2554-02-26

Human Again Ch.20-Resident Evil Fiction.[TH]


Human Again.

Rated: M

English - Horror/Romance

Alice & Claire R.

By : andella07/FanFiction.net

Translated to Thai : Anhy


Chapter 20: Signs of Insanity

ห้องขังที่ลูเทอร์ให้อลิซใช้นอนอยู่ห่างจากของทุกๆคน มันทำให้อลิซโมโหเมื่อรู้ว่าห้องของแคลร์อยู่ทางขวาใกล้กับห้องของเขาในอีกด้านหนึ่งของชั้นนี้ ..โอ้ไม่นะ..มันจะต้องไม่เกิดขึ้น สาวผมน้ำตาลคิดในใจ เธอควรจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วต่อจากนี้.. แล้วบางอย่างก็กำลังจะแย่ลงไป..

อลิซเก็บปืนทั้งหมดของเธอ ยกเว้น สมิธ แอนด์ เวสสัน แต่จากนั้นก็เริ่มคิดไปถึงเรื่องที่ลูเทอร์กับแคลร์อาจจะกำลังทำตอนนี้...

แสงไฟส่องสว่างรำไรในห้องขังของแคลร์ มือสวยงามทั้งสองของเธอกำลังเกาะกุมอยู่กับดินเหนียวขณะที่เธอนั่งอยู่กับแป้นสำหรับปั้นดินเผา เธอกำลังบังคับดิน ปั้นให้เป็นรูปทรงสูงขึ้นตอนที่ลูเทอร์เข้ามาด้านหลังในแบบวิญญาณ เขาค่อยๆวางมือทั้งสองลงทับกับมือของเธอ ดินเหนียวที่เปียกอยู่ก็บิดเบี้ยวเพราะน้ำหนักจากมือของเขา จากนั้นแคลร์ก็หันไปมองหน้าเขา ขณะที่เพลง “Unchained Melody” ถูกบรรเลงขึ้นเป็นฉากหลัง ทันใดนั้น เขาก็พาตัวเองเขามาใกล้และ.....

สาวผมน้ำตาลนำลูกกระสุนสำรองของปืนกระบอกอื่นของเธอขึ้นมาเช็ค

เรือขนาดใหญ่แล่นไปบนผืนน้ำ มันคือ อาร์คาเดีย ชายผิวดำกำลังยืนอยู่บริเวณกาบเรือ เหม่อมองไปเรื่อยๆ ขณะที่แคลร์เดินมาหาเขา ทั้งสองแบ่งปันรอยยิ้มให้แก่กันและจากนั้นเขาก็พูดกับเธอ

ส่งมือมาให้ผมและปิดตาของคุณ สาวผมแดงก็ทำตาม เขาพาเธอเดินไปยังรั้วกั้นของเรือและเขาหยุดอยู่ด้านหลังของเธอ

ตอนนี้ก็ก้าวขึ้นไปนะครับ แคลร์ยืนอยู่บนส่วนหน้าสุดของหัวเรือโดยมีลูเทอร์โอบรอบตัวเธอเอาไว้ ป้องกันไม่ให้เธอร่วงหล่น สายลมทะเลปะทะเส้นผมสีแดงของแคลร์ พามันให้พัดพลิ้วปลิวไปราวกับคลื่นใต้น้ำ ต่อมาชายผิวดำก็ยกแขนทั้งสองของเธอขึ้นพร้อมกับของเขา

ลืมตาสิครับ ลูเทอร์ปล่อยแขนสองข้างของหญิงสาวและวางแขนของเขาแนบชิดกับเอวของเธอ

แคลร์ทำตามอย่างที่ลูเทอร์บอกและเงยหน้าของเธอขึ้นรับลมที่กำลังพัดผ่านมา

ฉันบินได้ ลูเทอร์....

อลิซทำให้แน่ใจว่า ปืนสั้นของเธอได้ถูกเติมกระสุนแล้วเป็นที่เรียบร้อยทั้งสองระบอก จากนั้นก็นำมันเก็บกลับเข้าซอง

ลูเทอร์กับแคลร์กำลังพูดคุยกันอยู่ตรงจุดจ่ายเงิน ทั้งสองอยู่ในชุดพนักงานเก็บเงินของห้างสรรพสินค้า สาวผมแดงกำลังติดอยู่ในเรื่องเล่าผจญภัยของลูเทอร์ พวกเขาให้โอกาสผมนำทางพวกเขา สอนพวกเขา เพื่อจะเป็นกษัตริย์--- เรื่องเล่าของชายผิวดำถูกขัดจังหวะอย่างกะทันหันจากผู้หญิงติดเชื้อผมยาวสีขาว ตัวประหลาดเตรียมที่จะจู่โจมแคลร์ แต่ลูเทอร์กระจกตู้ด้านหลังของเขาและเอาไรเฟิลออกมา ระหว่างที่เขาโหลดกระสุน ผีดิบนั่นก็ยกลิ้นชักเก็บเงินหนักขึ้นเพื่อจะจัดการกับสาวผมแดงด้านล่าง แคลร์ส่งเสียงร้องก่อนที่ลูเทอร์จะยิงกระสุนจากปืนหนักนั่นไปที่มือทั้งสองข้างของปีศาจร้ายและพูดขึ้น

คุณผู้หญิง ผมเกรงว่าจะบอกให้คุณไปจากที่นี่นะครับ

แกเป็นใครกันวะ ผู้หญิงประหลาดถามเขาขึ้นมา

ลูเทอร์ เป็นพนักงานสโตร์ เขาโต้ตอบและทำลายผู้หญิงคนนั้นในทันใด

แคลร์รีบรุดเข้าไปสู่อ้อมแขนแห่งการปกป้องของลูเทอร์ ตัวสั่นเท่าอย่างเห็นได้ชัด และชายหนุ่มก็คิดรำพึงกับตัวเอง แน่นอน ฉันไม่สามารถจะอยู่แต่ในอดีตที่ผ่านไปแล้ว ที่ฉันไม่สามารถจะเป็นกษัตริย์ได้ แต่ในทางของฉันฉันเป็นผู้ยิ่งใหญ่

ลูเทอร์จับสาวผมแดงหมุนและเอนตัวเธอลง แคลร์อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างเหมาะเจาะ ขณะที่เขาเคลื่อนตัวเข้าไปจุมพิตเธออย่างอ่อนโยน ยินดีให้กับพระราชาหน่อยสิที่รัก

สุดท้าย.. อลิซก็เช็คใบมีดของดาบสั้นระหว่างเพลิดเพลินไปกับวิธีการต่างๆที่เธอจะใช้ในการ จัดการกับลูเทอร์ เมื่อเธอพอใจกับความคมที่จะสามารถปลิดเส้นผมได้ของมันในการเคลื่อนไหวที่ไหลไปดั่งสายน้ำด้วยมือที่ช่ำชองของเธอ เธอก็หมุนดาบและเก็บมันเข้าฝัก

ฉันจะทำแบบนั้นจริงๆเหรอ- จริงๆเหรอเนี่ย..? สาวผมน้ำตาลถามตัวเอง

อ่า..... เธอพึมพำเสียงดังออกมา ลูเทอร์เป็นอะไรหลายๆอย่าง น่ารำคาญ และ ทำให้รู้สึกอึดอัด เหมือนจะเป็นที่สุดในบันทึกของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถจะฆ่าเขาเพราะเรื่องแบบนี้ได้

ทันใดนั้น แคลร์ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของเธอและพูด เธอรู้มั้ย พูดกับตัวเองเนี่ย เป็นสัญญาณแรกที่บอกว่า..เธอกำลังจะกลายเป็นบ้า อลิซพลิกตัวกลับมา เห็นสาวผมแดงยืนพิงทางเข้าประตูห้องของเธอ พร้อมรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์บนริมฝีปาก อลิซก็อยากจะยิ้มเหมือนกัน แต่เธอก็เก็บมันไว้

แล้วนาทีนั้นล่ะ เสี่ยงชีวิตของเราสองคน เพื่อที่ฉันจะได้เล่นบทฮีโร่ สาวตัวสูงกว่าเอ่ยขึ้นอย่างไม่มั่นใจ เธอห่วงแต่เพียงว่า สาวผมแดงยังคงไม่พอใจกับเธอในเรื่องนี้

อลิซ.. ฉัน---

สาวผมน้ำตาลได้ยินน้ำเสียงเสียใจของแคลร์ เธอจึงตัดคำพูดของหล่อนออก ไม่ ฉันขอโทษ เธอถูกแล้ว โลกใบนี้มันอันตรายมากพอ เมื่อไม่มีฉันออกไปและดูแลมัน ฉันเห็นมันและฉันแค่อยากจะป้องกันทุกอย่าง ฉันลืมเรื่องเธอ ลืมเรื่องนั้น... ฉันอาจจะไม่รอดจากเครื่องบินตก

ความเมตตาไม่ใช่สิ่งเลวร้าย

มันเป็น เมื่อเอาชีวิตของเธอเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย

แคลร์นำตัวเองออกจากผนังที่เธอพิงอยู่และเดินเข้าไปหาสาวตัวสูงกว่า เธอกล่าวอย่างจริงใจ

ชีวิตของเธอด้วย เธอยืนยันคำพูดตัวเองด้วยสายตาที่มองลึกเข้าไปในดวงตาของคู่หู อลิซไม่ได้คิดอยากยอมแพ้แต่เธอจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไรกับใบหน้าสวยๆแบบนี้ เธอเป็นทาสของแคลร์ตลอดกาล และนั่นก็ทำให้สาวผมสีน้ำตาลพยักหน้ารับในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

อลิซคิดย้อนไปถึงเวลาที่เธอกำลังลงจอดและเกลียดที่จะรู้ความจริงในเวลานั้น แต่ก็จำเป็นต้องทำ ถ้ามันไม่ใช่เพราะลูเทอร์ เธอกลืนน้ำลายเล็กน้อย ก่อนเอ่ยต่อ เราสองคนก็คงตายกันไปแล้วตอนนี้

แคลร์ไม่อยากได้ยินคำขอโทษของอลิซ มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเธอ สาวผมสีน้ำตาลคนนี้ทรมานมามากพอแล้ว อา..อย่าให้ฉันเริ่มพูดถึงเขาได้มั้ย ผู้ชายคนนั้นมันปัญญานิ่ม มีแต่กล้ามเนื้อ ไม่มีสมอง

แม้ว่า อลิซจะยินดีที่ได้ฟังคำแบบนี้จากสาวผมแดง เธอก็คิดไปถึงคำพูดของคริสที่พูดแบบนี้เหมือนกัน แต่เธอก็ไม่ได้ออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะกับที่ว่า.. อลิซคว้าจับบ่าแคลร์ทันใดและทำท่าทางเหมือนสาววัยรุ่นลุ่มหลงในความรัก ลูเทอร์ เวส ! การ์ดดาวเด่นของ แอล เอ ลีเกอร์ !”

เขาเล่นเก่งนี่ ฉันก็แค่ชอบตรงนั้น สาวผมแดงพูดอย่างขำๆพร้อมยักไหล่ จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา แล้ว... เหตุผลอะไรที่เธอทำอะไรแบบเมื่อกี้ ฉันหมายถึงว่า ควงดาบมันนั้นมันก็เท่ดี.. แต่......

เอ่อคือ... แก้มขาวๆของสาวผมสีน้ำตาลเปลี่ยนสีเป็นแดงระเรื่อเมื่อถูกมองอย่างจับจ้อง เธอจึงต้องกระแอมเบาๆ ฉันก็แค่กำลังรวบรวมของที่เป็นของฉัน ที่ฉันคิดว่า ฉันอาจจะสูญเสียมันไปอยู่ในมือของคนอื่น

แล้วมันคืออะไรล่ะ แคลร์เลิกคิ้วขึ้นกับคำถามนี้

เธอ..

แคลร์ยิ้มให้กับคำตอบที่จริงจังของสาวผมน้ำตาล มันหวานเหลือใจ กับการเข้าใจผิดกันในเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ เธอนำมือสองข้างของอลิซขึ้นมาและจูบมันเบาๆ จากนั้นก็นำมันมาวางไว้บนเอวของตัวเอง

สาวผมน้ำตาลรู้ทันทีเลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป และตอนนี้เธอก็รู้สึกดีใจที่ตำแหน่งห้องของตัวเองอยู่ห่างจากของคนอื่น ทั้งสองปลดเปลื้องเสื้อผ้าและรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เมื่อเสื้อผ้าทุกชิ้นถูกนำออกไป แคลร์ก็แสดงให้อีกคนได้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่หล่อนสูญเสียไป และแม้ว่าทั้งสองจะอยู่ภายใต้แสงเรืองรองของคบไฟ ไฟแห่งปรารถนาก็ยังลุกโชนปลุกคลุมพวกเธอ

เมื่อพวกเธอทั้งสองได้ร่วมรักกันเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง อลิซก็นำนิ้วของเธอออกจากแคลร์และไล้มันไปตามต้นแขนของหล่อน เคลื่อนไหวราวกับคลื่นในทะเล ระหว่างที่ทั้งเธอและอีกคนจมดิ่งลงสู่ที่นอนที่เหมาะเจาะเช่นนี้ มันเป็นนาทีที่เหมือนปกติธรรมดาแต่สามารถขับไล่สิ่งรอบๆกายให้หายไป

ที่ที่อลิซสามารถคิดได้ว่า เธอเป็นทั้งคนดีและคนบ้าได้อย่างสมบูรณ์

To be continue…

2554-02-25

The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.23


The Phantom of the night [Sisters Side Story] Ch.23

Pairing : Anh x Shizuru x Alyssa

Rate : M

Genre : Drama - Romance

By : Anhy


The Dark side of mine. - 8 : Anh’s POV

ฉันไม่คิดอยากฆ่าตัวตายอีกต่อไป ถึงจะรู้สึกเศร้าอยู่ในใจไม่หายเลยก็ตาม ฉันพยายามลืมให้ได้ว่า ฉันรักเค้ามากแค่ไหนในเวลานี้ที่ฉันจำเป็นต้องเหลือหัวใจตัวเองเอาไว้เพื่อคนอื่นบ้าง อย่างน้อยก็เพื่อลูกของฉัน และ..แม่ของเค้า

ฉันเดินอยู่ในป่าตามลำพังกับนกฟีนิกส์ที่ฉันใช้มันเพื่อนำทาง ไปยังที่ต่างๆที่ฉันแทบไม่เคยไป ในใจของฉันยังมีความหวังอยู่เสมอ หวังว่าจะเจอลูกคนใดคนหนึ่งของฉัน ที่ฉันคาดว่า ฉันน่าจะมีแล้ว..สองคน ซึ่งหากเป็นแบบนั้น ลูกคนแรกของฉัน ก็คงจะต้องโตเป็นสาวมากแล้วแน่ๆ เพราะหากเค้ามีอลิสซ่าเป็นแม่ล่ะก็ เค้าจะต้องมีอายุเกือบร้อยปี นับจากครั้งที่ฉันปล้ำน้อง และใช่..ลูกจะต้องมีอมตะเหมือนฉันกับแม่ของเค้า แต่ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่า อลิสซ่ามีลูกกับฉันจริงๆ เพราะป่านนี้แล้ว ฉันยังไม่เจอน้องคนเล็กของฉันเลย อลิสซ่าหลบหน้าฉันได้ตลอดเวลา จนฉันแทบจะบ้าตาย

แต่ในใจก็ยังคิดไปว่า ถ้าไม่เจอลูกของฉันกับอลิสซ่าแล้ว ฉันก็น่าจะเจออีกคน เพราะเค้าคงยังไม่โตมากนัก สำหรับเวลาแค่ปีเดียวแบบนี้ คิดไปเรื่อยๆพร้อมกับที่เดินไปเรื่อยๆในป่า ฉันก็กลับไปสะดุดตากับอะไรอย่างหนึ่งเข้าให้ ฉันมองหามันเพราะฉันได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆที่เหยียบไปตามใบหญ้าแห้งบนผืนดินของป่า และฉันก็ดีใจอย่างหาคำอธิบายไม่ได้ เมื่อฉันเห็นมันอย่างชัดเจน..

ยูนิคอร์น...

ยูนิคอร์น.. มันบอกแทนทุกอย่างได้ว่า ฉันได้เจอเธอแล้ว แม่ของลูกฉัน โอดินรักไมจังมาก แม้ว่าเธอจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อีกต่อไป เห็นได้จากที่มันยังสามารถอยู่ใกล้ฉันที่เป็นปีศาจได้ แม้ตามธรรมชาติของมัน มันก็น่าจะเกลียดฉัน หรือขยะแขยง แต่เพราะไมจังขอ ในคราวนั้น มันถึงให้ฉันขึ้นขี่หลังมันได้ ฉันยังจำได้ติดตาตอนที่มันวิ่งมาหาฉันและส่งเสียงสัญญาณบอกตามประสาม้าของมัน แต่แล้วตอนนี้ล่ะ มันมาหาฉันทำไม ต้องมีอะไรแน่ๆ แล้วความสงสัยของฉันก็อยู่กับฉันไม่ได้นาน หลังจากที่คุยกับมันได้สักพัก เพราะเด็กคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหามัน เค้ามาหาโอดิน ยูนิคอร์นตัวนี้ที่เป็นของไมจัง ถ้าอย่างนั้น เค้าจะเป็นใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ลูกของเธอ

ลูกของฉันด้วยใช่มั้ย...

ฉันดีใจมากที่เห็นหน้าลูกได้ซะที เค้ามีทุกอย่างเหมือนฉัน ไม่ว่าจะสีผิวหรือสีผม หรือกระทั่งใบหน้า เค้าคล้ายกับว่า เป็นตัวฉันในตอนเด็ก เราสองคนแตกต่างกัน แค่สีตาเท่านั้น ใช่..ลูกของฉันมีสีตาเหมือนเธอ แม่ของเค้า..

แต่ถึงจะดีใจมากแค่ไหน ฉันก็ยังไม่สามารถจะมั่นใจอะไรได้ ฉันต้องรู้ให้แน่ใจก่อนจะสรุปได้ว่า เด็กคนนี้เป็นลูกฉัน ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากอะไร เมื่อเจ้าหนูน้อยผมสีเงินคนนี้เดินมาคุยกับฉันเอง มาให้โอกาสฉันถึงที่ และยืนยันกับคำถามในใจของฉันให้กระจ่างใจ เพราะเค้าบอกกับฉันว่า แม่ของเค้าชื่อ..ไม

ฉันต้องเก็บความดีใจของฉันไว้ก่อนตอนนี้ เวลาที่เด็กน้อยคนนี้ยังไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไรกับเค้า ฉันไม่กล้าบอกเค้าเองว่า ฉันเป็นใคร ฉันกลัวการถูกปฏิเสธ ฉันกลัวลูกจะงง ฉันคิดไม่ออกว่า จะเริ่มต้นยังไง กับการที่จะบอกว่า ฉันเป็นปะป๊าของเค้า เค้าคงจะต้องงงแน่ๆ เพราะว่าดูยังไง ฉันก็เป็นผู้หญิง ฉันจะมีลูกโดยเป็นพ่อเด็กแบบนี้ มันจะดูผิดปกติไปมั้ย ฉันคงต้องรอให้แม่เค้าเป็นคนอธิบายเรื่องนี้ให้เค้าฟัง ถึงฉันจะอยากกอดเค้ามากเหลือเกิน

ปะป๊าดีใจมากจริงๆที่วันนี้ได้เจอลูกเสียที..ไอจัง..

ลูกของฉัน เค้าดูไม่กลัวอะไรฉันเลยสักนิด ถึงฉันตอนนี้จะยังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเค้า เราสองคนคุยกันเหมือนกับว่า รู้จักกันมานานมากแล้ว เค้าดูไว้ใจฉัน ถึงขนาดยอมให้ฉันจับมือ ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนฉันได้เจอส่วนหนึ่งของตัวของตัวเองจากเด็กคนนี้ ใช่สิ..เพราะเค้าเป็นลูกฉัน ฉันเป็นคนสร้างเค้าขึ้นมา ฉันมั่นใจ ฉันไม่ได้คิดไปเอง ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้มีได้ง่ายๆกับใคร หากไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน และเป็นเค้านั่นเอง เป็นไอจังที่พาฉันไปหาแม่ของเค้า บนบ้านเนินเขาที่ฉันจำได้เลาๆว่า ฉันเคยเห็นมัน แต่มันได้หายไปจากความคิดฉันมานานมากแล้วนี่นา หรือว่า..บ้านหลังนี้รวมถึงคนข้างในจะถูกซ่อนไว้ด้วยพลังวิเศษของใครสักคน และถ้าฉันไม่ได้คิดผิดละก็ ฉันก็รู้แล้วว่า..เป็นใคร ...ชิซึรุ...

ฉันผิดหวังเหมือนกันที่รู้ความจริงว่า ตลอดเวลาน้องของฉันเป็นคนซ่อนลูกของฉันไว้ แม่ของลูกฉันด้วย แต่คิดไปคิดมา ก็ได้คำตอบว่า อาจจะเป็นเพราะท่านพ่อสั่งให้เค้าทำ นี่คงเป็นบทลงโทษของฉันกับความผิดครั้งนั้นที่ฉันทำไว้ แต่ฉันก็ไม่ได้นึกเสียใจที่ได้ทำมันไปแบบนั้น

ฉันรู้ดี ฉันผิดที่ยังลืมเรื่องนี้ไม่ได้ ลืมไม่ได้ว่า น้องเป็นของฉัน และฉันเป็นของเค้า เราเป็นของกันและกัน ฉันยังจดจำทุกอย่างระหว่างเราได้ ความรู้สึกทุกครั้งที่ได้จูบเค้า กอดและพลอดรักกัน ความรู้สึกระหว่างการมีเซ็กซ์กับชิซึรุ กลิ่นหอมจากตัวเค้า รสชาติของหยาดเลือดในตัวเค้า ฉันคิดถึงเค้าอยู่ ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในตัวเค้า เวลาที่บางส่วนของตัวฉันอยู่ข้างในตัวชิซึรุ ร่างกายที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องล่างตัวฉัน ตอบสนองในทุกอย่างที่ฉันทำ เสียงครางที่หวานจับใจ หรือจะเสียงร้องปานใจจะขาด ในเวลาที่เค้าเสร็จสมกับอารมณ์ใคร่ แม้กระทั่ง ความเจ็บที่ถูกเค้าฝังเขี้ยวลงกับซอกคอ หรือจิกเล็บคมๆไว้ที่แผ่นหลังของฉัน รอยข่วนที่เกิดขึ้นตามตัวเพราะการเสียความสามารถในการควบคุมตัวเองของเค้า ฉันคิดถึงมัน แต่ฉันคงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว ฉันไม่สามารถจะทำแบบนั้นกับชิซึรุได้อีก เพราะเราไม่ได้รักกัน เค้าไม่ได้รักฉันแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว ถึงฉันจะยังรู้สึกกับเค้าเหมือนเดิมอยู่ แต่มันก็เท่านั้น ช่างมันแล้วกัน เพราะตอนนี้..ฉันเองก็มีคนอื่นที่ต้องดูแล อีกสองคน

แต่..ฉันจะห้ามใจได้ยังไงไม่ให้เป็นแบบนี้.. พี่คิดถึงเธอเหลือเกิน..สุดที่รัก..

ฉันยอมรับว่า ฉันไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ ที่รักแม่ของลูกน้อยเกินไป ฉันรักไมจังไม่ได้เท่าที่ฉันรักน้องสาวตัวเอง แต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฉันรักลูกของฉันที่เกิดมาจากเธอ ตอนนี้ฉันกำลังถูกดวงตาสีดอกลาเวนเดอร์มองมาหา เจ้าของมันดูตกใจที่เห็นหน้าฉัน แต่มันก็ไม่นาน เธอก็ร้องไห้ออกมา ฉันไม่รู้ว่า เธอเสียใจหรือดีใจกันแน่ที่เห็นหน้าฉัน หรือเธอจะเกลียดฉันไปแล้ว แทนที่เธอจะรักฉันเหมือนเมื่อก่อน แต่เธอให้คำตอบกับฉันแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเธอเรียกลูกสาวของเธอไปหา และบอกกับเค้าว่า ให้เรียกฉันว่า ปะป๊า

และมันก็เป็นไปตามคาด เด็กน้อยผมเงินหันกลับมามองหน้าฉันด้วยสีหน้าที่เรียกได้ว่า เกินกว่าคำว่าตกใจ ดวงตาคู่สวยสีเหมือนแม่ของเค้า กำลังอยู่ในอาการสับสนอย่างหนัก เค้าหันกลับไปถามแม่ของเค้าอีกครั้งด้วยท่าทางไม่เชื่อ ความรู้สึกไว้ใจเมื่อครู่ที่มีให้ฉัน เหมือนถูกทำให้หายไปในทันที จนกระทั่งฉันทนกับมันไม่ได้ที่ต้องเห็นลูกมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ เหมือนฉันเป็นตัวประหลาดสำหรับเค้า ฉันพยายามรวบรวมความกล้าเดินไปหาพวกเค้าสองแม่ลูก คุกเข่าต่อหน้าเธอ บอกขอโทษเธอ ขอโทษไมจังในสิ่งที่ฉันทำทั้งหมด เธอร้องไห้ไม่หยุดระหว่างกอดลูกของเธอไว้แนบอก แต่ลูกสาวฉัน ไอจัง เค้ายังนิ่งอยู่และจ้องหน้าฉันไม่ละสายตา ฉันไม่รู้ว่าเค้ากำลังคิดอะไร แต่ในที่สุดก็รู้ เมื่อได้ยินเสียงไมจังเอ่ยบอกอะไรบางอย่างกับลูก เธอพยายามอธิบายให้เค้าฟังอีกครั้ง จากนั้นก็หันมาหาฉัน แล้วบอกให้ฉันขอลูกเอง ให้ฉันขอเค้าว่า ฉันจะรับเค้าไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน เธอทำเหมือนการตัดสินใจทุกอย่างเกี่ยวกับฉันตอนนี้ ขึ้นอยู่กับลูกเท่านั้น ซึ่งฉันก็ต้องทำตาม ฉันออกปากขอลูกให้ลูกมาอยู่กับฉัน มาเป็นครอบครัว แล้วต่อมาก็ได้แต่นั่งลุ้นด้วยหัวใจสั่นระทึก

ฉันนึกไม่ถึงว่า เรื่องมันจะง่ายมากขนาดนี้ ที่เห็นลูกพยักหน้าให้ แล้วฉันก็เห็นมันจนได้ ลูกร้องไห้ซบอกฉัน ฉันกอดเค้าทั้งน้ำตาเหมือนกัน มันยิ่งกว่าดีใจ ฉันไม่เข้าใจหรอกว่าทำไม ฉันถึงรู้สึกแบบนี้ เท่าที่รู้ก็คือ แค่ฉันเห็นหน้าลูกเท่านั้น ฉันก็รักเค้าแล้ว ยิ่งกว่ารักแรกพบเสียอีก ฉันดีใจที่ในที่สุดฉันก็ได้เจอเค้าแล้ว

...เทพธิดาตัวน้อยของฉัน.. ผู้ที่จะมาปราบปีศาจอันแสนชั่วช้าในตัวฉันให้มลายหายไป.. ลูกทำได้ดีทีเดียว..ไอจัง..

แล้วในที่สุดบ้านหลังใหญ่ของฉันก็มีสมาชิกมาเพิ่ม ความสุขเริ่มเข้ามาสู่บ้านหลังนี้อีกครั้ง หลังจากที่มันหายไปนานมาก เพราะฉันที่ทำมันให้หายไปกับมือ แต่ตอนนี้ฉันพยายามรวบรวมมันกลับมา พร้อมเทพธิดาในอ้อมแขนของฉัน ..ลูกสาวตัวน้อยของฉันเอง..

ฉันยอมรับเลยว่า ฉันเห่อลูกมาก เรียกได้ว่า ไม่อยากให้เค้าออกจากอ้อมอกของฉัน แต่ก็รั้งเค้าไม่ได้หรอก ไอจังดูเหมือนจะเป็นที่รักของทุกคนในบ้านเสียแล้ว และคงจะเป็นมาก่อนหน้าที่เค้าจะมาอยู่จริงๆที่นี่ด้วย แม้แต่ท่านพ่อก็ดูจะเห่อหลานเอามากๆเหมือนกัน ใช่สิ..เพราะน้องสาวคนสวยของฉัน มาสารภาพกับฉันเองว่า เค้าเป็นคนซ่อนลูกฉันไว้เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม และทุกคนนอกจากฉันก็ได้เห็นไอจังแล้ว แม้กระทั่งอลิสซ่า งั้นนี่ก็แสดงว่า อลิสซ่าอยู่ใกล้ๆฉันตลอดเวลาที่ฉันมองไม่เห็นเค้าใช่มั้ย แต่คงไม่ใช่..เค้าคงตั้งใจจะซ่อนตัวเองจากฉัน เพราะบ้านหลังนั้นที่ไอจังไปอยู่กับแม่ของเค้า ก็เป็นบ้านของอลิสซ่าที่เค้าเคยอาศัยอยู่กับแฟน และตอนนี้เองที่ฉันก็พอจะเดาได้ว่า อลิสซ่าไม่อยากเจอหน้าฉัน เพราะเค้ามีคนใหม่แล้ว เค้าไม่อยากเห็นฉันให้รู้สึกขยะแขยงอีก ฉันคิดแบบนั้น เพราะสิ่งที่ฉันทำกับเค้า มันก็เกินกว่าจะให้อภัย ฉันโหดร้ายกับน้อง เหมือนตัวเองเป็นสัตว์ป่า ซึ่งหากว่า อลิสซ่าไม่ใช่แวมไพร์เลือดแท้แบบนี้แล้ว เค้าอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ฉันไม่แปลกใจที่น้องเล็กจะเกลียดฉันได้ขนาดนี้ แต่เธอก็น่าจะบอกพี่หน่อยนะ เรื่องนั้น.. เรื่องลูกน่ะ

เธอมีลูกกับพี่รึเปล่า ทำยังไงเธอถึงจะบอกพี่..อลิสซ่า..

สมองของฉันสับสนไปหมด แต่ฉันก็ต้องพยายามควบคุมมันให้ได้ ฉันต้องเลิกใส่ใจกับเรื่องอลิสซ่าก่อนตอนนี้ เพราะฉันมีเรื่องตรงนี้ให้ต้องดูแล เอาไว้ฉันได้เจอเค้าเมื่อไหร่ ฉันค่อยถาม สาวผมบลอนด์ตาสีฟ้าคราม ยามจะดื้อหรือรั้นแบบนี้ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปฝืนใจเค้า ฉันควบคุมเค้าไม่ได้หรอก อลิสซ่าเก่งกว่าฉัน แต่ทำไมนะ เธอถึงยอมมีเซ็กซ์กับพี่ เธอทำไมไม่สู้พี่เลย แปลกจังนะ หรือมันเป็นชะตากรรม

จะแปลกไปมั้ย หากฉันจะบอกว่า ฉันยังจำได้ว่าอลิสซ่าเป็นยังไงในตอนที่เค้ามีอารมณ์ทางเพศแบบนั้น มันนานมากแล้วนะ ฉันรู้ แต่มันยังติดอยู่ในความรู้สึกฉัน เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้ตัวว่า ฉันทำอะไรลงไปบ้าง ทั้งที่ขาดการควบคุมตัวเอง บทบรรเลงเพลงรักของฉันกับอลิสซ่าไม่เหมือนกับที่ฉันทำกับชิซึรุ หรือมิจิรุแฟนเก่าของฉัน หรือกระทั่งไมจังเองก็ตาม สาวนัยน์ตาสีฟ้าครามเหมือนพยายามบอกกับฉันว่าให้ทำกับเค้าแรงๆ ทั้งที่เป็นครั้งแรกของการมีเซ็กซ์ของเค้าด้วยซ้ำ อลิสซ่าทำให้ฉันเข้าใจว่า การมีเซ็กซ์ด้วยการสอดใส่อวัยวะแบบนั้นลงไปในตัวของคู่นอน มันทำให้รู้สึกดีมากแค่ไหน ฉันได้รู้ถึงการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในตัวของเค้า รู้สึกถึงการถูกบีบรัดเบาๆตรงจุดนั้นระหว่างการขยับเข้าและออกในช่องคลอด เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของทั้งเค้าและฉัน กระทั่งการรัดแรงๆ เมื่ออีกฝ่ายได้ถึงจุดหมายที่เฝ้ารอ ฉันทนไม่ได้เลยที่จะไม่ส่งเสียงครางออกมาตอนที่รู้สึกแบบนั้น ฉันเพลินและชอบมันมากจริงๆ จนมาถึงชิซึรุ น้องก็ถูกทำแบบนั้นเหมือนๆกับอลิสซ่า และฉันก็ชอบมันมากเหมือนกัน ในเวลาที่ได้อยู่ในตัวของเค้าเหมือนกับที่เคยทำกับอลิสซ่า แต่แปลกที่ว่า ฉันกลับรู้สึกว่า กับน้องคนนี้ ฉันควรจะอ่อนโยนกว่าอีกคน คงเพราะฉันมีประสบการณ์มาบ้างแล้วแน่ๆ หรือจะเพราะชิซึรุตัวเล็กกว่าอลิสซ่าก็ไม่รู้ ฉันถึงไม่กล้าทำอะไรเค้าแรงๆ หรือจะเพราะฉันรักน้องไม่เท่ากัน ก็คงจะจริง เพราะฉันกับอลิสซ่าไม่ได้รักกันแบบนั้น ไม่เหมือนที่ฉันรักชิซึรุ เค้าเป็นเหมือนเจ้าหญิงของฉัน สาวนัยน์ตาสีแดง

แต่พอมาถึงไมจัง ทั้งที่เธอตัวเล็กกว่าใครๆทั้งหมดที่ฉันเคยมีอะไรด้วย ฉันกลับทำกับเธอหนักกว่าใครทุกคน แม้ฉันจะบอกว่า ฉันก็รักเธอเหมือนกัน ทำไมกันนะ แต่ก็เพราะมัน เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นที่ฉันทำกับเธอ ฉันจึงไม่กล้าแตะต้องเธออีกเลย แม้ว่าตอนนี้ ไมจังจะเข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับคำว่า ภรรยาของฉัน แล้วก็ตาม ฉันไม่กล้า ฉันกลัวปีศาจในตัวฉัน ออกมาทำร้ายเธออีก..

แต่ฉันก็จำเป็นต้องรวบรวมความกล้าขึ้นมาใหม่และลืมทุกอย่างที่เคยทำอะไรกับใครไว้ให้ได้ แม้ไม่ได้ทั้งหมดในทันทีเลยก็ตาม เพราะคำว่า ครอบครัว ฉันจะมามัวกลัวแล้วไม่ทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์แบบนี้ไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมกับเธอ และอาจจะเป็นกับลูกด้วย

ไอจังรักแม่ของเค้ามาก ฉันไม่อยากให้ลูกผิดหวัง หากฉันไม่พยายามแสดงออกว่ารักแม่ของเค้า เค้าอาจจะรู้สึกไปได้ว่า เค้าไม่ได้เกิดมาจากความรักที่ฉันมีต่อแม่ของเค้า ไอจังนิสัยคล้ายฉัน เค้าขี้น้อยใจแต่จะไม่พูดมันออกมา นอกจากจะมองตาเค้าเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าเค้าเศร้าจริงๆ ซึ่งวันหนึ่งฉันก็ได้รู้ว่าลูกคิดแบบนี้อยู่ตลอดเวลา ลูกคิดว่า เค้าไม่ได้เกิดมาจากความรักของฉัน แม้ว่าเค้าจะชื่อว่า ไอ (ความรัก)

และเพราะลูก ฉันจึงเริ่มทำตัวเองให้ดีขึ้น ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นว่า ฉันเป็นพ่อเค้าและมีแม่ของเค้าเป็นภรรยา ฉันกลับมาหาไมจังและเริ่มทำตัวเป็นสามีที่ดีของเธอ ฉันทำหน้าที่ของฉันให้สมบูรณ์มากกว่าแค่การดูแลเธอจากภายนอก ฉันต้องดูแลหัวใจเธอด้วย และก็ด้วยวิธีหนึ่งซึ่งไม่ยากนัก แค่บอกรักเธอด้วยเซ็กซ์ที่อ่อนโยนกว่าที่ฉันเคยทำกับเธอไว้ ครั้งที่ทำให้เธอท้องนั่น แต่ฉันก็ต้องหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะความไร้เดียงสาของภรรยาสาวอายุสิบเก้าของฉัน หล่อนกลัวการท้อง มันก็ไม่แปลกหรอก เพราะฉันเองก็ยังกลัว การมีลูกและอุ้มท้องไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะสำหรับการมีเด็กแวมไพร์อยู่อาศัยในท้องของเธอ ถึงมันจะสั้นแค่ห้าเดือนก็ตาม และนั่นก็ทำให้ฉันต้องให้สัญญากับเธอว่า ฉันจะไม่มานอนกับเธอในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เธอจะได้หมดห่วงเรื่องนี้ซะที แต่มันก็ต้องแลกกันนะ เพราะฉันก็คงจะให้ความสุขบนเตียงกับเธอได้ไม่เหมือนเวลาที่มีของแบบนั้นอยู่ แต่สำหรับเด็กอย่างไมจังแล้ว ก็คงไม่มีปัญหา เธอไม่ได้แรงมากนักในเรื่องนี้ แต่ฉันสิ.. อดซะแล้ว.. ไม่มีอีกแล้วสินะ ความรู้สึกดีแบบนั้น ช่างมันแล้วกัน

แล้วมันก็เหมือนกับว่า จะมีบางคนไม่กลัวการท้อง หรือเค้าอยากลองก็ไม่รู้สินะ แต่คงไม่ใช่..หล่อนคงแค่อยากจะมีลูกกับคนที่ตัวเองรัก จะใครที่ไหนอีกล่ะ น้องสะใภ้ของฉันเอง ..นัทสึกิ..

ชิซึรุดูทุกข์ใจจนผิดปกติ จนฉันเป็นห่วงเค้า ฉันได้ข่าวว่า แฟนสาวของเค้าอยากมีลูกมาก แต่เค้าเองทำไม่ได้ ใช่สิ..น้องสาวฉันเป็นผู้หญิงปกติ จะทำแบบนั้นได้ยังไง เค้าต่างหากที่เกือบจะท้องกับฉัน ถ้าเราไม่มีอะไรแอนตี้กันในตัวแบบนี้ ป่านนี้ฉันก็คงมีลูกกับชิซึรุก่อนที่จะมีกับไมจังแล้ว และไอจังก็คงจะไม่ได้เกิดมา เอาล่ะช่างมัน ตอนนี้ฉันรักลูกของฉัน เค้าเป็นปัจจุบัน ฉันไม่สนใจอดีต และเวลานี้ฉันต้องหาทางช่วยน้องเท่านั้น แต่เหมือนน้องจะกลัว ที่ฉันบอกว่าจะช่วย หรือเค้าจะกลัวฉันไปนอนกับแฟนเค้าให้ก็ไม่รู้ บ้าสิ..ชิซึรุคิดได้ยังไงนะ ฉันไม่ได้รักนัทสึกิแบบนั้นซะหน่อย ฉันจะไปทำอะไรเธอได้ยังไงกัน อีกอย่างเธอเป็นน้องสะใภ้ฉัน ฉันไม่ทำร้ายจิตใจน้องหรอก ฉันจะช่วยเค้าวิธีอื่นที่ไม่ใช่การเอาตัวเข้าแลกแบบนั้น ฉันต้องใช้เทคโนโลยี

และมันสำเร็จ การวิจัยได้ผลดีเยี่ยม น้องของฉันได้ลูกแฝด จากการผสมเทียม สุดยอดมากจริงๆ แต่ทุกอย่างมันอาจจะเป็นเรื่องดี หากว่า..ลูกสาวคนโตของน้องฉัน ไม่ได้มีสีตาเป็นสีเขียวน้ำทะเล และฉันไม่ได้รู้สึกว่า เค้าไม่ได้เป็นแค่หลานของฉัน

ใช่แล้ว..เค้าเป็นลูกฉัน.. แต่มันเป็นไปได้ยังไง.. ชิซึรุแน่ๆ เค้าทำ...

ฉันไม่คิดเลยว่า น้องจะกล้าทำขนาดนี้ เค้าทำร้ายนัทสึกิมากเกินไปแล้ว ฉันอยากจะตีเค้า อยากจะทำให้เค้ารู้สึกสำนึกบ้าง ว่าสิ่งที่เค้าทำลงไป เมื่อเลวร้ายมากแค่ไหน ที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งอยากจะมีลูกกับเค้า กลายเป็นแค่เพียง แม่อุ้มบุญ แบบนี้ ชิซึรุทำให้นัทสึกิท้องลูกแฝด แต่ไม่ได้บอกเธอว่าเค้าขอทำอะไรกับการวิจัยครั้งนี้

ใช่..เค้าใช้ดีเอ็นเอของฉัน บวกลงไปในไข่ใบแรกที่เราทดลองกัน แต่อีกใบก็ให้ผลเหมือนเดิม และมันก็ออกมาเป็นว่า ลูกแฝดคนแรกของเค้า กลายเป็นลูกของฉันกับชิซึรุ ฉันอยากจะบ้าตาย กับความร้ายกาจของน้องสาวตัวเอง แต่ฉันก็ไม่กล้าทำอะไรเค้า เพราะฉันก็พอจะเข้าใจว่าเค้าทำแบบนี้ทำไม น้องแค่อยากจะมีลูกกับฉัน แต่เค้ามีไม่ได้เอง

แต่ทำไมกันนะ.. ความรักของเรา จะต้องทำร้ายคนอื่นอยู่ตลอดเวลาแบบนี้.. น้องพี่..

มันไม่ดีเลยนะ.. หยุดเสียทีได้มั้ย..ชิซึรุ..

และฉันก็หนีเรื่องนี้ไปไม่ได้ ทั้งที่ไม่อยากทำ ฉันไม่สามารถทำตัวไม่รู้เรื่องอะไรได้ เมื่อลูกสาวคนนี้เข้ามาหาฉัน นัทซึรุจังเดินได้ครั้งแรก เค้ามาหาฉันทั้งที่ไอจังก็อยู่ด้วย ลูกสาวผมสีเงินคนสวยของฉัน ก็ดูจะรักน้องมากๆ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เค้าไปขออาสาวของเค้าตั้งชื่อให้น้องแล้ว เหมือนว่าไอจังเองก็จะรู้ว่า น้องเป็นน้องสาวจริงๆของเค้า เพราะไม่เช่นนั้นมันก็เป็นเรื่องบังเอิญมากๆที่เค้าตั้งได้ถูกคนจริงๆ

ใช่..นัทซึรุ เป็นชื่อที่ไอจังตั้งให้ลูกแฝดคนแรกของชิซึรุ ที่ในที่สุดก็กลับมาเป็นว่า นัทซึรุจังเป็นน้องสาวของเค้าเอง มหัศจรรย์เกินไปมั้ย แต่ฉันควรจะดีใจกับมันหรือ กับเรื่องนี้ ฉันจะมองหน้านัทสึกิยังไง ถึงฉันจะไม่ใช่คนผิดที่ทำเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ก่อนหน้านั้น ก็เป็นฉันที่แย่งของเธอ

แม้กระทั่งไมจัง เธอยังมาถามฉันเลยว่า รู้สึกยังไงบ้าง ที่มีลูกอีกคน โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยแบบนี้ จะบอกไปเลยดีมั้ยว่า ฉันดีใจที่มีเค้าขึ้นมา แต่ก็คงจะไม่ได้ จะบอกได้ยังไงล่ะว่า ฉันเองก็อยากจะมีลูกกับชิซึรุสักคนเหมือนกัน สถานะของฉันในตอนนี้ มันไม่สามารถจะทำแบบนั้นได้หรอก แม้กระทั่งอยากจะอุ้มลูกคนนี้ให้เหมือนอีกคน ฉันยังไม่กล้าเลย

แต่ทำไมกันนะ ทำไมเธอจะต้องแสนดีแบบนี้ด้วยล่ะ..นัทสึกิจัง เธอยอมให้ฉันอุ้มเค้าได้ ทั้งที่เธอเกลียดขี้หน้าฉัน เกลียดที่ฉันแย่งทุกอย่างจากเธอมา ขอโทษจริงๆเลย ฉันไม่คิดเลยว่า ทุกอย่างมันจะเลยเถิดมาได้ขนาดนี้

หยุดเสียทีเถอะ..ชิซึรุ.. หยุดความรักของเราเอาไว้แค่นี้.. อย่าปล่อยให้มันมาทำร้ายใครเพิ่มขึ้นอีกเลยนะ.. พี่ขอร้อง..

และแล้ว..มันก็ไม่ใช่แค่ฉันกับน้องเท่านั้นที่สร้างปัญหาให้กับตัวพวกเราเอง ลูกของเราก็ทำ พวกเค้าเจริญรอยตามฉันกับชิซึรุ เมื่อคืนหนึ่งที่ฉันได้รู้ว่า ไอจังลูกสาวที่โตเป็นสาวแล้วของฉัน กลายร่างเป็นแวมไพร์ในครั้งแรกเพราะอะไร เพราะน้องสาวของเค้าเอง และทุกอย่างมันก็แน่ชัดขึ้นกับความสงสัยว่า พวกเค้าสองคนทำอะไรกัน เมื่อฉันได้เห็นร่องรอยบนตัวลูก ฉันเห็นรอยแดงที่ตัดกับผิวขาวของเค้าที่เหมือนกับฉันนั่น เห็นมันแค่แว่บเดียว ฉันก็รู้ว่า ลูกไปทำอะไรมา เค้ามีเซ็กซ์ เค้าโตแล้ว โตเกินกว่าที่ฉันจะห้ามไม่ให้เค้าทำอะไรได้อีกต่อไป แต่มันก็จะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลยสำหรับเด็กที่โตแล้วอย่างเค้า ที่จะทำแบบนั้น ที่จะมีแฟน หากว่า เค้าไม่ได้ไปนอนกับน้องสาวของเค้าเองแบบนี้

ชิซึรุ.. เธอจะว่ายังไง.. เราจะทำยังไงกันต่อไป.. ลูกของพี่กับเธอ ทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนมีบางคนคอยจ้องเยาะเย้ยฉันกับน้องจริงๆ ทำไมกันนะ ทำไมฉันจะต้องมาปวดหัวกับการหาทางแก้ปัญหานี้อีกครั้ง ที่มันคงจะหนักกว่าครั้งที่แล้ว เพราะฉันจะห้ามพวกเค้าได้ยังไง ในเมื่อพวกเค้ารักกัน ฉันมองเค้าสองคนออก ไอจังรักน้องมากจริงๆ ทั้งที่เค้าถูกฉันตี ตบจนปากแตก และอีกหลายอย่างที่ฉันทำกับลูกอย่างที่ฉันไม่เคยทำเลยสักครั้ง ตอนที่เค้ายังเด็ก เค้าก็ยังบอกว่า เค้ารักน้องมาก ฉันทำร้ายลูกอีก จับลูกโยนลงน้ำหวังให้เค้าหยุดพูดแบบนั้น ฉันเหมือนคนบ้าไปเลยตอนนั้น ฉันไม่รู้จะทำยังไง มือของฉันชุ่มด้วยเลือดตัวเองที่บีบแก้วจนแตก มันปนกับเลือดจากปากลูกที่ฉันตบหน้าเค้า ฉันเอาทุกอย่างมาลงกับไอจัง โดยไม่แตะต้องนัทซึรุจัง เพราะถือว่าเค้าเป็นพี่ เค้าต้องทำในสิ่งที่ถูกไม่ใช่ตามใจน้อง ฉันไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนฉันที่เอาใจน้องจนเกินไป จนเค้าไม่เป็นผู้เป็นคนแบบนี้ ฉันทำให้ชิซึรุเสียคน เพราะความรักที่ฉันมีต่อเค้า ฉันไม่อยากให้ไอจังเป็นแบบฉัน แต่ฉันก็ทำไม่ได้ ฉันห้ามเค้าไม่ได้ เหมือนที่ฉันก็ห้ามตัวเองไม่ได้เหมือนกัน แต่ฉันก็ยังไม่หยุดทรมานลูก จนกระทั่งแม่ของเค้าเข้ามาห้ามไว้ ไมจังกอดลูกของเธอไว้แน่น ตอนที่ฉันกำลังจะเงื้อมือตบหน้าลูกอีกครั้ง และฉันก็ต้องยอมแพ้ ฉันทำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันคงต้องยอมรับมัน

ไมจังพาลูกกลับไปนอนที่ห้องของเค้า หลังจากที่ฉันหมดปัญญาที่จะทำอะไรได้อีก ตอนนี้ฉันได้แต่ยอมให้เธอจัดการทุกอย่างไป เธอทำแผลให้ลูก แม้จะรู้ดีว่า ไม่นานแวมไพร์อย่างลูกก็จะหายดีโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรให้เค้าเลย แต่ความเป็นแม่ก็ทำให้เธอทนดูลูกเลือดชุ่มไปทั้งตัวแบบนั้นไม่ได้ เลยกลายเป็นฉันที่โหดร้ายกับลูกมากเกินไป แต่ที่ฉันทำ ก็เพราะฉันรักเค้ามากต่างหาก

แต่ฉันก็ต้องสะอึกในเวลาต่อมา เมื่อฉันถูกไมจังย้อนคำพูดของฉัน เกี่ยวกับเหตุผลที่ฉันทำร้ายลูก เธอบอกว่า...

แล้วคุณล่ะแอน.. คุณห้ามตัวเองได้มั้ย คุณจะไม่ให้ลูกทำ ยุติธรรมกับลูกแล้วหรือคะ..

แค่เพียงเท่านี้ ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด ทั้งที่อยากจะพูดมัน ฉันคงต้องยอมปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปแบบนี้ ฉันไม่มีสิทธิ์จะห้ามลูกได้ เพราะตัวเองก็เลว ฉันเองที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับลูก ฉันสอนเค้าไม่ได้อีกต่อไป..

ลูกเกลียดปะป๊าแล้วใช่มั้ย..ไอจัง.. เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่า..ปะป๊าเป็นปีศาจ

ไม่สมควรที่จะรักใคร ไม่สมควรจะได้รับความรักจากใคร.. ไม่สมควรจะอยุ่ในโลกใบนี้..

เธอขยาดกับฉันแล้วใช่มั้ย..ไมจัง ยังจะรักฉันได้อีกมั้ย.. ฉันมันเลว..

แล้วน้องล่ะ..ชิซึรุ.. น้องจะพอได้หรือยัง.. เราสองคนทำร้ายคนอื่นมาพอแล้วหรือยัง..

หยุดเสียที..

นี่หมายความว่า..ปีศาจของฉันมันจะถูกปลุกให้ตื่นอีกครั้งแล้วหรือ...

To be continue….

2554-02-23

Story Shot [The bodyguard]


Story Shot [The bodyguard]

My Goddess. Ch3.

Rate : M

By : Anhy

Pairing : Anh/Shizuma X Shizuru

ฉันเพิ่งรู้ว่า การตื่นขึ้นมาและพบว่า ตัวเองอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงและอบอุ่นของใครสักคนที่เรารัก รู้สึกยังไง ก็ตอนที่ฉันได้กลายเป็นของเค้าอย่างสมบูรณ์ในคืนนั้น มันมีความสุขยิ่งกว่าที่ฉันได้ของที่อยากได้ ไม่ว่าสิ่งไหนก็ตาม เพราะตอนนี้ ฉันไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว แค่แอนคนเดียว อยู่กับฉัน แค่ฉันถูกเค้ากอด อยู่ใกล้กับร่างกายที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น ทั้งตัวและหัวใจแบบนี้ แค่นี้..ฉันพอใจ

ฉันยอมรับว่า ฉันรู้สึกอายที่เห็นตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลยอยู่ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ แต่มาคิดให้ดี เค้าคนนี้ไม่ใช่คนอื่นสำหรับฉันอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่แค่พี่รหัสที่ฉันหลงรัก ไม่ใช่แค่เพื่อนกัน แต่เค้าเป็นมากกว่า ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า เป็นสามี หากว่าเค้าเป็นผู้ชาย เพราะฉันได้ให้สิ่งสำคัญในชีวิตลูกผู้หญิงของฉันกับเค้าไปแล้ว ให้โดยสมัครใจและเต็มใจที่สุดด้วย

ฉันรักเค้ามาก.. มากกว่าที่ตัวเองจะคาดได้ว่า.. รักเค้าได้มากขนาดนี้.. ทำไมกันนะ...

แอนเวลาหลับ ยังคงน่ารักเหมือนเดิม เค้าไร้เดียงสาและเหมือนเด็ก ไม่เหมือนตอนตื่นเท่าไหร่เลย มันทำให้ฉันรู้สึกอยากกอดเด็กตัวโตคนนี้เหลือใจ อยากหอมแก้มขาวๆนุ่มๆของเค้า เนื้อตัวของเค้าก็หอมมาก กลิ่นเหมือนแป้งเด็ก จนทำให้ฉันอยากหอมเค้าทั้งตัว ถ้าไม่ติดว่า จะกลัวเค้าว่านะ ฉันคงจะทำไปแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่า นี่คือพี่รหัสตัวโตสุดเท่ของฉัน ที่ในที่สุด ฉันก็รู้จักเค้ามากขึ้นกว่าเดิม และเริ่มรักเค้ามากขึ้นทุกที รักในความอ่อนโยนที่เค้ามีให้ฉัน ไม่ใช่แค่เพียงแต่เค้ามีรูปร่างหน้าตาที่ดีแบบนี้เท่านั้น เค้าพยายามที่ปกป้องฉัน แม้กระทั่ง เวลาที่สมองของเค้าอาจจะไร้การควบคุมในเวลาที่เค้าต้องการในเรื่องเซ็กซ์ แต่เค้าก็ยังทำให้ฉันได้รู้ว่า เค้าได้พยายามแล้วที่จะทะนุถนอมร่างกายฉันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลับกลายเป็นฉันต่างหากที่ต้องการให้เค้าทำอะไรก็ได้ที่เค้าอยากทำ เหมือนกับที่ฉันอยากถูกเค้าสอดใส่แบบนั้น ทั้งที่รู้ดีว่า มันจะต้องเจ็บมาก สำหรับครั้งแรกของการร่วมเพศ แต่ถ้าฉันไม่ยอมให้เค้าทำแล้วล่ะก็ ฉันจะยอมกับใคร ในเมื่อฉันรักเค้าอยู่คนเดียว

ตรงนั้น ตรงจุดอ่อนไหวของฉันมันยังเจ็บอยู่ ใช่สิ..ต้องเจ็บอยู่แล้ว เพราะมันมีคราบเลือดเปื้อนผ้าปูที่นอนของแอนด้วย มันคงเป็นผลจากการร่วมเพศครั้งแรกของฉัน เหยื่อพรหมจารีย์ฉีกขาด สาเหตุเพราะการถูกสอดใส่ และนี่สินะ ที่เป็นเหตุผลให้แอนไม่อยากทำกับฉันอย่างเมื่อคืน เค้ากลัวฉันเจ็บ กลัวจะต้องเห็นฉันเป็นแบบนี้ คิดได้แบบนี้แล้ว ฉันก็เลยแน่ใจเลยว่า เค้ารักฉันจริงๆ เค้าน่ารัก อ่อนโยนและอบอุ่น สมควรแล้วกับความรักที่ฉันมีให้เค้า หมดทั้งหัวใจ

...นางฟ้าของฉัน.. สุดที่รักของฉัน...

นางฟ้าของฉัน เค้ายังหลับอยู่ คงเพราะเค้าเหนื่อยกับอะไรที่เราทำด้วยกันเมื่อคืน ผิดกับฉันที่รู้สึกตัวตื่นแต่เช้า ฉันตื่นเร็วได้อย่างน่าประหลาด อาจจะเป็นเพราะฉันตื่นเต้น กระตือรือร้นอยากที่จะลืมตามามองหน้าคนที่กอดฉันอยู่ทั้งคืนแบบนี้ และตอนนี้ ฉันก็ยังไม่ยอมพาตัวเองจากอ้อมกอดอันอบอุ่นของเค้า ไม่รู้ว่าแอนจะเมื่อยหรือหนักบ้างรึเปล่า ที่ต้องยอมให้ฉันหนุนตัวเค้าและให้ปล่อยให้ฉันทิ้งน้ำหนักตัวลงเต็มที่กับตัวเค้าแบบนี้ ไม่รู้ฉันกวนเค้ามากไปมั้ย แต่ฉันก็ตัดใจออกจากอ้อมอกของเค้าไม่ได้ ออกจากผิวกายที่เนียนนุ่มน่าสัมผัสและขาวเหมือนหิมะทั้งตัวน่ามอง กลิ่นหอมจากตัวเค้า ที่ไม่ทำให้นึกเบื่อหน่ายที่จะดมมัน กลิ่นจากตัวเค้ากลายเป็นเหมือนยาเสพติดของฉัน ฉันชอบที่ได้กลิ่นเค้า ถึงจะมีเหงื่อชุ่มตัวขนาดไหน แอนยังคงหอมเหมือนเดิม หรือว่า..ฉันจะรักเค้ามากเกินไป จนไม่เห็นข้อบกพร่องอะไรในตัวเค้าเลย แต่..ฉันไม่ได้เว่อร์ไปนะ แอนของฉัน น่ารัก น่าหอมมากจริงๆ จนฉันอดใจไม่ไหว ต้องขอเข้าไปจูบเค้า ทั้งที่เค้ายังหลับ ฉันไม่กลัวอีกแล้วว่า เค้าจะไล่ฉัน ฉันมั่นใจขึ้นกับการแสดงออกแบบนี้ ถึงความรักที่ฉันมีให้เค้า เพราะว่า..เรารักกัน..

แอนให้สัญญากับฉันว่า.. เค้าจะรักและดูแลฉันตลอดไป.. และฉันเชื่อเค้า...

แต่แอนก็ยังดูตกใจทุกทีกับการถูกจูบแบบนี้ ตอนที่เค้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา คงเพราะว่าไม่ชินกับการถูกปลุกแบบที่ฉันทำให้ หรือจะลืมไปแล้วล่ะมั้งว่า เมื่อคืนเค้าทำอะไรกับใครไป แต่คงไม่หรอก ฉันเชื่อเค้าจำได้ เพราะมันก็ไม่นานที่เค้านิ่งไปเพราะความตกใจนั่น แล้วตอนนี้ก็กลับกลายเป็นฉันที่ต้องตกใจแทน เมื่อแอนเริ่มจะทำอะไรคล้ายกับเมื่อคืน เค้า Deep Kiss กับฉัน เค้าจูบเก่งมาก จนฉันเกิดอาการสั่นไปทั้งตัว และเริ่มส่งเสียงแปลกๆออกมาจากลำคอตัวเอง แล้วมันก็ไม่นานเลยกับการที่ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้วกับกิจกรรมแบบนั้น ที่ฉันเพิ่งเคยผ่านมันไปเมื่อคืน ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวฉันเป็นอะไร แต่มันทนไม่ไหว เวลาที่ถูกเค้าจูบแบบนี้ ร่างกายมันร้อนรุ่มไปหมด สมองของฉันก็คล้ายจะชา และรู้สึกว่า เริ่มขาดการควบคุมตัวเอง ต้องยอมปล่อยให้การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นไปตามที่มันอยากจะเป็น และเช้านี้ ก็เป็นเช้าที่แปลกประหลาดมากของฉัน ตั้งแต่เกิดมา เพราะนอกจากที่ฉันจะตื่นมาและเห็นตัวเองไม่ได้ใส่อะไร อยู่ในอ้อมแขนของอีกคนที่ก็ไม่ได้ใส่อะไรเหมือนกัน ฉันยังได้จูบกับเค้า คนที่กอดฉันอยู่ทั้งคืน และตอนนี้.. ฉันก็กำลังปล่อยตัวเองให้อยู่ในห้วงของอารมณ์พิศวาสอีกครั้ง เหมือนกับเมื่อคืน ผิดตรงที่ว่า เวลานี้ ฉันไม่ได้เมาแล้ว เท่านั้น ฉันรู้ตัวทุกอย่างว่าตัวเองทำอะไร และรู้ว่าถูกเค้าทำอะไรบ้าง

ฉันไม่แน่ใจว่า ผู้หญิงทุกคนจะมีอาการเหมือนกับที่ฉันเป็นหรือไม่ แต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะบอกว่า ฉันชอบเรื่องนี้ ชอบที่จะมีเซ็กซ์ ฉันมั่นใจว่ามันเป็นแบบนั้น ทั้งที่ฉันเพิ่งรู้จักมันมาครั้งนี้ก็ครั้งที่สองของชีวิตที่เกิดมา มันอาจจะเป็นของแปลกใหม่สำหรับฉัน จึงยังคงตื่นตาตื่นใจและหอมหวานอยู่ แต่ถึงจะรู้ว่ามันอาจจะเป็นอย่างนั้น ฉันก็ยืนยันว่า ฉันไม่มีทางเบื่อที่จะทำมัน คงเป็นเพราะ เรื่องนี้สำหรับฉัน มันสามารถบอกกับฉันได้ทุกอย่างว่า คนที่ทำเรื่องนี้ด้วยกันกับฉัน เค้ารักฉันมากขนาดไหน เหมือนกับที่ฉันรักเค้ามากขนาดไหน หรือจะเป็นเพราะตอนนี้ ฉันกำลังทำเรื่องนี้อยู่กับคนที่อ่อนโยนและรู้ใจฉันที่สุดก็ได้ แอนไม่ได้หยาบคายกับฉัน เค้านุ่มนวลและทำกับฉันอย่างทะนุถนอม ฉันจึงพอใจที่จะยอมให้เค้าทำอะไรก็ได้กับตัวฉันแบบนี้ ให้เค้าได้ทุกอย่างจากฉันไป

ฉันปล่อยให้เค้าได้อิ่มหนำกับร่างกายของฉัน กับหน้าอก กับทุกส่วนที่เค้าต้องการมัน ที่เค้าใช้ทั้งริมฝีปาก และมือสวยๆทั้งสองข้างบรรเลงกับมัน ด้วยการกระทำที่ทำให้ฉันรู้สึกถึงความโหยหาจากหัวใจเค้า เหมือนกับที่ฉันอิ่มเอมและดื่มด่ำในหัวใจที่ได้รับความรักอันอ่อนโยนที่เค้าให้มา ฉันร้องเรียกชื่อเค้าในครั้งนี้ที่ฉันถึงจุดหมายที่ฉันต้องการ และกอดเค้าจนแน่นเหมือนกลัวว่าจะหายไป

แอนเองก็คงจะคล้ายกับฉัน ฉันแอบได้ยินเสียงเค้าเรียกชื่อฉัน ตอนที่เค้าก็ถึงจุดนั้นเหมือนกัน เสียงของเค้าคราวนี้ เหมือนใจจะขาดให้ได้ และถ้าฉันไม่ได้ตาฝาดไป ฉันก็แน่ใจว่า ฉันเห็นน้ำตาเค้าไหลออกมา ตอนขยับตัวขึ้นจากฉันและจูบฉันอีกครั้ง หลังจากที่เราสองคนได้กลับมาอยู่บนพื้นโลกด้วยกันแล้ว

ฉันเข้าใจนะว่าทำไม แอนถึงได้ร้องไห้ ทั้งที่เค้าเป็นคนเข้มแข็งเสมอ เพราะเค้ายอมรับสารภาพกับฉันว่า ความฝันของเค้าได้เป็นจริงแล้ว เค้าได้รับความรักจากฉัน และตอนนี้เองที่ฉันสามารถแน่ใจได้เลยว่า ตลอดมา ฉันไม่ได้แค่เป็นฝ่ายแอบรักเค้าข้างเดียว แอนเองก็เป็น และนี่คือเหตุผลที่พี่รหัสสุดเท่ของฉัน ตามติดฉันไปทุกที่แบบนี้ แบบที่ไม่หวั่นว่า ฉันจะมีแฟนคลับมากมายรายล้อมขนาดไหน หรือเค้าจะเรียนหนักแค่ไหนก็ตาม เค้าจะต้องมาหาฉันให้ได้

ฉันดีใจมากที่ได้รู้ว่า.. ตลอดมาฉันไม่ได้รักพี่แค่ฝ่ายเดียว.. เรารักกัน...

ฉันแทบไม่อยากจะออกจากอ้อมกอดของเค้าเลยสักนาที อยากจะหยุดเวลาไว้เท่านี้ที่มีแค่ฉันกับเค้า มีแค่เราสองคน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ เราสองคนยังมีเรื่องอื่นๆอีกที่ต้องทำ ฉันต้องไปเรียนหนังสือ ไปทำหน้าที่ของนักเรียนที่ดี หน้าที่ลูกที่ดี ฉันจะอยู่แค่บนเตียงกับเค้าไม่ได้ และใช่..เค้าก็เหมือนกัน

โลกยังคงหมุนต่อไปรอบๆตัวเรา และเราก็คงต้องเดินต่อไป ชีวิตต้องดำเนินต่อไป แต่ต่อไปนี้..ทางที่ฉันจะเดินต่อไปข้างหน้า ก็จะไม่เงียบเหงาหรือเศร้าอีกต่อไปแล้ว.. เราจะอยู่ด้วยกัน.. เราจะช่วยกันดูแลกันและกัน.. นี่คือคำสัญญาที่เค้ากับฉันมีให้ต่อกัน

แล้วมันก็ใช่จริงๆ สิ่งที่ฉันกลัวและคิดไว้ว่ามันต้องเกิดขึ้นเพราะความเป็นเด็กของฉัน กับเรื่องแบบนี้ กับการมีความรัก มันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฉัน ในบางครั้งก็มีอาการงอแงกับแอน จนทำให้เค้าต้องปวดหัว แค่เพราะฉันต้องการจะอยู่แค่กับเค้า เรียกได้เลยว่า ติดเค้ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมดในโลก อยากเห็นหน้าทุกวินาที เลยดูคล้ายเป็นคนงี่เง่า ไร้สาระจริงๆ ฉันอารมณ์เสียบ่อยๆ ในบางเวลาที่รู้สึกว่า เค้าไม่มีเวลาให้ฉันเหมือนเดิม เวลาของเค้ากับฉันไม่ค่อยตรงกัน เพราะความที่เราเรียนคนละชั้นกัน การเรียนของเราจึงย่อมแตกต่าง และบางวันแอนก็แทบไม่มีเวลามาหาฉัน แม้กระทั่งจะมาทานข้าวด้วยกันตอนพักเที่ยง หรือมารับฉันกลับห้องด้วยกัน เค้ากลับดึกบ่อยๆ หนักๆเข้าจึงทำให้ฉันคิดฟุ้งซ่าน และน้อยใจ คิดว่าเค้าเปลี่ยนไป เพราะเรามีอะไรกันแล้ว เค้าได้จากฉันไปหมดทุกอย่างแล้ว เค้าเลยไม่แคร์ความรู้สึกฉัน ไม่กลัวฉันจะเหงา ฉันงี่เง่าทั้งที่ก็รู้ว่า สาเหตุที่แอนไม่มีเวลาให้มันเพราะอะไร

ใช่..เพราะแอนเรียนหนักขึ้นมากกว่าที่เคยเป็น มันเป็นการเตรียมตัวของเค้าที่จะเป็นทหารเต็มตัวในอีกไม่ช้า ตอนนี้เค้าอยู่ปีสี่แล้ว เค้าใกล้จะเรียนจบ ยศนายร้อยรอคอยเค้าอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น ซึ่งมันต่างจากฉัน อีกสองปีที่ฉันจะไล่ตามเค้าทัน ฉันแค่กำลังจะขึ้นปีสอง ยังไม่ได้เรียนหนักเท่าเค้า ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก แต่ก็น่าจะเข้าใจเค้าได้ในสถานการณ์ที่เค้าเจออยู่ เพราะฉันก็รู้ดีว่า เค้าต้องเครียดแค่ไหนในเวลานี้ ถึงจะไม่ต้องฝึกหนักมากเท่านักเรียนเตรียมปีต้นๆอย่างฉัน แต่เค้าก็เรียนภาคทฤษฏีมากขึ้น รวมถึงเค้าจะต้องเรียนเพื่อเตรียมตัวต่อยศที่เค้าจะเป็นให้สูงขึ้นอีก ตามอย่างคุณพ่อของเค้า เค้าไม่ได้ต้องการแค่เป็นทหารธรรมดา แอนอยากเป็นอะไรที่มากกว่านั้น เค้าจึงต้องเรียนมากกว่าคนอื่น เพื่อปูพื้นกับการไปต่อในอาชีพนี้ของเค้า

การได้เป็นทหารสำหรับแอนแล้ว เค้าถือเป็นเรื่องใหญ่ พอๆกับเรื่องความรัก เค้าให้ความสำคัญกับการเรียนที่นี่มาก เพราะเค้าอยากเป็นทหารมากๆ เค้าได้เลือดคุณพ่อเค้ามาเต็มที่ แอนรักในอาชีพที่เค้าเลือกนี้ ถึงในตอนแรก เค้าเหมือนถูกบังคับให้มาเรียนที่นี่ก็ตาม แต่พอเค้าได้รู้จักและศึกษามันไปเรื่อยๆ เค้าก็บอกกับฉันว่า เค้ารักมัน รักในอาชีพนี้ เค้าอยากเป็นทหารที่ดีเหมือนคุณพ่อเค้า แต่เพราะความงี่เง่าเอาแต่ใจของฉันในเรื่องนี้ด้วยความเป็นเด็ก ฉันก็เลยรู้สึกไม่ดีที่เห็นแอนให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นมากกว่าการมาหาฉัน มาทำเรื่องอย่างที่เค้าเคยทำก่อนที่เราจะไม่เป็นแฟนกัน ฉันคิดไปเองว่า แอนเบื่อฉัน

แต่มันไม่ใช่.. ฉันมันบ้าเอง..

ความคิดมากของฉัน ทำให้ฉันถึงกับปฏิเสธที่จะนอนกับแอน ไม่ต้องการมีเซ็กซ์กับเค้า ในเวลาที่เค้าต้องการมัน เพราะฉันไม่คิดอยากเป็นที่ระบายอารมณ์สำหรับเค้าอีก ฉันไม่ต้องการมีเซ็กซ์อย่างเดียว โดยไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย เราไม่ได้ทำกิจกรรมอื่นด้วยกัน เพราะความที่เค้ายุ่งตลอดเวลา แต่ฉันกลับต้องมานอนกับเค้า เพราะเค้าอยากมัน ฉันคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเท่าไหร่

ใช่..เพราะฉันคิดมาก คิดได้แค่เพียงว่า เค้าอยู่กับฉันเพื่อสิ่งนั้นสิ่งเดียว ซึ่งไม่ใช่ ฉันน่าจะรู้ ที่เค้ายอมให้ฉันเห็นด้านไม่ดีของเค้า นั่นก็แสดงว่า เค้าไว้ใจฉัน เค้ารักฉัน เค้าคงคิดว่า ฉันจะเข้าใจเค้า เหมือนกับที่เค้าพยายามเข้าใจฉัน เค้าพยายามหาของอย่างอื่นมาให้ฉัน หวังให้มันช่วยแทนความรู้สึกของเค้าที่มีต่อฉัน ว่ามันยังเหมือนเดิม แต่ฉันไม่อยากได้มัน ฉันอยากได้เค้าคนเดียว สิ่งของหรือจะสู้ความเอาใจใส่จากคนที่เรารัก จริงมั้ยล่ะ หรือว่า..ฉันจะเป็นเด็กเกินไปจริงๆสำหรับเรื่องนี้ ฉันดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ฉันควรจะเข้าใจเค้า ทำตัวซะใหม่สินะ หากว่าฉันไม่ต้องการให้แอนไปหาคนอื่นมาเป็นที่ระบายในเรื่องที่เค้าต้องการแบบนี้ เพราะเค้าคงจะช่วยตัวเองได้ ไม่บ่อยนัก

ใช่แล้วล่ะ.. เค้าต้องช่วยตัวเอง ในเวลาที่ถูกฉันปฏิเสธ ฉันไม่เห็นมันหรอกว่า เค้าทำยังไง รู้แต่ว่า เค้าทำมันแน่ๆ เพราะแอนเป็นประเภท ถ้าเครียดแล้ว ต้องระบายมันด้วยเซ็กซ์ ฉันรู้ดีเรื่องนี้ ฉันเห็นเค้าเป็นบ่อยๆ ทุกครั้งเค้ากลับเข้าห้อง แล้วไม่พูดไม่จา ไม่ทักฉัน นั่นแหละเป็นสัญญาณให้ฉันรู้ว่า ฉันจะต้องเจออะไร แอนจะไม่ทานอะไรเลย เค้าจะทำแต่เรื่องนั้นแค่อย่างเดียวแล้วหลับไป ตื่นเช้าขึ้นมา เค้าถึงจะเป็นปกติ แล้วเซ็กซ์สำหรับเค้าในเวลาที่เค้าเครียด ฉันก็เตรียมตัวได้เลยว่า จะต้องเห็นรอยช้ำตามตัวของตัวเอง ในตอนที่ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย แอนจะไม่ค่อยเหมือนตัวเค้าเองเท่าไหร่ เวลาที่เครียดและอยากระบายแบบนั้น เค้าขอโทษฉันกับเรื่องนี้บ่อยๆ ฉันก็บอกว่าไม่เป็นไร ฉันทนได้ ฉันชอบมัน แต่บางครั้งแอนก็ไม่ทำอะไรฉันเลย ถึงฉันจะรู้ว่าเค้าต้องการมัน เพราะเค้ากลัวฉันเจ็บ ฉันเลยต้องโกหกว่า เค้าไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว เค้าไม่ได้ทำรุนแรงกับฉันอีก ฉันต้องเป็นฝ่ายปลอบเค้าและช่วยคลายเครียดให้เค้าแทน

แล้วในเวลานี้เองที่ฉันเป็นฝ่ายช่วยเค้า ฉันเลยได้เห็นว่า แอนสวยมากขนาดไหนเวลาที่เค้าต้องการมันมากๆแบบนี้ เค้าเซ็กซี่มากจริงๆ ผิวขาวๆของเค้า เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อทั้งตัว และสีหน้า ท่าทางเค้าเวลาที่เค้าอยู่ในอารมณ์นี้ก็ทำให้ฉันยิ่งเพิ่มความต้องการอยากสัมผัสเค้ามากขึ้น มันช่วยไม่ได้จริงๆ

ฉันก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะทำเรื่องแบบนี้ได้เหมือนกัน เพราะตั้งแต่ฉันเป็นแฟนกับเค้ามาก็หลายเดือน แอนยังไม่เคยปล่อยให้ฉันทำอะไรให้เค้าได้มากเท่าที่เค้าทำให้ฉัน แต่ครั้งนี้ฉันขอเค้า ฉันอยากลอง เริ่มแรกฉันก็ทำเหมือนเลียนแบบอะไรที่เค้าทำให้ แต่พออารมณ์มันได้ที่ ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามทางของมัน และฉันก็ได้รู้ว่า ความรู้สึกของคนที่ฝ่ายสัมผัสกับฝ่ายที่ถูกสัมผัส มันต่างกันยังไง ฉันได้เห็นความสวยในแบบผู้หญิงของแอนในคราวนี้เอง และได้ยินเสียงครางแสนเซ็กซี่ของเค้าด้วย แอนปลดปล่อยทุกอย่างออกมาเต็มที่ในครั้งนี้ที่เค้านอนอยู่เบื้องล่างตัวฉัน รอรับการบริการ ฉันเพิ่งรู้นะว่า ผู้หญิงแข็งแรงที่สุดของฉัน ในเวลาแบบนี้ เค้าอ่อนปวกเปียกไปทันที แต่ฉันก็รู้สึกดีที่ได้ทำอะไรเพื่อเค้าบ้าง เพื่อทดแทนความรู้สึกผิดที่ฉันทำไม่ดีกับเค้า ที่งี่เง่า ไม่เข้าใจว่าเค้ารัก แต่แค่ไม่มีเวลาให้

แอนกอดฉันแน่น หลังจากที่เค้าเรียบร้อยกับเรื่องแบบนั้น อารมณ์ใคร่ของเค้าได้รับการบำบัด แต่เพราะมัน จึงทำให้ฉันได้เห็นอะไรที่แอนไม่เคยเป็นมาก่อน ตัวเค้าสั่นมาก หัวใจเต้นแรง ฉันได้ยินเสียงมัน เพราะหน้าของฉันคล้ายถูกกดให้อยู่กับอกของเค้า เสียงหัวใจเค้า มันเป็นจังหวะที่เร็วมากและดังจนก้องหูฉัน ถ้าฉันไม่เว่อร์เกินไป มันก็คล้ายว่าหัวใจเค้ามันจะหลุดออกมานอกอกให้ได้อย่างนั้น เค้าหอบเหนื่อยเหมือนคนหายใจไม่ทัน แต่เค้าก็ยังพยายามพูด เค้าขอบคุณฉัน เค้าบอกรักฉันซ้ำๆ และจูบฉันจนฉันรู้สึกชื่นใจ มันดีมากเลยที่เห็นแอนเป็นแบบนี้ เค้าดูมีความสุขขึ้นจริงๆ นั่นคงไม่ใช่เพราะเค้าได้ระบายความเครียดจากเรื่องนี้เท่านั้น แต่เป็นเพราะเค้าได้เห็นว่า ฉันรักเค้ามากขนาดไหนด้วยนั่นแหละ และพอเค้าฟื้นตัวได้จากอาการตกค้างนั่น เค้าก็ตอบแทนฉันด้วยเซ็กซ์ที่อ่อนโยนเหมือนที่ผ่านมา เหมือนจะยืนยันว่า เค้ารักฉันมากแค่ไหน

และฉันงี่เง่าแค่ไหนที่ไม่รู้ว่า.. เค้ารักฉันมากขนาดนี้.. เธอมันบ้า..ชิซึรุ เด็กไม่รู้จักโต..

แต่แอนไม่.. แอนเป็นผู้ใหญ่มากพอ ถึงเค้าจะแก่กว่าฉันแค่สองปีก็ตาม อาจเพราะเค้าถูกเลี้ยงมาจากครอบครัวที่เข้มงวด มีระเบียบ ทุกอย่างที่เค้าทำ ก็เลยดูมีเหตุผลไปเสียหมดนั่นแหละ และนั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันฟังและเชื่อเค้า หลังจากที่เราเข้าใจกันแล้วในเรื่องนั้น และที่สำคัญตอนนี้..ฉันก็ค่อนข้างจะกลัวแอนอยู่มากเหมือนกัน หลังจากที่เกิดเรื่องระหว่างเราขึ้นคราวนั้น เพราะความงี่เง่าของตัวเอง ไม่ใช่เพราะว่า กลัวเค้าจะดุหรอกนะ แต่เพราะรู้แล้วว่า แอนเป็นคนมีเหตุผลเสมอไม่ว่าจะทำอะไร แล้วถ้าฉันไม่เชื่อเค้า ไม่คิดทบทวนในเรื่องต่างๆที่เค้าเตือนหรือสอนด้วยความหวังดีและความรัก ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร เพราะจริงๆแล้ว สำหรับที่นี่ โรงเรียนนี้ หรือแม้ว่าจะเป็นประเทศนี้ ฉันก็มีเพียงเค้าเท่านั้นที่ฉันไว้ใจ ฉันไว้ใจเค้ามากกว่าใคร และก็ไม่เคยผิดหวังเลย..

แอนเป็นยิ่งกว่าแฟนของฉัน เค้าเป็นทุกอย่าง ทั้งพี่ เพื่อน และ..สุดที่รัก..

หลังจากที่เค้ากับฉัน กลายมาเป็นเหมือนคนเดียวกัน จากการที่เราผูกพันกันมากขึ้น ทางร่างกายพร้อมกับจิตใจ พร้อมทั้งความเข้าใจที่มากขึ้นระหว่างเรา แอนก็เริ่มแสดงออกถึงความรักที่เค้ามีต่อฉัน ด้วยท่าทางที่มั่นใจขึ้น เหมือนที่ฉันทำ ฉันจะไม่ปกปิดใครอีกแล้วว่า ฉันรักเค้าและมีเค้าเป็นแฟน ไม่ใช่แค่เค้าเป็นพี่รหัสของฉัน ฉันไม่สนใจหรอกว่า ใครจะว่ายังไง แฟนคลับของฉันจะหายไปหรือยังคงอยู่ ฉันก็ไม่สน ไม่แคร์ ฉันอยากจะประกาศให้โลกรู้เลยว่า แอนเป็นของฉัน ห้ามให้ใครมามอง และฉันก็ไม่แคร์เหมือนกัน ถ้าใครจะว่าฉันเป็นพวกผิดปกติที่รักเพศเดียวกันแบบนี้ แม้แต่คุณพ่อ คุณแม่ของฉัน ฉันก็บอกท่านหมด เหมือนที่แอนทำ

แอนเหมือนพยายามทำให้คนอื่นรู้เลยว่า ฉันเป็นแฟนเค้า แต่ก็ไม่ได้ทำตัวรุ่มร่าม แสดงความเป็นเจ้าของมากนัก แค่แสดงสีหน้าหรือท่าทางให้คนอื่นรู้ ใช่สิ..เรื่องนี้เค้าถนัดนัก เรื่องใช้สายตามองอย่างเชือดเฉือน ใครๆก็พากันกลัวและวิ่งหนีไปจนหมด ตอนนี้เลยแทบไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ฉัน เวลาที่เห็นแอนอยู่ด้วย หรือเค้าเดินมาหาฉัน เลยเป็นที่รู้กันเองในหมู่แฟนคลับของฉันว่า ฉันไม่โสดอีกต่อไป

แต่ถึงแอนจะเหมือนประกาศไปในตัวว่า ฉันเป็นแฟนเค้าแล้ว แต่เค้าก็ยังไม่แสดงอะไรต่อหน้าคนอื่นมากอยู่ดี อาจเพราะกลัวว่ามันจะไม่เหมาะสมสำหรับฉันที่ยังเป็นเด็กอยู่ แล้วมันก็กลายเป็นฉันต่างหากที่อยู่เฉยๆไม่ได้ในทุกครั้งเวลาที่ได้เห็นหน้าเค้า ฉันต้องเข้าไปหา ไปกอดเค้าด้วยความคิดถึง ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงส่วนไหนของโรงเรียนก็ตาม และบางทีฉันก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เผลอจูบเค้าต่อหน้าคนอื่นด้วย เหมือนเด็กไม่ดีเลยสินะ แต่สำหรับคนชาติตะวันตกแล้ว อย่างแอนหรือคนอื่นๆที่นี่ เรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะแอนเองก็ไม่เคยว่าถ้าฉันจะทำมัน และเค้าก็จูบตอบฉัน เหมือนตั้งใจจะยืนยันช่วยฉันอีกแรงว่า ฉันเป็นแฟนเค้า.. เราเป็นแฟนกัน ห้ามใครมายุ่ง

แล้วมันก็มีเรื่องมหัศจรรย์อีกเรื่อง ที่เกิดขึ้นกับชีวิตฉันที่ฉันยังไม่ได้เล่า เพราะเค้านี่แหละ เพราะสุดที่รักของฉัน

แอนออกปากขอคุณพ่อฉันเองเลยว่า เค้าขอดูแลฉันแทนท่าน หลังจากที่เราเป็นแฟนกันไม่นาน ก่อนที่เค้าจะต้องเรียนหนักขึ้นเมื่อขึ้นชั้นปีที่สี่ที่นี่ เค้าใช้โอกาสที่คุณพ่อกับคุณแม่ฉันมาเยี่ยมประจำปี เพื่อบอกขอท่าน ด้วยท่าทางกล้าหาญ สมเป็นทหารจริงๆ และตอนนั้นคุณพ่อฉันก็อึ้งไปพักใหญ่ๆ ฉันก็แอบลุ้นจนเครียด จนแอนสังเกตเห็นมัน เค้าเข้ามาคว้ามือฉันไปจับเอาไว้แน่น เพื่อให้กำลังใจ และตอนนั้นเองที่ฉันก็รู้ได้ว่า แอนก็ตื่นเต้นไม่แพ้ฉัน มือของเค้าข้างที่จับมือฉัน ทั้งเย็นและเหงื่อชุ่มไปหมด แต่เค้ายังใส่หน้ากากให้ดูดีและเคร่งขรึม จริงจัง คล้ายไม่หวั่นกับคำตอบที่คุณพ่อจะให้กลับมา ฉันต่างหากที่กลัวมาก กลัวมันไม่สำเร็จ กลัวคุณพ่อไม่เห็นด้วยกับเรา ฉันเหมือนคนประสาทเสียเพราะความกลัวนั้น ปั้นหน้าไม่เป็นเลยทั้งที่เคยทำได้ดี และมันก็ดีที่แอนไม่ได้แสดงความอ่อนแอในเรื่องนี้ให้ฉันกลัวตามหรือมากกว่าเดิม เค้าสมกับเป็นคนที่ฉันไว้ใจ ที่จะฝากชีวิตไว้ได้ แล้วเรื่องดีๆก็กลับเกิดขึ้นมาในที่สุด จบซะทีช่วงเวลาแห่งการลุ้นแบบนั้น คุณพ่อฉัน ท่านก็ไม่ว่าอะไร แถมยังยินดีกับพวกเราอีกด้วย หรือจะเพราะว่าท่านรู้จักท่านนายพล คุณพ่อของแอน ทำนองว่าก็เพื่อนกันอยู่แล้ว ก็ไม่รู้ ฉันกับแอนก็เลยสบายกันไป ไม่มีปัญหา และจากนั้น ฉันก็ได้เข้าไปอยู่บ้านหลังใหญ่ของแอน บ้านของท่านนายพล เอนริค ลู ในฐานะของแฟนลูกสาวท่าน กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ไปโดยปริยาย คุณพ่อและคุณแม่ของแอน ท่านยอมรับฉันเป็นลูกสาวคนหนึ่งเลยทีเดียว

ใช่..ฉันได้รับสิทธิพิเศษ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเรียนประจำอีกต่อไป แต่นั่นมันก็เป็นเวลาที่แอนใกล้จะเรียนจบจากโรงเรียนแล้ว เค้าจึงมีสิทธิ์กลับบ้านได้ทุกวัน ส่วนฉัน.. ก็ได้คุณพ่อของแอน ท่านนายพลเป็นคนจัดการให้ฉันสามารถเป็นนักเรียนไป กลับได้ ฉันกับเค้าจึงมีเวลาอยู่ด้วยกันเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ฉันก็ไม่เข้าใจนักว่า ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่แอน ถึงไม่ว่าที่ลูกสาวคนเดียวของท่านเลือกแฟนอย่างฉัน แต่จากที่ฟังคุณแม่แอนเล่าให้ฟัง ที่ผ่านมาคุณพ่อแอน ท่านบังคับเค้ามาทุกเรื่องแล้ว สำหรับการเรียนและการดำเนินชีวิตตลอดมา ทำให้แอนเหมือนคนไม่มีชีวิตชีวาเท่าไหร่ เพราะไม่เคยได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ทุกอย่างของเค้า ล้วนแต่ทำเพราะหน้าที่บังคับ เค้าลูกคนเดียวและเป็นความหวังเดียวของคุณพ่อ เค้าเลยถูกวางแบบแผนการชีวิตมาตลอด โดยไม่ได้คิดปฏิเสธคุณพ่อของเค้าเลย นี่จึงถือได้ว่า เป็นครั้งแรกที่แอนออกปากบอกขอร้องคุณพ่อเค้า เค้าขอท่านว่า เค้าต้องการมีฉันในชีวิต ตอนแรกท่านก็เหมือนจะต้องการแย้ง เพราะอยากให้ลูกสาวมีแฟนและแต่งงานเหมือนผู้หญิงคนอื่น แต่สุดท้ายท่านก็เปลี่ยนใจ

คุณแม่ของแอนบอกว่า ท่านก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ทำไมคุณพ่อแอนถึงได้ยอมแอนได้ในเรื่องนี้ แต่ท่านก็เดาว่า อาจเป็นเพราะแอนดูมีความสุขขึ้น หลังจากที่ฉันเข้ามาอยู่ในชีวิตเค้า

และใช่.. แอนไม่เคยพาใครมาบ้าน ไม่เคยดูมีความสุขแบบนี้มาก่อน ไม่เคยยิ้มหรือหัวเราะจริงๆแบบนี้ จนกระทั่งเค้ามีความรัก มีฉัน และแบบนี้เองที่ทำให้ฉันกลายเป็นที่รักของคนในบ้านตระกูลลูไปด้วย

เพราะฉันถือได้ว่า.. เป็นนางฟ้าสำหรับแอนเหมือนกัน..

ฉันดีใจจังที่ได้เป็นคนสำคัญได้ขนาดนี้สำหรับแอน สำหรับคนที่ฉันรัก..

แต่ตอนนี้เราสองคนก็ยังเด็กอยู่ ยังไม่รู้ว่า วันข้างหน้าจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้นอีกกับเรา

ในวันนี้..ฉันรู้เพียงแต่ว่า เรารักกัน.. เราเข้าใจกัน..

ขอให้มันเป็นอย่างนี้ตลอดไป..

ฉันไม่ได้ขอมากไปใช่มั้ย..แอน...

To be continue……

fiction Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...