฉันก็ไม่กลัวมันหรอกนะ ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง จะต้องเรียนหนักอีกแค่ไหนก็ตาม เพราะว่าฉันมีครูพิเศษคอยติวให้ แถมกำลังใจดีมากแบบนี้ด้วย เพราะเค้าอยู่ข้างๆฉัน ใช่..สุดที่รักของฉัน ไม่ได้หนีฉันไปไหนอีกแล้ว ฉันดีใจมากที่สุดเลย
แอนดูเหมือนเข้าใจในตัวฉันมากขึ้น ว่าฉันจำเป็นต้องต้อนรับแฟนคลับเป็นประจำ ดูได้จากในเวลาที่เราเดินไปด้วยกันสองคน และมีคนวิ่งเข้ามาหามารุมล้อมฉัน แอนก็ไม่ได้ทำท่ากีดกันพวกเค้าหรือโวยวายอะไร เพราะเค้ารู้ถึงมารยาทที่ฉันมี รู้ว่าฉันจำเป็น เค้าไม่ได้เดินหนีฉันไปเหมือนครั้งก่อนๆอีกแล้วเหมือนกัน แอนแค่ไปยืนคอยฉันอยู่ไกลๆและพยายามทำให้ฉันรู้ว่า เค้าไม่ได้ทิ้งฉัน เค้าดูเหมือนจะมั่นใจว่า เค้าก็มีความสำคัญให้ฉันมองหาตลอดเวลาที่ต้องคอยรับหน้าคนอื่นแบบนั้น และถึงเค้าจะทำเหมือนไม่ค่อยพอใจที่ถูกรบกวนเวลาส่วนตัวแบบนี้ก็ตาม เค้าก็พยายามยิ้มให้ฉัน เวลาที่ฉันหันไปหา ไปสบตากัน ตาสีเขียวสวยของเค้า มันช่างให้ความรู้สึกอบอุ่นได้เสมอ
ขอบคุณพระเจ้าจริงๆที่ส่งเค้ามาให้ฉัน ถึงตอนนี้ระหว่างเราจะเหมือนเป็นแค่เพื่อน หรือพี่น้องกันอยู่ก็ตาม แต่ฉันก็จะพยายามรักษาความสัมพันธ์แบบนี้ของเราให้นานเท่านาน
แอนหัวเราะบ่อยขึ้นแล้วตอนนี้เวลาที่นั่งฟังฉันเล่าเรื่องตลก เค้าไม่ใช่คนเงียบมากอย่างเคย และก็กลายเป็นเค้าแล้วที่ชอบแกล้งฉันแทนที่จะถูกแกล้งเสมอๆแบบเมื่อก่อน เค้าคงจะแก้แค้นฉันที่แกล้งเค้ามานาน ตั้งแต่เริ่มรู้จักกันแน่ๆ ฉันเพิ่งรู้ว่าแอนเป็นคนขี้เล่นแบบนี้ ก็ตอนที่เราสนิทกันมากขึ้น ฉันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเค้า และเค้าก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตฉันเหมือนกัน จนฉันสามารถแน่ใจได้ว่า..เราเป็นมากกว่าพี่น้องรหัสกัน เพราะแทบไม่มีวันไหนเลยที่เราห่างกันไป ถึงจะไม่ได้นอนห้องเดียวกันและพักกันคนละตึกของหอนอน เพราะรุ่นพี่ต้องอยู่คนละตึกกับรุ่นน้องตามระเบียบและกฎของโรงเรียน แต่ตอนเช้าของทุกวัน ฉันจะต้องเห็นหน้าสวยๆกับหุ่นสูงๆเท่ๆในชุดนักเรียนเตรียมของเขามายืนรอฉันอยู่ด้านล่างของตึกนอนของฉัน
ใช่..เค้ามารอฉันเพื่อจะเดินเข้าโรงเรียนด้วยกัน และส่งฉันเข้าห้องเรียน แต่ก่อนหน้านั้น เค้ากับฉันต้องทานอาหารเช้ามื้อเล็กๆด้วยกันในที่ของเรา ที่แห่งความลับของเค้ากับฉันแค่สองคน ตอนกลางวันก็คล้ายกัน พี่รหัสสุดเท่ของฉันก็จะมายืนกอดอกหน้านิ่งๆอยู่แถวๆหน้าประตูห้องเรียน ห้องที่ฉันเรียนก่อนเที่ยง ถึงห้องเรียนจะต้องเปลี่ยนไปตามวิชา แต่ก็น่าประหลาดที่แอนมาหาฉันได้ถูกห้องทุกที ฉันแอบคิดไปว่า เค้าต้องมีตารางเรียนฉันแน่ๆ เค้าถึงมาได้ถูกที่แบบนี้ทุกทีไป แต่ยังไงก็ช่าง ฉันดีใจมากกับเรื่องนี้ที่เค้าทำกับฉัน และเพราะเค้าเป็นแบบนี้ แฟนคลับของฉันจึงค่อยๆเริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไป ไม่ว่าสาวๆหรือหนุ่มๆที่ชอบมารุมล้อมฉัน เริ่มรู้ตัวของพวกเค้า เวลาที่เห็นแอนมา ไม่ว่าพวกนั้นจะหนาแน่นรายล้อมฉันมากเพียงใด พวกเค้าก็จะค่อยๆสลายตัวไป จนเหลือแค่เพียงฉันกับเค้าแค่สองคน น่าแปลกจริงๆ
ฉันเคยถามความเห็นเค้าเหมือนกันกับเรื่องนี้ เรื่องปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของบรรดาแฟนคลับของฉัน แอนก็ตอบแค่ว่า “ไม่รู้สิ” แล้วก็ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ เดินนำหน้าฉันไป แต่ฉันก็แอบเห็นเค้ายิ้มแปลกๆเหมือนกัน ฉันเลยคิดว่า เพราะแอนแผ่รังสีอะไรบางอย่างให้แฟนคลับของฉันแน่ๆ พวกเค้าถึงได้ดูเหงื่อแตกพลั่กกันทุกคน ก่อนจะค่อยๆพากันบอกลาฉันไป หรือไม่ พวกนั้นก็รู้แล้วว่า แอนกับฉันสำคัญต่อกัน และอาจจะเป็นมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกันธรรมดา ก็จะไม่ให้พวกเค้าคิดแบบนั้นได้ยังไงล่ะ ก็แอนมาหาฉันทุกวันแบบนี้นี่ ฉันเองก็ยังคิดเลยว่า แอนทำแบบนี้ทำไม เค้ามีเหตุผลอะไรกับการกระทำซ้ำๆที่ทำอยู่กับฉัน มันเริ่มจากหน้าที่ที่ต้องทำ จนกลายมาเป็นความเคยชินที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำมันรึเปล่า หรือมากกว่านั้น หรือแอนจะชอบที่จะอยู่ใกล้ฉัน เหมือนที่ฉันชอบอยู่ใกล้เค้ามากที่สุดกันแน่
แต่ว่า..เราจะเหมือนกันเรื่องอื่นอีกมั้ย.. ในเรื่องที่..ฉันรักเค้ามากแบบนี้..
บ่อยครั้งที่ฉันยิ้มได้อย่างน่าประหลาด แค่เพราะนึกถึงการกระทำเล็กๆน้อยๆที่เค้าทำให้ฉัน อย่างเช่นการใช้เสื้อยูนิฟอร์มของเค้าแทนร่มกันฝนให้ฉันตอนนั้น มารอฉันไปโรงเรียนด้วยกันทุกวัน ทานข้าวพร้อมกันทุกมื้อ หรือเค้าติวหนังสือให้ แบบนี้แล้ว.. ฉันจะแน่ใจได้แล้วใช่รึเปล่าว่า..ฉันรักเค้ามาก เพราะมากกว่าที่ฉันรู้สึกประทับใจในทุกการกระทำของเค้า ฉันยังสามารถเห็นเค้าน่ารักได้ตลอดเวลา กระทั่งเวลาทำหน้าบึ้งๆ อย่างเช่นตอนที่เค้ามีอารมณ์ขี้รำคาญขึ้นมา เพราะบรรดาแฟนคลับบางคนที่ไม่รู้ฐานะตัวเอง มาเล่นกับฉันทั้งๆที่เค้ายืนอยู่ หรือว่า..ฉันจะแค่หลงเค้ากันนะ หลงรูปร่างหน้าตา ที่สวยบาดตาและเท่บาดใจแบบนี้ หรือเพราะนิสัยเค้าดีมากจนฉันไม่อยากเสียไปให้ใคร
ฉันไม่แน่ใจว่า เด็กสาวอายุเพียงสิบห้าอย่างที่ฉันเป็น จะรู้สึกถึงความรักที่แท้จริงได้หรือไม่ มันจะเป็นแค่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเพราะความใกล้ชิดรึเปล่า ที่ทำให้ฉันคิดว่า ฉันไม่อยากจะห่างจากเค้า แต่ถ้าเป็นแบบนั้น คำตอบของความสงสัยของฉัน กับความรู้สึกในวันแรกที่ฉันเห็นเค้า มันจะคืออะไร ที่หัวใจเต้นแรง แค่ได้เห็นหน้าเค้า แข้งขาสั่น แค่คิดจะเดินผ่านหน้า ทั้งที่ฉันไม่เคยเป็นมันมาก่อนกับใคร หากอาการแบบที่ฉันเป็นกับเค้า ไม่ได้เรียกว่า “รักแรกพบ” จะเรียกว่าอะไรได้นะ ช่างมันแล้วกัน ฉันไม่อยากคิดให้ปวดหัวอีกแล้ว แค่รู้ว่า..วันนี้ฉันมีแอนอยู่ข้างๆ ฉันรู้สึกดี ฉันไม่เหงาอีกต่อไป
แต่แอนล่ะ.. แอนกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ.. อยากรู้จัง..
ฉันรู้..แอนไม่ชอบคนมากๆ เค้าชอบอยู่คนเดียวหรือไม่ก็แค่เรา แค่ฉันกับเค้า เค้าเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงมาก จึงยากที่ใครจะรู้จักตัวจริงของเค้า ถ้าไม่สนิทกันจริงๆ ก็คงจะไม่รู้ว่า คนขรึมอย่างเค้าจะขี้เล่นได้เหมือนกัน แอนก็คงเหมือนกับฉัน ที่มักจะมีโลกส่วนตัวสำหรับตัวเอง แต่ฉันกับเค้าแค่แสดงออกในแบบที่ต่างกัน แอนจะมักพยายามสร้างกำแพงกั้นไม่ให้ใครเข้าถึงตัวได้ แต่ฉันกลับปั้นหน้าและใส่หน้ากากเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นแทน นั่นเพราะเราสองคนนิสัยต่างกัน แล้วนี่รึเปล่านะ ที่ทำให้ฉันชอบเค้า..
แล้วฉันก็ได้รู้อีกว่า.. ภายใต้บุคลิกเงียบขรึมและเย็นชาของแอน เค้าน่ารักยังไงอีก ก็ตอนนั้น..ที่เค้าเรียนหนักทั้งในห้องเรียนและฝึกภาคสนามตามประสานักเรียนเตรียมทหารปีสาม แอนดูเหนื่อยจนหน้าขาวๆของเค้าซีดมาก เค้าก็ยังอุตส่าห์เดินตามมาหาฉัน มารับฉันไปทำการบ้านด้วยกัน เค้าพยายามทำหน้าที่ของพี่รหัสอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องในการดูแลน้อง หรือไม่ ฉันก็เป็นน้องรหัสที่โชคดีที่สุดในโรงเรียนที่มีพี่แบบเค้า หรือเค้าจะทำเกินหน้าที่ที่ต้องทำนั้นไป แต่ฉันก็ดีใจมากที่เค้าเป็นแบบนี้ ทว่า..ตอนนี้พี่รหัสที่พยายามช่วยฉันดูการบ้าน หลับไปเสียแล้ว ความที่เค้าเหนื่อยมากแบบนั้น ทำให้เค้าเผลอหลับ ฉันกำลังนั่งพิงหลังกับโคนต้นไม้ในสวนหย่อมที่ประจำของเรา ดูหนังสืออยู่ แล้วก็รู้สึกได้ว่า คนที่อยู่ด้วยตรงนั้น เงียบเสียงไปกะทันหัน แต่กลับรู้สึกว่ามีน้ำหนักของอะไรบางอย่างมาวางบนบ่าของฉันข้างที่ติดกับเค้า ฉันชำเลืองตามองก็ต้องยิ้มออกมา เพราะมันเป็นไปตามคาด อะไรที่วางบนบ่าข้างนั้นของฉัน ก็คือ..ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีเงิน แอนนั่นเอง..
หน้าสวยๆที่เคยมองแล้วดูดุหรือสวยเท่ ในเวลาหลับแบบนี้ เค้าดูไร้เดียงสาเหมือนเด็กสาวทั่วไป ฉันเห็นมันได้ถนัดขึ้น เมื่อฉันพาให้เค้านอนโดยอาสาพลีตักให้เป็นหมอนให้เค้าหนุน คงจะพออุ่นและสบายขึ้นได้สำหรับเค้าที่ต้องการการพักผ่อนแบบนี้ อย่างน้อยก็ดีกว่านอนหนุนแขนตัวเค้าเองบนผืนหญ้าที่เราสองคนนั่ง
ฉันยอมรับว่า ตัวเองไม่มีแก่ใจคิดอยากจะอ่านหนังสือเลยสักนิด เพราะคิดแต่อยากจะมองหน้าเค้าเท่านั้น ความคิดไม่ดีเกิดขึ้นในสมองของฉันอย่างต่อเนื่อง จนฉันนึกโกรธตัวเอง แต่ฉันก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ ไม่ให้ไล้ปลายนิ้วไปเบาๆบนแก้มขาวใสนั่นของคนที่หนุนตักฉัน ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆของเค้า มันช่างเชื้อเชิญ ฉันอยากสัมผัสมัน อยากรับรู้รสชาติของปากสวยๆของแอน แต่ฉันจะทำยังไงดี.. ฉันไม่กล้าพอ กลัวว่า ถ้าเค้าตื่นขึ้นมา ฉันจะไม่กล้ามองหน้าเค้า ฉันกลัวเค้าโกรธ
แต่ฉันก็ต้องโทษเค้าแล้วล่ะ ที่เสียงครางเหมือนเด็กขี้เซาของเค้าในเวลาที่เค้าขยับตัวน้อยๆเพราะเหมือนจะรู้สึกว่า ถูกสัมผัสเบาๆนั่น มันมาปลุกอะไรบางอย่างในตัวฉันขึ้นมา
ในที่สุด ฉันก็ไม่อาจจะห้ามการกระทำตามหัวใจของฉันได้อีกต่อไป แล้วฉันก็ได้รู้แล้วว่า รสชาติของริมฝีปากสวยๆของแอนเป็นยังไง แม้ในตอนที่เค้าหลับแบบนี้ก็ตาม
ฉันพยายามทำสิ่งนี้ให้เบาที่สุด เพื่อไม่ให้เค้ารู้สึกตัวตื่น แต่ฉันก็ฝืนอารมณ์โหยหาของตัวเองไม่ได้ กระทั่งปล่อยให้ริมฝีปากตัวเองอยู่กับเค้านานกว่าที่คิดไว้ ฉันนึกเสียดายมันขึ้นมา หากเค้าตื่นขึ้น และเรากลับมาเป็นแค่พี่น้องกันเหมือนเดิม แต่พอฉันรู้สึกว่า เค้าเริ่มส่งเสียงแปลกๆออกมาจากลำคอและเริ่มจูบตอบฉัน ฉันก็ต้องผลักตัวเองออกมา แม้จะไม่อยากทำ ฉันคว้าหนังสือที่วางอยู่ใกล้ๆมาอ่านตามเดิม และรู้สึกว่าเค้าเริ่มขยับตัวขึ้นจากตักของฉัน
ใช่แล้วล่ะ..แอนตื่นแล้ว ตื่นเพราะถูกฉันปลุก ปลุกด้วยจูบ เหมือนเจ้าชาย จูบสโนว์ไวท์ “The Sleeping beauty”ของฉัน แต่ฉันเหรอที่จะสามารถเป็นเจ้าชาย ในเมื่อแอนดูเหมือนเจ้าชายมากกว่า ถ้าไม่นับว่า..เค้าสวยมากแบบนี้ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่ฉันคิดหาคำตอบให้กับปัญหางี่เง่าของตัวเอง ฉันต้องหาคำตอบมาตอบแอนให้ได้ก่อนตอนนี้ว่า ฉันจูบเค้าทำไม
แต่..แอนไม่ได้ถามถึงมันเลยนี่.. เค้าแค่ขยี้ตาเพื่อสะลัดความงัวเงีย และยิ้มอายๆ พร้อมสองแก้มแดงระเรื่อน่ารักให้ฉันเท่านั้น ฉันเดาเอาเองว่า เค้าคงอายที่ปล่อยให้ฉันเห็นเค้าหลับแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้น..ฉันก็ยังประหลาดใจกับการแสดงออกของเค้า หลังจากที่ถูกฉันลักขโมยจูบไป ฉันสงสัยว่า.. แอนไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ หรือเค้าคิดว่า เค้าแค่ฝัน แล้วทำไมในฝันเค้าครางออกมาแบบนั้นด้วยล่ะ เค้าคิดว่า เค้ากำลังฝันอะไร แต่จะมาคิดไป มันก็ดีแล้วนี่นา ที่เค้าไม่ถามถึงมัน เพราะแค่นี้ฉันก็รู้สึกได้ว่า ตัวเองหน้าแดงมากแล้ว มันต้องแดงแน่ๆ ถึงฉันจะมองไม่เห็น ฉันก็เดาได้ เพราะฉันรู้สึกได้ถึงความร้อนที่สองแก้มตัวเอง และความแดงของมัน ก็คงจะแดงจนสามารถทำให้ฉันได้เห็นสายตาเป็นห่วงจากเค้า และการที่มืออุ่นๆใหญ่ๆสวยๆนั่น สัมผัสที่หน้าผาก ฉันอยากให้มือสวยๆนี้ ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของฉัน ทั่วตัวเลยก็ได้ มากกว่าแค่หน้าผากแบบนี้ เหมือนกันกับที่ฉันต้องการสัมผัสตัวอุ่นๆของเค้า..ทั้งตัว แต่ฉันจะทำยังไงดีที่จะได้โอกาสแบบนั้น ในเมื่อเราเป็นแค่..พี่น้องกัน
ฉันจะทำยังไง.. ให้ได้เป็นมากกว่านี้สำหรับพี่.. ฉันรู้ตัวดีนะแอน.. ฉันเริ่มจะทนกับมันไม่ไหวแล้ว อีกไม่นาน.. ฉันจะคลั่งตาย.. ใครก็ได้.. ช่วยฉันหน่อยได้มั้ย.. หรือฉันจะต้องบอกเค้าเองว่า..ฉันรักเค้าแบบอื่นที่ไม่ใช่แค่พี่กับน้อง
แต่ฉันก็กลัว.. กลัวการถูกปฏิเสธ.. กลัวว่า..ความสัมพันธ์ยาวนานของเราจะต้องพังทลายลงไป เพราะตัวฉันเอง.. ถ้าเช่นนั้น..ฉันจะขอใช้เวลาแบบนี้ แค่เท่านี้ของเราสองคน รักษามันเอาไว้ให้นานที่สุดก็แล้วกัน...
แต่ก็เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างฉันอีกครั้ง เมื่อตอนหลังๆนี้ แอนเริ่มชวนฉันไปเที่ยวนอกรั้วโรงเรียน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่คนอื่นๆจะพากันกลับบ้านของเค้า แต่ฉันต้องอยู่หอตามลำพัง เพราะไม่มีบ้านให้กลับที่ประเทศนี้ แต่แอนก็จะไม่ได้กลับบ้านของเค้าด้วยเหมือนกัน ซึ่งมันก็อาจจะถือว่าเป็นเรื่องปกติของเค้าอยู่แล้ว เพราะบ้านแอนก็ไม่ค่อยมีคนอยู่ คุณพ่อของเค้าที่เป็นถึงท่านนายพล ไม่ค่อยอยู่กับบ้านเท่าไหร่ ท่านต้องไปราชการบ่อยครั้ง และแน่นอนที่คุณแม่ของแอนก็ต้องตามไปช่วยดูแล แอนก็เลยไม่มีเหตุผลที่จะกลับบ้านในวันหยุดแบบนี้ แล้วนี่ก็ทำให้หอนอน ทั้งสองตึกมีแค่นักเรียนไม่กี่คนเหลืออยู่ อาจารย์ประจำตึกทั้งสองก็เลยไม่ค่อยเคร่งครัดมากนัก หากนักเรียนทั้งสองรุ่นจะไปมาหาสู่กันได้ นับเป็นเรื่องดีของฉันจริงๆ เพราะฉันอาจจะได้ไปอาศัยนอนห้องเค้าในวันแบบนี้สักคืน
Ara..ฉันคิดอะไรอยู่นะ เป็นเด็กไม่ดีเอาเสียเลย.. แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่.. ก็ฉันรักเค้านี่นา..
และก็เพราะว่า.. การชวนเที่ยวนอกโรงเรียนของแอนในวันหยุด ด้วยข้ออ้างว่าแค่พาฉันไปเปิดหูเปิดตาดูประเทศบ้านเกิดของเค้า ก็ทำให้เราสองคนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม และทำให้ฉันรู้ว่า..
แอนก็หวงฉันเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ห่วง เพราะนอกโรงเรียนที่เราไปเที่ยวกัน มักจะเป็นสวนสาธารณะใกล้ๆ หรือไม่ก็ผับแอนด์เรสเทอรอง ซึ่งในที่เหล่านั้น ก็มีคนมากหน้าหลายตา แปลกหน้ามากกว่าในโรงเรียน และนั่นก็ทำให้มีทั้งผู้หญิง ผู้ชายมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆฉัน ฉันไม่ได้นึกภูมิใจอะไรในความเนื้อหอมไม่เลือกที่ของตัวเอง แต่มันก็มีประโยชน์อยู่บ้าง ที่มันช่วยทำให้ฉันได้พิสูจน์อะไรบางอย่างกับตัวของแอน เค้ามักจะหน้าบึ้งและดูอารมณ์เสียทุกครั้งที่มีคนประเภทนี้มาใกล้ฉัน และหลายครั้งที่เค้าดึงฉันออกจากสถานที่นั้นๆ อย่างไม่บอกกล่าวล่วงหน้า เค้าให้เหตุผลว่า คนแปลกหน้าพวกนี้อันตรายกว่า คนในโรงเรียนเดียวกันกับเรา ฉันก็ทำเหมือนเชื่อเค้าและตามใจ ยอมให้เค้าพากลับโรงเรียน กลับหอนอน
แต่ฉันก็ต้องการอะไรที่จะพิสูจน์ความรู้สึกของเค้าให้มากกว่านี้.. และในที่สุด..ฉันก็ทำมัน.. ฉันยอมทำตัวเป็นผู้หญิงไม่ดี เป็นเด็กไม่ดี เพื่อเค้า.. เค้าคนเดียว...
ฉันมีโอกาสได้เข้ามานอนร่วมห้องกับแอนจนได้ ในคืนหนึ่งของวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะว่า..ฉันเมา..
ใช่..ฉันดื่มทั้งที่ดื่มไม่เป็น เพราะฉันแค่อยากเห็นว่าแอนจะมีปฏิกิริยายังไงบ้างกับฉันที่เป็นแบบนั้น แต่การดื่มครั้งแรกของฉัน ก็ให้ผลมากกว่าที่ฉันคาดไว้ ฉันทำอะไรที่เกินกว่าที่ตัวเองคิด ฉันทำตัวสะเปะสะปะไปกับคนในผับทั่วไปหมด ไม่ว่าจะเป็นใคร.. แต่ยังดีที่ฉันมักจะเข้าหาผู้หญิงมากกว่า แต่ก็นะ มันก็ไม่ใช่เรื่องดีไปทั้งหมดหรอก เมื่อแฟนของสาวคนนั้นหึงขึ้นมา มันก็น่าอยู่หรอก เพราะฉันกำลังจะจูบกับสาวคนนั้นแล้ว ความเมาพาให้ฉันทำอะไรที่ไม่ควร แต่ก่อนที่ฉันจะถูกตะบันหน้าด้วยหมัด หรือถูกฉุดไปทำอะไรๆด้วยมือของแฟนหนุ่มของสาวคนนั้นที่บังเอิญมาหลงฉันที่เมามากๆนั่น ตอนนั้นเองที่แอนซึ่งหน้าตาโมโหสุดขีด เข้ามายืนขวางหน้าผู้ชายคนนั้น และถึงฉันจะเมา ฉันก็ยังมีสติมากพอที่มองเห็นว่า แอนตัวสูงมากกว่าผู้ชายคนนั้นเสียอีก แอนไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ต่อยหน้าเจ้านั่นอย่างแรง จนล้มหงายท้องไปทับบรรดาลูกน้องของมัน และคว้าข้อมือฉันพาวิ่งออกจากผับ ทำให้ฉันปลอดภัยมาได้ แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เมื่อเหล้าทำพิษให้ขาฉันไม่มีแรงเดินไปถึงโรงเรียน
แอนจึงต้องเปลี่ยนจากการจูงมือฉันวิ่งหนีพวกมัน เป็นพาฉันขึ้นขี่หลังและวิ่งกลับโรงเรียน และนั่นก็เป็นเหตุให้ฉันได้มานอนอยู่บนเตียงของเค้าคืนนั้น..
แอนให้ฉันนอนบนเตียงคนเดียว ส่วนเค้านอนที่โซฟา ฉันไม่รู้ว่าทำไม ทำไมเค้าไม่นอนกับฉัน ทั้งที่เตียงเค้ามันใหญ่มากพอสำหรับเราสองคน หรือเค้าจะมีเหตุผลอื่นที่ไม่อยากนอนข้างฉัน แต่มันอะไรกันนะ
ฉันไม่อยากนอน ถึงจะเมา แต่ฉันก็นอนไม่หลับ ฉันเห็นเค้านอนหลับตาอยู่บนโซฟาใกล้ๆ ฉันเหงาอย่างบอกไม่ถูก ถึงเค้าจะอยู่ใกล้ๆแค่นี้ ทั้งที่ทุกทีที่ฉันนอนที่ห้องของฉันที่มีเพื่อนร่วมห้อง ฉันก็นอนคนละเตียงกับเพื่อน แต่เวลานี้มันไม่เหมือนกัน และความเมาก็ทำให้ฉันกล้าพอที่ลุกจากเตียงไปนอนเบียดแอนที่โซฟา
แอนลืมตาขึ้นอย่างตกใจที่เห็นฉันไปนอนเบียด แต่ก็น่าแปลกนะที่แอนไม่ดุฉันเลย เค้ากลับประเลาะให้ฉันกลับไปนอนที่เตียงจนได้ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็มีเงื่อนไขว่าต้องให้เค้าพาฉันขี่หลังไปส่ง แอนก็ใจดีเหลือเชื่อที่ยอมทำตามง่ายๆ และสุดท้ายเค้าก็ต้องยอมนอนข้างฉันบนเตียงเดียวกัน แต่มันคงยังไม่พอ ฉันต้องการอะไรจากเค้ามากกว่านี้
เพราะฉันรักเค้า..
แล้วมันก็เพราะความเมาอีกเหมือนกันที่ทำให้ฉันทำสิ่งนั้น ที่ฉันไม่เคยคิดจะทำ ฉันต้องการพลีกายให้เค้าในคืนนี้ ฉันอยากเป็นของเค้า และต้องเป็นให้ได้ด้วย ฉันไม่ต้องการรออีกต่อไปแล้ว
ฉันลุกขึ้นจากตำแหน่งที่นอนข้างแอน และขึ้นคร่อมตัวเค้าที่เหมือนนอนหลับอยู่ ฉันก้มลงจูบเค้าที่ริมฝีปากสวยๆนั่น ที่ฉันสามารถหามันเจอ แม้กระทั่งในห้องนี้จะไม่มีแสงไฟ
และใช่..แอนตกใจมากกว่าเมื่อกี้ที่ฉันไปนอนเบียดบนโซฟานั่นกับเค้าเสียอีก เค้าลืมตาขึ้นทันทีเพราะคงรู้สึกว่าถูกจูบ เค้าพยายามหลีกเลี่ยงไม่ตอบสนองสิ่งที่ฉันทำ และปลอบให้ฉันไปนอน เพราะคงเห็นฉันร้องไห้ ใช่..ฉันร้องไห้ แต่ไม่ใช่เพราะคิดถึงบ้านอย่างที่เค้าเข้าใจ อย่างที่เค้าพยายามพูดปลอบฉัน ฉันร้องไห้เพราะ... เพราะฉันรู้สึกตัวว่าตัวเองไม่ดี แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะทนความต้องการของตัวเองไม่ได้ และที่สำคัญ..ฉันกลัวเค้าเกลียด กลัวเค้าเกลียดฉันที่เป็นแบบนี้ กลัวเค้าไล่..
แต่มันไม่ใช่... แอนยอมแล้ว..
ฉันได้รู้สึกถึงร่างกายของเค้าที่ฉันโหยหาต้องการ คงเพราะฉันทรมานเค้าด้วยการนำมือของเค้ามาสัมผัสหน้าอกตัวเอง ความไม่เคยกับเรื่องแบบนี้ ทำให้ฉันคิดวิธีอื่นไม่ออกที่จะเรียกร้องความสนใจจากเค้าได้ ฉันจึงต้องเสี่ยง มือของฉันข้างนั้น ช่วยให้มือเค้าได้สัมผัสกับหน้าอกของฉันได้ถนัดขึ้นในท่าที่เค้ายังนอนหงายอยู่กับเตียงและเถียงกับฉัน ฉันออกแรงกับมือข้างนั้นของเค้า และแน่นอนมันส่งผลกับหน้าอกของฉันด้วย ฉันทำเหมือนไม่กลัวว่าจะเจ็บอะไรเลย แล้วมันไม่ใช่แค่เจ็บที่ฉันรู้สึก ฉันได้รู้สึกกับอะไรที่ฉันไม่เคยมาก่อนในชีวิตที่เกิดมา ฉันรู้สึกเสียวแปลกๆตรงพื้นบริเวณหว่างขาของฉัน ตรงของสงวนของตัวเอง ฉันไม่แน่ใจว่าฉันรู้สึกอะไรอยู่ แต่รู้ว่า ฉันต้องการให้เค้าเป็นคนทำอะไรกับฉันให้มากกว่านี้ และใช่..เค้าทำ..
แอนพลิกตัวขึ้นมาจากที่นอน พร้อมกับที่ดึงฉันลงไปอยู่ในตำแหน่งเดิมของเค้า ฉันไม่ต้องช่วยเค้าบีบหน้าอกตัวเองอีกต่อไป เค้าทำเรื่องที่เหลือต่อให้อย่างชำนาญ ฉันตอนนั้น ไม่นึกสงสัยอะไรว่าเค้าเคยทำแบบนี้กับใครหรือไม่ เพราะฉันสนใจแค่เค้าเท่านั้น แค่จูบที่ร้อนแรงของเค้ากับปากของฉัน กับมือใหญ่ๆทั้งสองข้างนั่นที่กำลังบีบหน้าอกฉัน และปลายนิ้วที่ไล้ไปตามลูกเชอรี่บนหน้าอกทั้งสองข้างที่มันแข็งตัวขึ้นรับสัมผัสจากเค้าอย่างรู้งาน ทั้งที่ฉันยังอยู่ในเสื้อผ้าที่ใส่มาอยู่ หูของฉันได้ยินเสียงครางจากลำคอตัวเอง มันเป็นเสียงที่ฉันไม่เคยแสดงออกมาแบบนี้ หรืออาการที่ฉันเป็นอยู่นี่ มันจะเป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามปกติของร่างกาย ใช่..เพราะฉันรู้สึกว่า มือทั้งสองข้างของฉันเองดึงเค้าเข้ามาใกล้ กอดเค้าไว้เหมือนกลัวว่าเค้าจะหายไปอย่างนั้น และมันก็ไม่นานเลยกับสิ่งที่ฉันรอ เค้าถอดเสื้อผ้าฉันออกจากตัวง่ายๆ จนฉันอายและต้องขอให้เค้าถอดของเค้าบ้าง แล้วฉันก็ได้เห็นว่า.. นางฟ้าของฉันงดงามมากแค่ไหน เมื่อไม่มีอะไรปกปิดร่างกายของเค้าเลย ฉันไม่เสียใจเลยที่ทำแบบนี้ลงไป มันคุ้มค่ามากในความคิดฉัน
ฉันไม่แน่ใจว่า แอนแค่ต้องการร่างกายฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของเค้าที่ฉันไปปลุกมันให้ตื่นขึ้นมา หรือว่า เค้าต้องการจะทำแบบนี้กับฉันมานานแล้วเหมือนกัน ตอนนี้ฉันรู้แค่ว่า..ฉันมีความสุขที่ถูกเค้าทำแบบนี้
แอนทำให้ฉันรู้สึกว่า ฉันต้องการเค้ามาก หรือว่านี่จะเป็นครั้งแรกของฉันกับสัมผัสสวาท ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น ร่างกายของฉันมีขยับเคลื่อนไหวไปเอง มันเกร็งไปหมดทั้งตัว กระทั่งออกแรงจิกเส้นผมนุ่มบนศีรษะของเค้า หรือฝังเล็บลงกับหลังเค้าก็ทำ คงเพราะแอนกำลังทำอะไรกับของสงวนของฉันอยู่ก็ได้ ฉันรู้สึกเสียวซ่านและร้อนผ่าวไปทั้งตัว และไม่สามารถบังคับสะโพกตัวเองได้ ไม่ให้ขยับขึ้นหาแอน หาลิ้นอุ่นๆของเค้า ที่กำลังไล้เล็มไปตามร่องเนินสวาทของตัวเอง ฉันร้องออกมาเหมือนคนใจจะขาดอย่างนั้น ทั้งรู้สึกได้ว่าตรงจุดนั้นที่แอนสัมผัสอยู่มันมีน้ำอะไรบางอย่างหลั่งออกมา ซึ่งตามที่เรียนมา มันคือน้ำที่ออกมาจากความต้องการทางเพศของผู้หญิง และอีกทีมันคือน้ำที่ช่วยในการหล่อลื่น ลดการฝืดของอะไรบางอย่างที่จะต้องเข้าไปช่วยทำให้ฉันถึงจุดหมายที่ต้องการเร็วขึ้น
ฉันรู้ว่า.. ความปรารถนาสุดท้ายของร่างกายในเรื่องเซ็กซ์ คือการถึงจุดออกัสซึ่ม แต่ฉันไม่เคยรู้ว่า มันจะรู้สึกยังไง เมื่อถึงเวลานั้น รู้แค่เพียงว่า ตอนนี้ตรงส่วนนั้น ตรงของสงวนของฉันมันกำลังเรียกร้องหาอะไรบางอย่างอยู่ แต่เหมือนแอนจะไม่ต้องการทำมัน เค้าแค่พอใจที่จะใช้ลิ้นของเค้า พาให้ฉันไปถึงจุดหมาย แต่ฉันไม่ยอม ฉันต้องการรู้สึกถึงตัวเค้ามากกว่านี้
และแอนก็หนีฉันไม่พ้นตามเคย เค้ายอมฉันอีกครั้ง..
แต่ฉันก็ต้องแลกมันด้วยความเจ็บที่เหมือนจะขาดใจ เพราะมันเป็นครั้งแรกของฉันกับการทำเรื่องนี้ ช่องคลอดของฉันมันฟิตมาก ใช่สินะ..ฉันอายุสิบห้าเท่านั้น มันไม่น่าแปลกอะไร และทั้งที่ตรงส่วนนั้นของฉันมีน้ำออกมามากเพื่อช่วยลดการฝืดหรือการเสียดสี แต่มันก็หนีความเจ็บในครั้งแรกนี้ไปไม่ได้ แอนดูตกใจจนชะงักการเคลื่อนไหวของเค้า คงเพราะได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บของฉัน แต่เค้าก็ต้องทำมันต่อไป เพราะถูกฉันบังคับอีก
และในที่สุด ฉันก็รู้จักมันเสียทีว่าความรู้สึกแบบนี้มันเป็นยังไง ว่าการมีบางส่วนของคนที่ตัวเองรักอยู่ในตัวแบบนี้มันรู้สึกดีมากขนาดไหน
มันเจ็บก็จริงที่ร่างกาย.. แต่อบอุ่นมากมายที่หัวใจ..
ฉันรักเค้าที่สุดเลย...
ฉันไปถึงจุดนั้นที่ต้องการในที่สุด มันรู้สึกดี เพราะในระหว่างที่ฉันรู้ว่าตัวเองสามารถไปถึงฝั่งฝันได้แล้ว ฉันก็แอบได้ยินเสียงอีกคนบนตัวฉันเหมือนกัน แอนไม่ได้ส่งเสียงดังมากอย่างฉัน ตอนที่เค้าถึงจุดนั้นของเค้า เค้าแค่ครางเบาๆในลำคอเหมือนคนหายใจไม่ทัน แต่แค่นั้น เสียงของเค้าที่ฉันได้ยิน ก็เซ็กซี่มาก ฉันอยากฟังอีกจัง แต่คงต้องเป็นครั้งต่อไป ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันคงต้องพัก และก็...เจ็บจังนะ ตรงนั้นน่ะ เวลานี้ที่ทุกอย่างมันจบแล้ว พรุ่งนี้..ฉันจะมีปัญหากับการเดินไปเรียนมั้ยนะ แต่ไม่เป็นไร.. เพราะถ้าเดินไม่ไหวอีกล่ะก็ ฉันจะขอให้แอนอุ้ม และเค้าต้องทำแน่..ฉันรู้..
เพราะฉันรู้แล้วว่า...เราสองคนคิดเหมือนกัน...
คืนนี้..ฝันของฉันเป็นจริงแล้ว.. ฉันได้บอกรักเค้า.. และได้ฟังเค้าบอกรัก..
ฉันไม่ขออะไรอีกต่อไปแล้ว.. แค่เค้าคนเดียว..
และสุดท้าย.. ฉันขอให้รักของเราสองคน มั่นคงตลอดไป...
คงจะไม่มากไปใช่มั้ย... แอน...
To be continue….
1 ความคิดเห็น:
แหม.. อะไรที่มันเป็นของเรา มันก็จะเป็นของเรานั่นแหละชิจัง.. แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาว่าคนคนนั้นจะยอมเปิดเผยตัวว่าใจตรงกันกับเราตอนไหนแค่นั้นแหละ แต่ดูแล้วว่าคงเดาไม่ยากล่ะนะว่าแอนคิดยังไงกับตัวเองน่ะ เพราะเฝ้าตามติดน้องรหัสอย่างกับช้อนติดกับซ้อมอย่างนั้นแหละ ถึงจะบอกว่าเป็นหน้าที่ที่พี่รหัสจะต้องเป็นคนดูแลน้องก็เถอะ แต่นี่มันเกินหน้าที่แล้ว เค้าเรียกว่า “ใจสั่งมา”
ไม่มีพี่รหัสคนไหนใส่ใจน้องมากขนาดนี้หรอก ฟันธงได้เลย แต่แอนน่ะ เห็นว่าชิจังเป็นคนพิเศษ ถึงได้ทำทุอย่างให้ เพราะเค้าเองก็อยากอยู่ใกล้คนที่เค้ารักเหมือนกันนั่นแหละ.. และแล้วคืนนั้นชิจังก็ได้รู้ซะทีว่าแอนคิดยังไงกับตัวเอง ก็เล่นไปอ่อยเค้าไว้ขนาดนั้น ถึงอยากจะทนก็ทนไม่ไหวหรอกเน้อ.. แต่ที่แอนทำลงไปมันไม่ใช่เพราะความใคร่หรอกนะ ทำไมถึงพูดว่า “ไม่ใช่” ได้น่ะเหรอ.. ชิจังก็ต้องรอดูต่อไปนะว่าปฏิกิริยาหลังจากที่ได้กันแล้วน่ะจะเป็นอย่างไร.. คำพูด พูดไปก็เท่านั้นแหละ อยากจะพูดอะไรก็พูดได้ มันต้องเป็นการกระทำถึงจะบ่งบอกตัวตนที่แท้จริง และความจริงใจออกมาให้เห็นได้..
และไม่ว่ายังไง ตอนนี้ แอนก็เป็นของชิจังไปแล้วล่ะนะ และชิจังก็เป็นของแอนไปอย่างแท้จริงแล้วด้วย.. ดูแลกันดีๆ อย่าให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเน้อ
ขอบคุณมากค่ะไรเตอร์ สนุกจังเลยอ่ะ อย่าลืมมาต่ออีกนะคะ เป็นกำลังใจให้จ้า
แสดงความคิดเห็น