Human Again.
Rated: M
English - Horror/Romance
Alice & Claire R.
By : andella07/FanFiction.net
Translated to Thai : Anhy
Chapter 20: Signs of Insanity
ห้องขังที่ลูเทอร์ให้อลิซใช้นอนอยู่ห่างจากของทุกๆคน มันทำให้อลิซโมโหเมื่อรู้ว่าห้องของแคลร์อยู่ทางขวาใกล้กับห้องของเขาในอีกด้านหนึ่งของชั้นนี้ ..โอ้ไม่นะ..มันจะต้องไม่เกิดขึ้น สาวผมน้ำตาลคิดในใจ เธอควรจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วต่อจากนี้.. แล้วบางอย่างก็กำลังจะแย่ลงไป..
อลิซเก็บปืนทั้งหมดของเธอ ยกเว้น สมิธ แอนด์ เวสสัน แต่จากนั้นก็เริ่มคิดไปถึงเรื่องที่ลูเทอร์กับแคลร์อาจจะกำลังทำตอนนี้...
แสงไฟส่องสว่างรำไรในห้องขังของแคลร์ มือสวยงามทั้งสองของเธอกำลังเกาะกุมอยู่กับดินเหนียวขณะที่เธอนั่งอยู่กับแป้นสำหรับปั้นดินเผา เธอกำลังบังคับดิน ปั้นให้เป็นรูปทรงสูงขึ้นตอนที่ลูเทอร์เข้ามาด้านหลังในแบบวิญญาณ เขาค่อยๆวางมือทั้งสองลงทับกับมือของเธอ ดินเหนียวที่เปียกอยู่ก็บิดเบี้ยวเพราะน้ำหนักจากมือของเขา จากนั้นแคลร์ก็หันไปมองหน้าเขา ขณะที่เพลง “Unchained Melody” ถูกบรรเลงขึ้นเป็นฉากหลัง ทันใดนั้น เขาก็พาตัวเองเขามาใกล้และ.....
สาวผมน้ำตาลนำลูกกระสุนสำรองของปืนกระบอกอื่นของเธอขึ้นมาเช็ค
เรือขนาดใหญ่แล่นไปบนผืนน้ำ มันคือ อาร์คาเดีย ชายผิวดำกำลังยืนอยู่บริเวณกาบเรือ เหม่อมองไปเรื่อยๆ ขณะที่แคลร์เดินมาหาเขา ทั้งสองแบ่งปันรอยยิ้มให้แก่กันและจากนั้นเขาก็พูดกับเธอ
“ส่งมือมาให้ผมและปิดตาของคุณ” สาวผมแดงก็ทำตาม เขาพาเธอเดินไปยังรั้วกั้นของเรือและเขาหยุดอยู่ด้านหลังของเธอ
“ตอนนี้ก็ก้าวขึ้นไปนะครับ” แคลร์ยืนอยู่บนส่วนหน้าสุดของหัวเรือโดยมีลูเทอร์โอบรอบตัวเธอเอาไว้ ป้องกันไม่ให้เธอร่วงหล่น สายลมทะเลปะทะเส้นผมสีแดงของแคลร์ พามันให้พัดพลิ้วปลิวไปราวกับคลื่นใต้น้ำ ต่อมาชายผิวดำก็ยกแขนทั้งสองของเธอขึ้นพร้อมกับของเขา
“ลืมตาสิครับ” ลูเทอร์ปล่อยแขนสองข้างของหญิงสาวและวางแขนของเขาแนบชิดกับเอวของเธอ
แคลร์ทำตามอย่างที่ลูเทอร์บอกและเงยหน้าของเธอขึ้นรับลมที่กำลังพัดผ่านมา
“ฉันบินได้ ลูเทอร์....”
อลิซทำให้แน่ใจว่า ปืนสั้นของเธอได้ถูกเติมกระสุนแล้วเป็นที่เรียบร้อยทั้งสองระบอก จากนั้นก็นำมันเก็บกลับเข้าซอง
ลูเทอร์กับแคลร์กำลังพูดคุยกันอยู่ตรงจุดจ่ายเงิน ทั้งสองอยู่ในชุดพนักงานเก็บเงินของห้างสรรพสินค้า สาวผมแดงกำลังติดอยู่ในเรื่องเล่าผจญภัยของลูเทอร์ “พวกเขาให้โอกาสผมนำทางพวกเขา สอนพวกเขา เพื่อจะเป็นกษัตริย์---” เรื่องเล่าของชายผิวดำถูกขัดจังหวะอย่างกะทันหันจากผู้หญิงติดเชื้อผมยาวสีขาว ตัวประหลาดเตรียมที่จะจู่โจมแคลร์ แต่ลูเทอร์กระจกตู้ด้านหลังของเขาและเอาไรเฟิลออกมา ระหว่างที่เขาโหลดกระสุน ผีดิบนั่นก็ยกลิ้นชักเก็บเงินหนักขึ้นเพื่อจะจัดการกับสาวผมแดงด้านล่าง แคลร์ส่งเสียงร้องก่อนที่ลูเทอร์จะยิงกระสุนจากปืนหนักนั่นไปที่มือทั้งสองข้างของปีศาจร้ายและพูดขึ้น
“คุณผู้หญิง ผมเกรงว่าจะบอกให้คุณไปจากที่นี่นะครับ”
“แกเป็นใครกันวะ” ผู้หญิงประหลาดถามเขาขึ้นมา
“ลูเทอร์ เป็นพนักงานสโตร์” เขาโต้ตอบและทำลายผู้หญิงคนนั้นในทันใด
แคลร์รีบรุดเข้าไปสู่อ้อมแขนแห่งการปกป้องของลูเทอร์ ตัวสั่นเท่าอย่างเห็นได้ชัด และชายหนุ่มก็คิดรำพึงกับตัวเอง แน่นอน ฉันไม่สามารถจะอยู่แต่ในอดีตที่ผ่านไปแล้ว ที่ฉันไม่สามารถจะเป็นกษัตริย์ได้ แต่ในทางของฉัน—ฉันเป็นผู้ยิ่งใหญ่
ลูเทอร์จับสาวผมแดงหมุนและเอนตัวเธอลง แคลร์อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างเหมาะเจาะ ขณะที่เขาเคลื่อนตัวเข้าไปจุมพิตเธออย่างอ่อนโยน “ยินดีให้กับพระราชาหน่อยสิที่รัก”
สุดท้าย.. อลิซก็เช็คใบมีดของดาบสั้นระหว่างเพลิดเพลินไปกับวิธีการต่างๆที่เธอจะใช้ในการ “จัดการ”กับลูเทอร์ เมื่อเธอพอใจกับความคมที่จะสามารถปลิดเส้นผมได้ของมันในการเคลื่อนไหวที่ไหลไปดั่งสายน้ำด้วยมือที่ช่ำชองของเธอ เธอก็หมุนดาบและเก็บมันเข้าฝัก
ฉันจะทำแบบนั้นจริงๆเหรอ- จริงๆเหรอเนี่ย..? สาวผมน้ำตาลถามตัวเอง
“อ่า.....” เธอพึมพำเสียงดังออกมา ลูเทอร์เป็นอะไรหลายๆอย่าง “น่ารำคาญ” และ “ทำให้รู้สึกอึดอัด” เหมือนจะเป็นที่สุดในบันทึกของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถจะฆ่าเขาเพราะเรื่องแบบนี้ได้
ทันใดนั้น แคลร์ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของเธอและพูด “เธอรู้มั้ย พูดกับตัวเองเนี่ย เป็นสัญญาณแรกที่บอกว่า..เธอกำลังจะกลายเป็นบ้า” อลิซพลิกตัวกลับมา เห็นสาวผมแดงยืนพิงทางเข้าประตูห้องของเธอ พร้อมรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์บนริมฝีปาก อลิซก็อยากจะยิ้มเหมือนกัน แต่เธอก็เก็บมันไว้
“แล้วนาทีนั้นล่ะ เสี่ยงชีวิตของเราสองคน เพื่อที่ฉันจะได้เล่นบทฮีโร่” สาวตัวสูงกว่าเอ่ยขึ้นอย่างไม่มั่นใจ เธอห่วงแต่เพียงว่า สาวผมแดงยังคงไม่พอใจกับเธอในเรื่องนี้
“อลิซ.. ฉัน---”
สาวผมน้ำตาลได้ยินน้ำเสียงเสียใจของแคลร์ เธอจึงตัดคำพูดของหล่อนออก “ไม่ – ฉันขอโทษ เธอถูกแล้ว โลกใบนี้มันอันตรายมากพอ เมื่อไม่มีฉันออกไปและดูแลมัน ฉันเห็นมันและฉันแค่อยากจะป้องกันทุกอย่าง ฉันลืมเรื่องเธอ – ลืมเรื่องนั้น... ฉันอาจจะไม่รอดจากเครื่องบินตก”
“ความเมตตาไม่ใช่สิ่งเลวร้าย”
“มันเป็น เมื่อเอาชีวิตของเธอเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย”
แคลร์นำตัวเองออกจากผนังที่เธอพิงอยู่และเดินเข้าไปหาสาวตัวสูงกว่า เธอกล่าวอย่างจริงใจ
“ชีวิตของเธอด้วย” เธอยืนยันคำพูดตัวเองด้วยสายตาที่มองลึกเข้าไปในดวงตาของคู่หู อลิซไม่ได้คิดอยากยอมแพ้แต่เธอจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไรกับใบหน้าสวยๆแบบนี้ เธอเป็นทาสของแคลร์ตลอดกาล และนั่นก็ทำให้สาวผมสีน้ำตาลพยักหน้ารับในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
อลิซคิดย้อนไปถึงเวลาที่เธอกำลังลงจอดและเกลียดที่จะรู้ความจริงในเวลานั้น แต่ก็จำเป็นต้องทำ “ถ้ามันไม่ใช่เพราะลูเทอร์” เธอกลืนน้ำลายเล็กน้อย ก่อนเอ่ยต่อ “เราสองคนก็คงตายกันไปแล้วตอนนี้”
แคลร์ไม่อยากได้ยินคำขอโทษของอลิซ มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเธอ สาวผมสีน้ำตาลคนนี้ทรมานมามากพอแล้ว “อา..อย่าให้ฉันเริ่มพูดถึงเขาได้มั้ย ผู้ชายคนนั้นมันปัญญานิ่ม มีแต่กล้ามเนื้อ ไม่มีสมอง”
แม้ว่า อลิซจะยินดีที่ได้ฟังคำแบบนี้จากสาวผมแดง เธอก็คิดไปถึงคำพูดของคริสที่พูดแบบนี้เหมือนกัน แต่เธอก็ไม่ได้ออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะกับที่ว่า..” อลิซคว้าจับบ่าแคลร์ทันใดและทำท่าทางเหมือนสาววัยรุ่นลุ่มหลงในความรัก “ลูเทอร์ เวส ! การ์ดดาวเด่นของ แอล เอ ลีเกอร์ !”
“เขาเล่นเก่งนี่ ฉันก็แค่ชอบตรงนั้น” สาวผมแดงพูดอย่างขำๆพร้อมยักไหล่ จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “แล้ว... เหตุผลอะไรที่เธอทำอะไรแบบเมื่อกี้ ฉันหมายถึงว่า ควงดาบมันนั้นมันก็เท่ดี.. แต่......”
“เอ่อคือ...” แก้มขาวๆของสาวผมสีน้ำตาลเปลี่ยนสีเป็นแดงระเรื่อเมื่อถูกมองอย่างจับจ้อง เธอจึงต้องกระแอมเบาๆ “ฉันก็แค่กำลังรวบรวมของที่เป็นของฉัน ที่ฉันคิดว่า ฉันอาจจะสูญเสียมันไปอยู่ในมือของคนอื่น”
“แล้วมันคืออะไรล่ะ” แคลร์เลิกคิ้วขึ้นกับคำถามนี้
“เธอ..”
แคลร์ยิ้มให้กับคำตอบที่จริงจังของสาวผมน้ำตาล มันหวานเหลือใจ กับการเข้าใจผิดกันในเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ เธอนำมือสองข้างของอลิซขึ้นมาและจูบมันเบาๆ จากนั้นก็นำมันมาวางไว้บนเอวของตัวเอง
สาวผมน้ำตาลรู้ทันทีเลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป และตอนนี้เธอก็รู้สึกดีใจที่ตำแหน่งห้องของตัวเองอยู่ห่างจากของคนอื่น ทั้งสองปลดเปลื้องเสื้อผ้าและรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เมื่อเสื้อผ้าทุกชิ้นถูกนำออกไป แคลร์ก็แสดงให้อีกคนได้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่หล่อนสูญเสียไป และแม้ว่าทั้งสองจะอยู่ภายใต้แสงเรืองรองของคบไฟ ไฟแห่งปรารถนาก็ยังลุกโชนปลุกคลุมพวกเธอ
เมื่อพวกเธอทั้งสองได้ร่วมรักกันเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง อลิซก็นำนิ้วของเธอออกจากแคลร์และไล้มันไปตามต้นแขนของหล่อน เคลื่อนไหวราวกับคลื่นในทะเล ระหว่างที่ทั้งเธอและอีกคนจมดิ่งลงสู่ที่นอนที่เหมาะเจาะเช่นนี้ มันเป็นนาทีที่เหมือนปกติธรรมดาแต่สามารถขับไล่สิ่งรอบๆกายให้หายไป
ที่ที่อลิซสามารถคิดได้ว่า เธอเป็นทั้งคนดีและคนบ้าได้อย่างสมบูรณ์
To be continue…
2 ความคิดเห็น:
โอ้.. ไม่ได้อ่านเรื่องนี้นานเลยนะเนี่ย.. อิอิ..
อลิซเป็นบ้าไปแล้วอ่ะ นั่งคิดคนเดียวอยู่ได้เป็นวรรคเป็นเวร คนเราถ้ามันฟุ้งซ่านก็จะเป็นแบบนี้ล่ะนะ ทะเลาะกันด้วยนี่นาแคลร์กับอลิซน่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเอาคำพูดบางคำของคนอื่นเค้ามาคิดเป็นตุเป็นตะขนาดนี้เน้อ.. ฮ่าๆๆๆ.. ถ้าแคลร์ไม่มา อลิซคงควงดาบไปเฉาะกบาลไอ่ลูเทอร์แล้วสินะ.. เหวอ~~ สยอง.. ฮ่าๆๆๆ (แต่ไปก็ดีนะ หมั่นไส้มันน่ะ)
และแล้วในที่สุดก็ปรับความเข้าใจกันได้เน้อ สองสาวของเรา เนี่ย พออยู่ในอารมณ์ปกติก็คุยกันได้รู้เรื่องเนาะ สุดท้ายก็ง้อกันแบบ.........อ่ะ.. อิอิ.. ชอบ~~~
ขอบคุณนะคะไรเตอร์ น่ารักปนฮา แถมบ้าด้วยอีกหน่อยกับ น.ส. อลิซ อ่ะ.. ฮ่าๆๆๆ.. นั่งบ้าอยู่คนเดียว..
สนุกมากเลยค่ะ แปลออกมาได้อรรถรสมากค่ะ อ่านไปอินกับตัวละครไป
แสดงความคิดเห็น