The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.21
Pairing : Anh x Shizuru x Alyssa
Rate : M
Genre : Drama - Romance
By : Anhy
My Curse - 7 : Alyssa’s POV
ความผิดหวังซ้ำซ้อนทำให้ฉันเลือกปิดตัวเอง ปิดหัวใจฉัน โดยไม่สนใจใครอีก ไม่คิดจะจริงจังกับใคร การสิ้นหวังและความเจ็บปวดที่เกิดจากมันทำให้ฉันเข็ด ฉันปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครๆที่เข้ามาเสนอตัวให้ฉัน ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย
ใช่..เพราะหลังจากที่ฉันกลับไปอยู่ทรานซิลเวเนียกับท่านพ่อและท่านแม่ ฉันก็ได้ช่วยงานท่านที่นั่น เพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นไร้ประโยชน์ และนั่นมันจึงทำให้ฉันต้องเจอใครๆมากมาย ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกเขาเหล่านั้นถึงได้มาสนใจอะไรในตัวฉันกันนักหนา อาจจะเป็นเพราะว่า พวกเค้าไม่รู้ว่าฉันเคยมีลูก เคยมีสามีมาก่อน ฉันไม่ใช่ของดีที่ไหนสำหรับใครอีกแล้ว อย่ามายุ่งกับฉันเลย
ความโศกเศร้ากับเรื่องที่อายทิ้งฉันไป ค่อยๆดีขึ้นเมื่อฉันไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนั้น ที่มีแต่อายเต็มไปหมดนั่น เพราะที่ทรานซิลเวเนียไม่ได้มีที่ที่อายเคยอยู่ นอกจากร้านขายของใช้แม่มดนั่น ซึ่งฉันก็ยอมรับว่า ฉันเคยไปตามหาอายที่นั่นเหมือนกัน และมันก็เหมือนเดิม ไม่มีอายอีกแล้วกับสถานที่ที่เดิมที่เธอเคยไป ไม่แม้จะเป็นกระทรวงเวทย์มนต์ที่อายเคยทำงานอยู่ที่นั่น พวกเขาบอกว่าอายไม่ได้ยื่นใบลาออก เธอแค่ลาหยุดพักร้อนตามสิทธิ์ที่ทำได้สำหรับพนักงานของกระทรวง แต่พวกเขาก็ไม่ได้บอกว่า อายจะกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อไหร่เหมือนกัน และฉันคงจะต้องรอต่อไป รวมถึงดักรอที่บริเวณบ้านของอายด้วย
เปล่าหรอกนะ ฉันไม่ได้ว่างมากขนาดนั้นที่จะตามหาอายได้ทั้งวัน ฉันมีงานทำ เพียงแต่ฉันใช้ประโยชน์จากความสามารถของตัวเอง หายตัวไปมาจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้เร็วอย่างใจ มันก็เลยช่วยให้ฉันไปไหนมาไหนได้หลายที่ในวันเดียวกัน นี่แหละนะ ประโยชน์ของการเป็นแวมไพร์ที่ทำให้ความคิดที่ว่าการอยู่เป็นอมตะแบบที่ฉันเป็นคำสาป กลายเป็นดูดีขึ้น ถึงจะไม่ได้ดีทั้งหมดก็ตามที แต่ความสามารถหนึ่งที่ฉันพยายามจะทำมันให้ได้ พยายามที่จะใช้มันกับการมองหาอาย ก็คือ..การมองอนาคต
แต่ไม่มี.. อนาคตข้างหน้าที่ฉันเห็นไม่มีอาย มีแต่..แอน..
แอนกำลังตามหาฉันอยู่ ฉันเห็นเค้า และถ้าฉันมองเห็นไม่ผิดล่ะก็ แอนจะมาหาฉันในไม่ช้า นั่นก็แสดงว่า ฉันควรจะต้องระวังตัวตลอดเวลา เพราะว่าเหตุผลเดียวของแอนที่จะต้องเจอฉันให้ได้คราวนี้ ก็คือ..เรื่องลูก เค้าต้องพอรู้แล้วว่า ฉันมีลูกกับเค้า ใช่..เค้าต้องสันนิษฐานมันจากการที่เค้ามีลูกกับแฟนใหม่ของเค้า ..ไมจัง..
แอนมีลูกคนนี้ตามแผนการของพี่สาวคนรองของฉันเอง ฉันยอมรับเลยว่า ฉันแทบช็อคที่รู้เรื่องลูกแอนกับมนุษย์แบบนี้ แต่พอนั่งฟังเรื่องที่ชิจังเล่า ฉันก็เข้าใจว่าทำไม ชิจังต้องเลือกทำแบบนี้ เลือกทำอะไรที่ดูโหดร้ายกับแอนมากๆ เพื่อให้เค้ายอมเลิกกับชิจังง่ายๆ และไม่พยายามที่จะฆ่าตัวตายอีก ที่จริงแล้วในความคิดของฉัน ที่ค่อนข้างจะยอมรับเลยเหมือนกันว่า ฉันอยากให้ชิจังกับแอนได้อยู่ด้วยกัน อยู่เป็นครอบครัวจริงๆ เพราะถึงเค้าสองคนจะเป็นพี่น้องกันทางสายเลือดโดยตรงและเป็นฝาแฝด แต่สำหรับเราที่เป็นแวมไพร์ เราไม่จำเป็นต้องถือเรื่องความสัมพันธ์กันในหมู่เครือญาติหรือพี่น้องว่าเป็นของต้องห้ามอย่างที่มนุษย์ยึดถือ
ก็ตามที่ฉันเคยพูดมาแล้วหนึ่งครั้งว่า ถ้าฉันกับแอนรักกัน แล้วเรามีลูกด้วยกัน ฉันก็จะยอมแต่งงานอยู่กินกับเค้า โดยไม่สนใจใคร เพราะว่าก็คงไม่มีใครมาห้ามเราเหมือนกัน การแต่งงานกับพี่น้องสำหรับฉัน ถือเป็นเรื่องธรรมดามาก ด้วยเหตุผลเพียงหนึ่งอย่างเท่านั้น คือฉันไม่ใช่มนุษย์ ฉันคือแวมไพร์เลือดแท้.. แต่กับแอนและชิจังมันไม่ใช่ และนี่ใช่มั้ยที่ทำให้พวกเค้าไม่สมหวังกัน หรือมันมีอะไรที่มากกว่า
ซึ่งฉันก็มารู้ว่า ในทุกครั้งที่ชิจังกับแอนมีสัมพันธ์กันทางร่างกาย มันมักจะเป็นคืนวันเพ็ญที่แอนมีอวัยวะพิเศษนั่น และแน่นอนที่ชิจังจะต้องถูกกระทำเหมือนที่ฉันเคยกับแอน ซึ่งนั่นมันก็หมายความว่า ชิจังก็มีสิทธิ์ที่จะมีลูกกับแอนได้เหมือนที่ฉันมี แต่มันไม่ใช่ เมื่อฉันมารู้ถึงเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้ชิจังไม่สามารถจะเห็นแก่ตัวกับความรักครั้งนี้ของเค้าได้ เพราะว่า..เค้ารักแอนมากกว่าตัวเค้าเอง
ใช่..เพราะชิจังรักแอนมากที่สุดในชีวิตเค้าจริงๆ..
เค้าบอกกับฉันว่า เค้าก็เกือบจะเลิกกับแฟนสาวที่เป็นมนุษย์ของเค้าเป็นการถาวรเพื่อมาอยู่กับแอน หรือไม่ก็ต้องการจะเก็บความสัมพันธ์ของเค้ากับแอนไว้ให้เป็นความลับ เรียกได้ว่า ในตอนแรกชิจังอยากจะเก็บคนที่เค้ารักทั้งสองคนไว้ให้อยู่เคียงข้างเค้า ใช่..พี่สาวของฉันสามารถรักคนได้ถึงสองคนในเวลาเดียวกัน เพียงแต่ว่า ใครจะมากหรือน้อยกว่ากันเท่านั้น แต่เค้าก็เลือกวิธีทั้งสองวิธีนี้ไม่ได้ เพราะเค้ากับแอนอยู่กันฉันท์ชู้สาวแล้วจะเสี่ยงมาก ไม่ใช่ว่า ชิจังจะต้องมีลูกกับเค้ามากกว่าหนึ่งคน จากการมีเพศสัมพันธ์ที่ก็คงมีเกือบทุกคืนสำหรับพวกเค้าซึ่งก็คงจะต้องมีคืนวันเพ็ญนั่นรวมอยู่ด้วย แต่ทุกอย่างก็กลับไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะร่างกายของชิจังต่อต้านการมีลูกกับแอน เหมือนว่าการสมสู่กันระหว่างพี่น้องของพวกเค้าได้รับการยืนยันว่ามันผิด รวมถึงก็ยังมีอีกเรื่องที่น่ากลัวกว่า นั่นก็คือ เลือดของชิจังเป็นพิษสำหรับแอน ซึ่งในทุกครั้งของการมีเซ็กซ์ของพวกเค้าหรือพวกเราที่เป็นแวมไพร์เป็นน่ะ น้อยครั้งมากที่เราจะไม่กัดกินเลือดของคู่นอน เพราะพวกเราแวมไพร์จะปลดปล่อยสัญชาตญาณดิบออกมาในระหว่างการร่วมรัก มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะต้องดูดกินเลือดของกันและกัน เพราะมันสามารถทำให้ร่างกายของเราฟื้นตัวได้เร็วขึ้นจากจุดออกัสซึ่มหรือความเจ็บต่างๆที่เกิดขึ้นเพราะเซ็กซ์ เลือดจากคู่นอนของเราจะช่วยให้ร่างกายของเรารักษาตัวเองได้เร็วขึ้น เหมือนที่ฉันเคยมีประสบการณ์มา
ในครั้งที่ฉันมีเซ็กซ์กับแอนครั้งนั้น ฉันยังไม่เคยมีใครมาก่อน และแน่นอนที่เยื่อพรหมจารีย์มันยังอยู่ แล้วมันก็ถูกทำให้หายไปเพราะอวัยวะนั่นของแอน มันเจ็บมากจริงๆกับนาทีนั้นที่ฉันถูกสอดใส่เป็นครั้งแรก แต่คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกใช่มั้ยที่ฉันยังทนกับมันได้ อารมณ์ทางเพศที่แอนสร้างให้ฉันรู้สึกมันช่วยให้ช่องคลอดเกิดน้ำมาช่วยในการหล่อลื่นลดการฝืดของของที่ต้องเข้าและออกตรงจุดนั้น แต่เพราะความที่ฉันอยู่กับมันนานเกินไป เพราะแอนไม่ปล่อยมันนานมากกว่าเค้าจะเสร็จกิจของเค้า อวัยวะเพศของฉันที่ไม่เคยกับเรื่องแบบนี้ มันก็เลยมีเลือดออกมากทีเดียว ฉันมารู้ตัวว่าฉันเสียเลือดมากเพราะมันก็มาตอนที่แอนขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ตอนที่ตัวของเค้าไม่ได้บังสายตาฉันที่มองตัวเอง แต่ความเจ็บของฉันมันไม่มี เหลือเพียงความชาและเลือดมากมายที่คาตาอยู่เป็นหลักฐานของการถูกข่มขืน มันเป็นเรื่องที่ฉันลืมไม่ลง
เพราะการถูกกระทำเพียงครั้งเดียวและครั้งแรกในชีวิตทำให้ฉัน..ท้อง
และมันก็เป็นเรื่องดีรึไง..ที่ชิจังไม่มีโอกาสท้องกับแอน ไม่ว่าเค้าจะมีเซ็กซ์กันอีกกี่พัน กี่หมื่นครั้งก็ตาม.. แต่เท่าที่ฉันมองจากสายตาของชิจัง ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่ ฉันรู้ดีว่า ชิจังอยากมีลูกกับแอน แน่นอน..เค้าเป็นผู้หญิง ซึ่งผู้หญิงทุกคนต่างก็อยากมีลูกกับคนที่ตัวเองรัก มันเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนกับแฟนตัวจริงของเค้าเหรอ ฉันไม่แน่ใจนะ เพราะกับสิ่งที่ฉันเห็นในสายตาของชิจัง เวลานี้เค้ามีแต่พี่คนโตของฉันเท่านั้น น่าสงสารมนุษย์ตัวน้อยที่ต้องมาเกี่ยวพันกับแวมไพร์อย่างพวกฉัน พวกเค้ามักจะถูกคำสาปตามหลอกหลอนไปด้วย เพราะอยู่ใกล้กับสิ่งชั่วร้ายอย่างเรา
ใช่..ฉันไม่ได้พูดผิดนะ พวกฉันเป็นสิ่งชั่วร้าย มนุษย์ทุกคนที่ได้เข้าใกล้และมีสัมพันธ์ด้วย ไม่เคยได้อยู่อย่างปกติสุขอย่างที่มนุษย์ธรรมดาพึงมี พวกเค้าจะต้องเจอกับเคราะห์ร้าย ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งสำหรับคนที่อยู่ใกล้ฉันอย่างอาย ลู ถึงแม้เธอจะเป็นแม่มด เธอก็ยังได้รับผลกระทบจากมัน คำสาปที่ติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิดทำให้เธอไม่มีความสุขที่จะอยู่กับฉัน เธอจึงต้องไป..
ทิ้งฉันไว้อยู่คนเดียวแบบนี้...
แต่ช่างมันเถอะ เรื่องของฉันกับแอน ตอนนี้ฉันมีทางเดียวคือหนีเค้าให้ถึงที่สุด ฉันยังหาคำตอบให้เค้าไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกเรื่องที่เค้ามีลูกกับฉัน ถึงเหตุผลของฉันที่มีในหัวจะพอเป็นข้ออ้างได้บ้างว่า เพราะแอนไม่ได้รักฉัน ฉันไม่ต้องการให้เค้ามารับผิดชอบในสิ่งที่เค้าไม่ได้ตั้งใจทำมัน แต่ฉันก็ดันมาผิดที่ว่า ในเมื่อคิดแก้ไขอะไรเองไม่ได้ในตอนที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกเองได้นั่น ทำไมไม่ไปปรึกษาเค้า ซึ่งถ้าฉันทำแบบนั้น บอกเค้าตั้งแต่แรก เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น แอนก็คงจะไม่มีโอกาสไปทำอะไรกับชิจังฉันท์ชู้สาว ไม่มีโอกาสไปมีทายาทคนใหม่กับคนอื่นแบบนี้ นี่ถ้าฉันได้ใช้ความสามารถในการมองเห็นอนาคตตั้งแต่ครั้งนี้ บ้านของฉันก็คงไม่เกิดความวุ่นวาย ที่สุดท้ายก็มีฉันที่เจ็บกับมันเพียงคนเดียว เจ็บมากที่สุด เพราะวันนี้ที่ฉันไม่เหลือใครเลย
ไม่ว่าจะเป็นแอนที่เคยเป็นสามี หรือลูกของฉัน.. และมาถึง..อาย... แฟนของฉัน..
ที่ฉันหนีแอนไปได้ทุกครั้ง มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย แค่ฉันเปลี่ยนที่อยู่กับเค้าเท่านั้น ก็พอรู้ว่าแอนไปหาฉันที่ทรานซิลเวเนีย ฉันก็มาอยู่กับไอจังลูกของเค้าแทน ช่วยแม่ที่เป็นมนุษย์ดูแลเด็กแวมไพร์ ซึ่งฉันก็ได้เจอชิจังอยู่ที่นั่นในทุกครั้งที่ฉันไปด้วย เพราะว่าชิจังต้องเป็นคนพาฉันเข้าบ้านหลังนั้นของฉันเองที่ฉันหาทางเข้าบ้านตัวเองไม่เจอ จากมนต์บังตาที่ชิจังร่ายเอาไว้ปกปิดมัน กันไม่ให้แอนไปเจอลูกกับแม่ของลูกของเค้าก่อนกำหนดเวลาที่ท่านพ่อทำโทษแอน เป็นเวลาหนึ่งปี
ฉันยังแปลกใจอยู่เลยว่า ทำไมท่านพ่อถึงไม่ทำโทษแอนเรื่องที่เค้าทำกับฉันตอนนั้น หรือว่าท่านต้องการหลักฐานที่จะยืนยันได้ว่า แอนสามารถให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ของเราแทนท่านได้ เพราะท่านไม่คิดจะมีลูกเพิ่มอีกนอกจากพวกฉันสามคน ท่านถึงทำเหมือนยกผลประโยชน์ให้จำเลยไป เพราะไม่แค่ที่ท่านไม่ทำโทษแอน ท่านยังทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรกับเรื่องที่ฉันกับแอนเคยมีอะไรกัน ถึงขั้นให้กำเนิดลูกด้วยกันด้วย หรือว่าท่านไม่เห็นว่ามันสำคัญ หรือว่าอันที่จริงแล้ว ท่านพ่อก็ต้องการทราบว่า ถ้าฉันกับแอนที่เป็นพี่น้องต่างแม่กัน มีลูกด้วยกันแล้วจะเป็นยังไง นี่ก็แสดงว่า..ก็สมใจท่านพ่อแล้วสินะ ที่ลูกของฉันกับแอนเป็นนางฟ้าแบบนี้ ท่านคงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจมากกว่าที่จะเป็นเรื่องน่าเสียใจสินะ ที่ฉันกับลูกอยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะเราไม่เหมือนกัน
หรือว่า..เซราน่า จะกลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ฉันกับแอนสร้างขึ้นเพื่อตระกูลของเรา แต่มันต้องแลกกับความเจ็บช้ำในหัวใจของฉันเนี่ยนะ ฉันไม่เข้าใจความคิดของท่านพ่อเลย หรือว่า..ผู้ชายมักจะเห็นผลงานแบบนี้สำคัญกว่าจิตใจ นี่รึเปล่านะ..ที่ทำให้ฉันไม่ชอบผู้ชาย..
ฉันร้องไห้เลยนะในตอนที่รู้จากชิจังว่า แอนมีลูกกับมนุษย์และก็ดูว่า เค้าทำท่าเหมือนจะดีใจด้วยซ้ำที่เค้ามีลูกได้ ถึงจะค่อนข้างดูงงๆ แต่พฤติกรรมของเค้าก็เปลี่ยนไปในทันที จากที่เค้าพยายามจะหาทางตายให้ได้เพราะเรื่องที่เค้าผิดหวังกับรักของเค้ากับชิจัง แอนที่สติไม่อยู่กับร่องกับรอยกลับทำตัวดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะแค่เค้ารู้ว่า เค้ามีลูกเท่านั้น ฉันไม่ได้อิจฉาลูกของเค้ากับแม่ของลูกเค้าหรอกนะที่สามารถทำให้แอนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ แต่ฉันแค่ดีใจแทนพวกเค้าที่แอนสามารถจะรับรู้ได้ว่า พวกเค้ามีตัวตนสำหรับแอน มีความหมายต่อการมีชีวิตอยู่ต่อของเค้า ฉันดีใจ..
เพราะฉันกับลูก.. คงจะทำไม่ได้แบบนี้..
เพราะถึงแอนจะไม่ได้ตั้งใจที่จะมีลูกกับไมจัง แต่เค้าก็ยังพอมีใจให้ไมจังอยู่บ้าง และไมจังก็รักเค้ามากด้วย การมีลูกกับไมจัง จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเค้าที่จะเอ่ยปากแสดงตัวรับผิดชอบ ต่างจากที่ฉันเป็น ฉันกับเค้าไม่ได้รักกัน การมีลูกด้วยกัน จึงค่อนข้างประหลาดมากไป เค้าจึงไม่สมควรจะมารับผิดชอบฉัน แต่นี่อาจจะเป็นแค่ความคิดของฉันคนเดียว เพราะดูแล้วแอนคงจะไม่ได้คิดเหมือนกัน แอนยังคงออกตามหาฉันทุกวันเหมือนเดิม พร้อมๆกับที่เค้าตามหาลูกกับภรรยาของเค้าในปัจจุบันด้วย นี่ฉันควรจะดีใจใช่หรือไม่..
ที่ฉันในที่สุดก็เป็นที่ต้องการของใครสักคนเหมือนกัน...
ฉันยังคงไม่ได้ข่าวอายจนกระทั่งวันนี้ ทางกระทรวงเวทย์มนต์ก็ถือแล้วว่าอายพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานที่นั่น เพราะเธอไม่มาทำงานตามระยะเวลาตามกำหนดการลาที่ทางกระทรวงกำหนดไว้ ซ้ำยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยด้วย ที่บ้านของเธอก็ไม่มี คุณพ่อของเธอก็ไม่รู้ไม่เห็นว่าลูกสาวไปไหนเหมือนเคย แล้วทุกอย่างก็ยืนยันแล้วว่า ฉันเสียอายไปเป็นการถาวรแล้ว ฉันไม่เหลือใคร..
เซเรน่า.. ลูกสาวของฉันยังคงเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้กับฉันในเวลาที่ฉันไม่มีใคร ถึงแม้วันนี้ลูกจะยังไม่รู้ว่าฉันเป็นใครก็ตาม ฉันก็ดีใจมากพอแล้วที่ได้มาอยู่ในฐานะของเพื่อนเค้า ลูกสาวของฉันโตขึ้นมาก มากจนตอนนี้เหมือนแอนเข้าไปทุกวัน จนฉันคิดเลยว่า เจ้าหนูน้อยไอจัง ลูกของแอนอีกคนที่เพิ่งเกิดมา ก็คงจะไม่พ้นเป็นแบบนี้
ฉันยอมรับเลยว่า เชื้อสายเผ่าพันธุ์ที่มาจากแอนแรงมากจริงๆ ลูกของเค้าเหมือนเค้าหมดทั้งสองคน ทั้งที่ในตอนแรกมันจะดูไม่แปลกกับเซเรน่าที่มีหน้าตามาทางแอนมากแบบนี้ เพราะฉันที่เป็นแม่แท้ๆของเค้า ก็มีหน้าตาไม่ต่างจากแอน นอกจากสีผมกับสีตาที่ต่างกัน แต่กับไอจังลูกสาวเค้าที่เกิดจากไมจังนั่น ก็ยังมาเหมือนเค้ามากๆแบบนี้เสียอีก แล้วนี่ก็คงจะเป็นอีกผลงานชิ้นโบว์แดงที่ท่านพ่อคงจะต้องภาคภูมิใจ
แน่นอน..เพราะไม่ว่าจะเป็นลูกของท่านเอง อย่างฉันกับแอน ก็มีหน้าเหมือนท่านอย่างกับพิมพ์เดียว มารุ่นหลานก็ยังมาเหมือนท่านอีกด้วย จะไม่ให้รู้สึกดีแบบนี้ก็คงจะแปลกไปสำหรับท่านพ่อที่ค่อนข้างจะหลงใหลในความเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ของเรา
ความเหงาที่อยู่กับฉันเหมือนเป็นเพื่อนกันตลอดกาล ทำให้ฉันนอนไม่เคยหลับ ซึ่งในบางครั้งฉันจะต้องใช้การอ่านหนังสือให้มากๆเพื่อทำให้สายตาล้าและเพลียไปจนหลับไปได้ในแต่ละคืน แต่ตกดึกฉันก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาและหลับไม่ลงอีกแล้วกระทั่งเช้า เพราะความเหงาที่ฉันต้องอยู่กับมัน ทำให้ฉันทรมาน หรือฉันควรจะหาใครสักคนมาอยู่ด้วย
ฮิปนอสกับทานาทอส เทพหนุ่มรูปงามทั้งสองนั่น ตัดไปได้เลย ถึงพวกเขาจะชอบฉันมากก็ตาม แต่ฉันก็ทำไม่ได้เมื่อนึกถึงเวลาที่เราต้องมีสัมพันธ์กัน หลังจากที่ตกลงกันเป็นแฟน เพราะแค่คุยกับผู้ชายน่ะ ฉันไม่มีปัญหาอะไร คุยเล่นหรือจีบกัน ฉันก็พอเล่นด้วยได้ แต่ขอไม่คิดจริงจัง เพราะฉันยังยืนยันว่า ถึงในตอนนั้นที่ฉันกับแอนเคยมีเพศสัมพันธ์กัน แอนจะมีของเหมือนผู้ชายก็เถอะ แต่กลิ่นตัวของเค้าก็เป็นผู้หญิงอยู่ดี สรีระอื่นๆในตัวเค้าที่นอกเหนือจากอวัยวะนั่นก็ยังเป็นของผู้หญิง ตัวของเค้ายังเนียนนุ่มน่าสัมผัสมากกว่าผู้ชายแท้ๆ แน่นอน นี่แหละที่ทำให้ฉันกลัว ไม่กล้าตกลงปลงใจกับชายหนุ่มรูปงามนั่น
ส่วนอาร์เทมีส.. เค้าก็ดูเหมือนจะไม่อยากละทิ้งพรหมจรรย์เท่าไหร่ ใช่..เพราะเค้าเป็นเทพีที่รักษาพรหมจรรย์ อาร์เทมีสจึงไม่คิดเรื่องแฟนเลย ซึ่งเค้าต้องทำได้อยู่แล้วล่ะ สำหรับคนที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน ไม่เคยนอนกับใคร ผิดกับคนที่เคยมาแล้วอย่างฉัน พอไม่มีใครคอยทำเรื่องอย่างว่าด้วยกัน คืนวันคืนดีก็เกิดมีอาการเปลี่ยวใจได้เหมือนกัน และฉันจะทำยังไงได้ นอกจาก..ช่วยตัวเอง
การช่วยตัวเองของฉันมันไม่ทำให้ฉันรู้สึกดีมากเท่าไหร่ ฉันทำเพื่อแค่ไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่านและขจัดอาการงุ่นง่านที่เกิดขึ้นเท่านั้น ฉันยังคงต้องการคู่นอนตัวจริงมาช่วยในเรื่องนี้ที่ไม่มีทางจะมีได้ เพราะฉันปิดใจไม่รับใครเข้ามา แต่มันก็มีอยู่ครั้งหนึ่งนะที่ฉันช่วยตัวเองแล้วรู้สึกดีมาก เมื่อฉันได้เจอกับอวัยวะเพศจำลองที่เหมือนของผู้ชายกับช่องคลอดของตัวเอง คงคิดว่าฉันบ้าใช่หรือไม่ที่ชอบอะไรแบบนี้ ทั้งที่ฉันบอกว่าไม่ชอบจะมีอะไรกับผู้ชาย แต่ฉันก็ต้องอาศัยของที่เหมือนกันกับพวกเค้า นั่นก็เพราะฉันไม่ได้คิดว่ามันเกี่ยวอะไรกับคนอื่น ถึงฉันจะฝืนธรรมชาติไม่ได้ที่ไม่ว่าอย่างไร อวัยวะในตัวฉันมันก็ต้องการของคล้ายๆกันแบบนั้นสอดใส่ให้เกิดอารมณ์ แต่ฉันก็ยังเลือกได้นี่ว่า ฉันจะใช้ของปลอม ฉันไม่อยากท้องอีกแล้วไงล่ะ แต่ฉันต้องการเซ็กซ์ ซึ่งมันก็ไม่ได้บ่อยนักหรอกที่ฉันเกิดอารมณ์ทางเพศ ฉันไม่ใช่พวกหมกมุ่น แต่ก็เกือบทุกครั้งที่ฉันต้องใช้ของเล่นแบบนี้กับตัวเอง เพราะมันเป็นความชอบส่วนตัว ใช่แล้วล่ะ..ฉันชอบเซ็กซ์ที่รุนแรง แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ปรารถนาความอ่อนโยน ทางที่ดีมันควรจะมีผสมกันไป แล้วจะหาที่ไหนมาล่ะ ในเมื่อไม่มีแฟนแบบนี้..
ครั้งแรกที่ฉันลองใช้มัน ยอมรับเลยว่า กลัวมาก แต่อยากจะลอง เริ่มต้นฉันจึงต้องทำตัวเองให้เกิดอารมณ์แบบนั้นให้มากๆก่อน เพื่อช่องคลอดจะได้มีน้ำหล่อลื่นมาช่วยลดความเจ็บที่มันจะต้องมีแน่ๆหากถูกสอดใส่แบบนี้ ซึ่งฉันก็ล้อเล่นกับลูกเชอรี่บนหน้าอกตัวเองทั้งสองข้างแทนการถูกสัมผัสด้วยปากของคนอื่นที่มันไม่มีแล้ว และมันก็ได้ผล ฉันรู้สึกถึงน้ำหล่อลื่นที่ออกมาจากตัวของฉัน จากนั้นปลายนิ้วของฉันก็แทรกลงไปในร่องเนินสวาทของตัวเอง วนอยู่กับพื้นที่ใกล้จุดคริสตอริส แค่เพียงเท่านั้นสะโพกของฉันก็เกิดอาการสั่น และขยับขึ้นหามือตัวเอง ซึ่งหากฉันทำแบบนั้นเรื่อยๆไป จุดออกัสซึ่มก็ไม่นานเกินรอที่จะมาถึง แต่ฉันอยากพิสูจน์มัน ปลายนิ้วของฉันไล้ไปตามส่วนภายนอกของทางเข้าถ้ำสวาทของตัวเอง และเมื่อรู้สึกแล้วว่ามีน้ำแห่งตัณหาออกมามากพอ ฉันจึงคว้าของเล่นอันพอเหมาะนั่นมาใช้ ใช่..ฉันเลือกมันที่ขนาดเล็กกว่าที่เคยเห็นจากของแอน จากนั้นก็คอยนำมันเข้าถ้ำของตัวเองไป ความรู้สึกมันได้เลยกับตอนนั้นที่แอนทำให้ ฉันเลียนแบบการถูกสอดใส่จากอวัยวะนั่นของเค้า ในขณะที่มือที่ว่างก็ไม่ห่างจากการเล่นกับหน้าอกตัวเองเหมือนตามปกติ ไม่นานเกินรอ เกินกว่าฉันจะรู้สึกว่าสะโพกอาจจะหลุดได้เพราะใช้มันโยกขึ้นลงมากเกินไป ฉันก็ถึงจุดนั้นพร้อมเสียงกรีดร้องที่ออกมาจากปากของตัวเอง ซึ่งเป็นนาทีที่สารแห่งความสุขหลั่งให้ฉันรู้สึกดี แต่ตอนนี้มันแย่หน่อยที่ฉันไม่มีใครให้กัดกินเลือด ถึงเขี้ยวของฉันจะไม่ได้งอกออกมาก็ตาม ถึงอย่างนั้นเลือดก็ยังเป็นที่ต้องการของฉัน เพราะของเล่นที่ฉันใช้มันพาเลือดจากตัวของฉันออกมาด้วย ฉันเห็นตอนเอามันออกมา ซึ่งฉันคาดว่า ถ้ำสวาทของฉันไม่มีใครเคยล่วงล้ำมานานมากแล้ว มันจึงฟิตมากเกินไป ฉันเผลอคิดไปว่า ถ้าตอนนี้เป็นฉันกับแอนทำอะไรกันแบบนี้ ฉันก็คงจะเจ็บกว่านี้แน่ๆ เพราะแท่งนั้นของแอนใหญ่กว่านี้มากอยู่เหมือนกัน แล้วมันก็ดีแล้วที่นี่ไม่ใช่เค้า ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะมีลูกกับเค้าอีกคน ที่จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมีลูก ถ้ามีถึงสองคนแบบนั้น
แล้วนี่ฉันจะพูดถึงเค้าทำไมกันนะ แค่ฉันเห็นเค้าตามตัวเท่านั้นเอง.. เค้าแค่ต้องการลูกของเค้าที่ฉันอาจจะมีให้ได้.. ไม่ใช่ตัวของฉัน.. ไม่ต้องไปดีใจ เพราะสุดท้าย..ฉันก็ยังเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการเหมือนเดิม
ฉันยังนั่งอยู่บนเตียงด้วยร่างกายที่ปราศจากเสื้อผ้า หลังจากเสร็จกิจกรรมที่ไม่ประจำวันนั่น นั่งดื่มของเหลวสีแดงสดที่หามาจากตู้เย็นในห้องของฉัน ที่พวกเราจะมีกันทุกคนในห้อง เผื่อฉุกเฉิน ดื่มมันไปพลางและนั่งรอว่า เมื่อไหร่ร่างกายของฉันจะรักษาตัวเองเสร็จเรียบร้อย ฉันไม่ได้กำลังคอยใคร ฉันจะอยู่ของฉันคนเดียว เหงาก็ช่างมัน..
เพราะฉันก็มีลูกของฉัน.. ที่พี่ไม่มีสิทธิ์มาเกี่ยวด้วยเลย.. เพราะพี่มีลูกคนใหม่แล้ว..แอน..
ใครก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีกแล้ว.. แม้แต่เธอ..อาย..
ส่วนพี่.. ก็อยู่ของพี่ให้มีความสุขกับทางที่พี่เลือกแล้ว.. ก็แล้วกันนะ..ชิจัง..
ส่วนฉันเหรอ.. ฉันก็อยู่กับคำสาปของตัวฉันต่อไป.. ตามลำพัง...
To be continue….
2 ความคิดเห็น:
ถ้าบอกว่า.. อลิสซ่าบ้าไปแล้ว.. จะมีใครมาฆ่าเราทิ้งมั้ยเนี่ย.. เหอๆๆๆ..
ก็ดูสิ.. จากแต่ละอย่างที่คิดออกมาน่ะ มันเป็นการพร่ำเพ้อถึงอดีตจนเกินพอดีนะ เข้าใจอยู่ว่าเวลาอยู่คนเดียวมันแสนจะฟุ้งซ่าน แต่เรื่องที่มันผ่านไปนานแล้วจะคิดถึงมันไปทำไมกันล่ะอลิสซ่า มันไม่มีประโยชน์ คนที่ทิ้งเราไปแล้ว เค้าก็ไปแล้วไง เธอยังจมอยู่กับความเศร้านั้นต่อไป แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา.. ก็ถูกที่ว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นก็ยากเกินกว่าที่จะใช้เวลาเพียงค้ามคืนหรืออาทิตย์เพื่อจะลืมมัน แต่เรื่องของเธอกับแอนมันผ่านไปนานแล้วนะ จนลูกของเธอโตเป็นสาวแล้ว และเขาก็กำลังมีลูกคนใหม่ขึ้นมาอีกคน กับคนที่ตัวเองบอกว่าไม่ได้รัก ไม่ได้คิดอะไรด้วยเนี่ย ไม่จำเป็นจะต้องเจ็บปวดนานขนาดนั้น ถึงจะบอกว่าตอนนั้นมันเป็นครั้งแรกของเธอก็เถอะ มันมีผลการะทบทางด้านจิตใจก็เถอะ.. แต่มันก็มีวันหายนะ เพียงแค่เธอปล่อยวาง อย่าไปทำให้เรื่องนั้นมันมาบั่นทอนความรู้สึกตัวเอง อีกอย่างแอนก็ไม่ได้รักเธอเลยนะ เขารักคนอื่นอยู่ คิดถึงเขาไปก็ไร้ความหมาย.. บอกตรงๆเลย.. ที่เค้าตามหาเธอ เพราะแค่อยากชดเชยความรู้สึกผิดเท่านั้น แล้วเค้าก็จะไม่รู้หรอกว่าเวลาที่เธอเห็นหน้าเค้าแล้วความรู้สึกมันจะเป็นยังไง.. จริงแล้วต่างคนต่างอยู่มันจะดีกว่า..
แล้วสำหรับเรื่องอาย สมควรแล้วที่เธอจะเป็นฝ่ายตามหาเค้านะอลิสซ่า เธอเองเป็นคนที่ทำให้ทุกอย่างมันพังไป ถามตัวเองนะว่าที่ไล่ไปตามหาเค้าทุกที่เนี่ย เพราะรักเค้า หรือแค่รู้สึกผิด.. ถ้าเป็นตัวเราเอง โดนใครมาเอาความรู้สึกบริสุทธิ์ของเราไปล้อเล่นล่ะก็ ความเกลียดจะเข้ามาครอบงำทันที ต่อให้รักมากแค่ไหน ก็ไม่มีวันกลับไปคิดแบบเดิมได้อีก.. อายจังก็คงเป็นทำนองเดียวกันนี้มั้ง ถึงรักแต่ก็ทำใจไม่ได้..
และถ้าอลิสซ่ายังหมกมุ่นกับเรื่องราวเก่าๆ จะไปทางไหนก็ไม่ไปซะทีแบบนี้ ไม่วันที่จะได้แฟนหรอก ฟันธงเลย เพราะใจเธอมันไม่เปิดกว้างให้ใครเลยอ่ะ ใจเธอตอนนี้มันมีแต่ความกลัว กลัวทุกอย่างที่มันจะเกิดขึ้น ต่อให้คนที่มาชอบเธอไม่ใช่ผู้ชายล่ะก็ เธอก็ตัดสินใจคบกับเค้าไม่ได้หรอก เพราะอดีตตามหลอกหลอน แล้วเธอเองก็ยังรักชิจังอยู่ด้วยแบบนี้.. เพราะงั้นก็เล่นกับของเล่นแบบนั้นไปก็แล้วกันนะ.. ฮ่าๆๆ.. บางทีมันก็อาจจะดีกว่าไปหลอกใครมาปู้ยี้ปู้ยำแล้วก็เขี่ยทิ้งอ่ะนะ
ทางที่ดีที่สุดของอลิสซ่าในตอนนี้ก็คือ.. อยู่กับตัวเอง ทบทวนสิ่งที่ผ่านมาว่าอันไหนควรจำ อันไหนควรลืม.. แต่การอยู่กับตัวเองก็ไม่ได้หมายความว่าให้อลิสซ่าไปกักขังตัวเองอยู่ในมุมมืดนะ เพราะถ้าทำแบบนั้นมันก็จะยิ่งเศร้าซึมไปกันใหญ่.. การอยู่กับตัวเองก็คือ ให้ตัวเองได้คิด ได้ตัดสินใจอะไรต่างๆที่เกี่ยวกับตัวเองให้ดีขึ้น ถ้าอลิสซ่าผ่อนคลายได้บ้าง ก็คงจะได้เห็นทางออกของตัวเองบ้างล่ะนะ..
ขอบคุณมากค่ะไรเตอร์.. อินอ่ะ อ่านไปแล้วก็อยากลากอลิสซ่าามานั่งฟังคำเทศน์ซะเดี๋ยวนี้เลยนะเนี่ย.. ฮ่าๆๆๆ..
ไปกำลังใจให้เสมอนะคะ สู้ๆๆๆ
Lookgolf’s comment…
โอ่ มาถึงตอนของสาวอาภัพและอับโชคอีกแล้ว อิอิ
ตอนนี้ก็ยังเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึกย่ำแย่ภายในจิตใจของอลิสซ่าจัง ที่มองชีวิตอันเป็นนิรันดร์ของตน ในฐานะแวมไพร์เลือดแท้ผู้สูงศักดิ์อย่างไร เหอๆๆๆ
ความรู้สึกและทัศนคติของอลิสซ่าจังต่อเรื่องของตนเองนั้น ช่างเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ติดลบมากกว่าการมองในแง่ดีเยอะเลยทีเดียว..แต่ก็ยังดี ที่อลิสซ่าจังเป็นคนที่มีนิสัยขี้เกรงใจ ไม่ต้องการให้ใครมากังวล และไม่อยากให้ตัวเองเป็นภาระหรือความรับผิดชอบของใคร ทำให้อลิสซ่าจังเลือกที่จะเก็บความรู้สึกต่างๆ ไว้กับตัวเอง และเลือกที่จะทุกข์ทรมานใจเพราะการแบกรับและเก็บกดความรู้สึกนั้นไว้เพียงลำพัง..ไม่ว่าจะเป็นความท้อแท้ สิ้นหวัง และขยาดความรักที่ตนเองไม่เคยได้สุขสมหวัง หรือจะเป็นการกลายเป็นหญิงมีตำหนิ ด้วยน้ำมือของผู้หญิงซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของตนเอง หรือจะเป็นความเศร้าใจจากการไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ของมารดาให้กับบุตรคนแรกและคนเดียวอันเป็นที่รักของตนได้ ตลอดจนการต้องอยู่อย่างอ้างว้างโดยปราศจากคนที่ตนรักอยู่เคียงข้าง..ความเดี่ยวดายและเหงาจึงบังเกิดขึ้นในใจของอลิสซ่าจัง และเกาะกินจิตใจที่บอบช้ำนั้น จนกระทั่งเจ้าของของมันต้องหาทางออกเพื่อเยียวยาหัวใจและความต้องการของตน ด้วยวิธีการที่ก่ำกึ่งระหว่างความหมกมุ่นเกินควรและสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ตามใจปรารถนาโดยปราศจากการถูกตำหนิใดๆ เหอๆๆ
โอ่ และเพราะความที่อลิสซ่าจังเลือกที่จะรับผิดชอบทุกอย่างด้วยตัวของตัวเองเพียงลำพังนั้นเอง เลยทำให้อลิสซ่าจังเริ่มหวงแหนสิ่งที่เป็นของตนซึ่งมีอยู่เพียงน้อยนิดเป็นอย่างมาก..แต่ก็นะ จะโทษแอนว่าไม่รับผิดชอบก็ฟังได้ไม่ถนัดนัก เพราะแอนจังไม่เคยรู้เรื่องถึงการมีอยู่ของเซเรน่ามาก่อนเลยแม้แต่น้อย เลยทำให้แอนจังไม่ได้ทำอะไรที่เหมือนเป็นการรับผิดชอบต่ออลิสซ่าจังและเซเรน่าในฐานะภริยา/แม่ของลูก และลูกสาวที่แท้จริงคนแรกของตน..เช่นนั้นแล้ว อลิสซ่าจังก้ควรเปิดใจยอมรับในส่วนนี้ด้วย เพราะยังไงก็ตาม เด็กทุกคนล้วนต้องการพ่อ เฉกเช่เดียวกับที่เขาต้องการแม่นั่นล่ะ เหอๆๆ
น่าเศร้าใจจริงๆ เมื่อได้เห็นชีวิตที่น่าระทมทุกข์และเปล่าเปลี่ยวเช่นนี้ของอลิสซ่าจัง..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่แอนจังที่อยู่ร่วมกับน้องสาวอีกคนกลายเป็นหนึ่งในปัญหาชีวิตของอลิสซ่าจังด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ครอบครัวที่เป็นเสมือนที่พึ่งสุดท้ายของอลิสซ่านั้นไม่สามารถเข้ามาและถูกอลิสซ่าจังปิดกั้น ไม่ให้เข้ามารับรู้และทำหน้าที่คอยช่วยเหลือให้กำลังใจหรือแบ่งปันความรู้สึกนั้นได้..จึงทำให้อลิสซ่าจังยิ่งโดดเดี่ยวเข้าไปใหญ่...จึงน่าสงสารยิ่งนัก...แต่ก็นะ ชีวิตเกิดมาล้วนต้องต่อสู้ บางอย่างสมหวัง บางอย่างผิดหวัง..แค่ท้อไม่เป็นไรหรอกนะ แต่อย่าถอยหลังก็พอ..แต่ก็แอบเชื่อนะว่า โดยพื้นฐานแล้ว อลิสซ่าจัง ไม่ใช่คนที่ชอบประชดชีวิตตัวเอง หรือคิดอะไรอย่างไร้เหตุผลขนาดนั้น...ดังนั้น อดทนต่อไปนะ เด่วอะไรๆ ก็จะดีขึ้นเองนะ อลิสซ่าจัง
ขอบคุณนะคะ ไรท์เตอร์..ยิ่งอ่านตอนของอลิสซ่าจังแล้ว ยิ่งทำให้หดหู่และสงสารแวมไพร์คนนี้จริงๆ..แถมฟ้าหลังฝนของอลิสซ่าจังก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะมาถึงวันฟ้าเปิดสักที เหอๆๆ..แต่สนุกและดราม่าได้เข้มข้นเหลือใจเหมือนเดิมเลยนะคะ ไรท์เตอร์...เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมจ้า อิอิ
แสดงความคิดเห็น