Ikki Tousen: Dragons Unrestricted
Rated: M
Genre : Romance/Adventure
English By: Chou-san or Espada Harribel @ Fanfiction.net
Translated to Thai : Anhy
Kanu and Chou'un- Part 1
- ความคิดของคนคนหนึ่ง -
อากาศร้อน..
มันร้อนมากเกินไปตอนที่ฉันนั่งอยู่ในต้นไม้ ผ่อนคลายอยู่บนกิ่งไม้ สองมือประสานกันอยู่ด้านหลังศีรษะของฉัน สายลมพัดผ่านร่างกายฉันเหมือนกับว่ามันแทรกซึมลงไปในหญ้า สายลมนั่นทำให้เส้นผมสีเข้มของฉันพลิ้วไปตามแรงของมัน ทำให้เหงื่อเย็นเวลาที่มันร่วงหล่นลงมา ถอนหายใจขึ้นมาทันใด ฉันนึกถึงเรื่องที่ฉันทำในวันนี้
ไม่มี.. ไม่มีอะไรเลยจริงๆ..
ฉันกำลังเบื่อ มันเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก เพราะมันก็แทบจะตลอดเวลาเลยที่ฉันต้องฝึกซ้อม หรือไม่ก็ปกป้องริวบิจากตัวหล่อนเองหรือจากโทชิจากโรงเรียนอื่น แต่หลังจากที่มังกรของเธอได้ถูกปลดปล่อยออกมา เธอก็สามารถจัดการกับตัวเองได้ดีทีเดียวและฝึกฝนได้จริงจังมากขึ้น ฉันยังคงสาบานเป็นผู้พิทักษ์ให้กับเธอ แม้ในวันแบบนี้ที่ไม่มีใครพยายามจะมาทำร้ายริวบิก็ตาม ลืมตาขึ้นและมองไปด้านข้างตัว ฉันเห็นผู้นำไซโตะกำลังฝึกปรือวิชาอยู่กับโชฮิ
มันเพลินดีเวลาที่มองดูสองคนนั่นฝึกซ้อมกัน โชฮิแทบจะหาทางแกล้งริวบิได้ตลอดเวลา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง รอยยิ้มบางๆเกิดขึ้นบนริมฝีปากของฉันตอนที่ฉันนึกถึงภาพที่ริวบิถูกล็อกศีรษะไว้ ด้วยมือของโชฮิ ฉันเห็นว่ามันเป็นเรื่องน่ารักของริวบิ แต่ความรักของฉันก็ถูกตอบกลับด้วยความเฉยเมยของเธอเสมอ เธอไม่รู้สึกมัน เธอมักจะฝังปลายจมูกของเธอไว้ระหว่างหน้าหนังสือมากกว่า ระหว่าง......ของฉัน
ฉันถอนหายใจยาวและหลับตาลง ความรักก็แค่การต่อสู้อย่างหนึ่งในชีวิตของฉันที่ฉันต้องล้มเหลวกับมันไม่เป็นท่า บางทีฉันอาจจะไม่ควรจะมีความรัก หากว่าฉันใส่ใจในความอยู่รอดของชีวิตของโทชิมากที่สุดแบบนี้ ฉันขยับตัวเล็กน้อยเวลาที่สายลมซึ่งได้เปลี่ยนทิศทางไปทำให้ฉันรู้สึกถึงมันได้ ฉันรู้สึกว่ากล้ามเนื้อของตัวเองผ่อนคลายตอนที่ฉันผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ และรู้สึกว่า น่าจะเอื้อมมือไปหยิบอาวุธคู่ใจของฉัน
“อากาศดีนะ เธอเห็นด้วยรึเปล่า โช..”
เปิดตาขึ้นข้างหนึ่ง ฉันเห็นนักรบสาวผมสีเงินยืนอยู่บนกิ่งไม้ในระดับที่สูงกว่าฉัน เธอมีดาบมาด้วย หนึ่งในดาบแห่งตำนานฮยาคุเอะคิโตะ มันถูกเก็บไว้แนบกับสะโพกของเธอและพร้อมเสมอสำหรับการต่อสู้ เธอพยักหน้าให้ฉันแทนการบอกว่าเห็นด้วยขณะที่เธอสูดลมหายใจลึกๆ หันความสนใจของเธอกลับไปยังที่ไกลๆ เงียบและสงบมาก มันคือความเป็นสาวสวยผมสีเงินคนนี้นั่นเอง และหากว่า พวกคุณได้เห็นเธอเดินไปตามถนน คุณต้องเดาไม่ได้แน่ว่า เธอคือโทชิที่แข็งแรงมากที่สุดคนหนึ่ง ถัดจากตัวฉัน ในจำนวนเจ็ดคนของคันโตะ
โชอุน ชิริว คือโทชิผู้มีพลังอันน่าเหลือเชื่อ ฉันไม่ได้ชื่นชมกับพลังของเธอมากจนเกินไปหรอกนะ หากไม่พูดถึงการวางตัวให้โดดเด่นได้อย่างน่ากลัวในบางโอกาสแล้ว เธอยังไม่เคยแสดงทีท่าที่เรียกได้ว่า ไม่มีความสุขเลยสักครั้ง และหากไม่นับความเหนือกว่าในเรื่องแบบนี้ของเธอ พลังของเราก็แทบไม่เห็นความต่างกัน ดูได้จากการที่เราไม่เคยแพ้หรือชนะกันได้อย่างเด็ดขาดเลยในทุกครั้งของการต่อสู้ จริงอยู่ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่ชิไม เรียวโมสามารถหักแขนของฉันได้ นั่นก็เพราะว่า ฉันมั่นใจมากเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น ตัวฉันก็ยังเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวอยู่ แม้กระทั่งสำหรับนันโย.. ซอนซาคุ ฮาคุฟุกับมังกรของเธอ
“คงงั้นล่ะค่ะ คันซัง”
เสียงของเธอช่างเยือกเย็นและเฉยเมยเหมือนเวลาที่เธอชักดาบออกจากฝัก ตอนนี้เธอกำลังปล่อยตัวตามสบาย เธอมักจะเงียบสงบอยู่เสมอ ไม่เคยมีอะไรที่จะสามารถสะเทือนอารมณ์ของเธอได้ มองดูเธอในเวลานี้ เต็มสองตา ฉันชื่นชมในตัวโชอุนและพลังในการต่อสู้ที่พิเศษของเธอ ทว่าเกลียดที่จะยอมรับความจริงที่ว่า เธอและฉัน สูสีกัน และสามารถเรียกได้ว่า เธอเป็นนักรบที่มีเกียรติมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จักมา
“มีอะไรในใจรึเปล่าคะ..คันอู”
ฉันกระพริบตา มองดูเธอขณะที่เธอหันกลับมาสนใจฉัน สองตาปิดอยู่ก็จริง แต่ฉันกลับรู้สึกว่าเธอสามารถอ่านอาการตกใจบนใบหน้าของฉันได้ เธอมักจะพูดอย่างผู้มีมารยาทเสมอและเกือบทุกครั้ง และการได้ยินเธอเอ่ยชื่อฉันอย่างเป็นทางการแบบนี้ ทำให้ฉันตั้งตัวไม่ทัน
“ทำไมเธอต้องหลับตาอยู่ตลอดแบบนั้น มันเป็นการฝึกหรือแค่นิสัยส่วนตัว มันเป็นอะไรที่ทำให้ฉันประหลาดใจว่าทำไม เธอทำอะไรได้อย่างปกติทั้งที่ไม่ต้องมองเห็นมัน และเธอก็ไม่ได้ตาบอดซะหน่อยนี่”
ฉันยืนอยู่บนกิ่งไม้แล้วในตอนนี้ พิงอยู่กับพุ่มหนาๆของต้นไม้ด้านหลังของฉัน ขณะที่เส้นผมสีเข้มของฉันอยู่รอบขาทั้งสองของตัวเอง นักรบผู้เงียบงันกระโดดจากกิ่งไม้ของเธอมาหาฉัน ก้าวเข้ามาใกล้ฉันระหว่างที่เธอปล่อยให้ดาบของเธอหล่นลงถัดจากของฉันบนผืนหญ้า ฉันมองดูใบหน้าของเธอ รูปร่างเธอ ฉันรู้ว่าเธอสามารถเห็นฉันได้ชัดเจนเหมือนเธอไม่เคยหลับตาเลย
นักสู้สาวผมสีเงินขยับมือหนึ่งของเธอขึ้นมา ไล้ปลายนิ้วมือไปกับแก้มของฉันโดยที่ฉันไม่ได้คาดการณ์มันไว้ การกระทำแบบนี้ ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบอย่างที่สายลมเย็นๆก็ไม่เคยทำได้ ฉันรู้สึกเหมือนลมหายใจของฉัน ถูกกักไว้ในลำคอขณะที่ฉันมองดูเธอต่อไป มันเหมือนกับว่า ปลายนิ้วของเธอเป็นเสมือนดวงตาเธอ และเธอกำลังอ่านใบหน้าของฉันด้วยมือของเธอ คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันเหมือนเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ระหว่างที่เธอไล้ปลายนิ้วไปกับริมฝีปากของฉัน
“กล่าวโดยรวม.. ฉันสามารถเห็นได้ด้วยจิตใจ ไม่ใช่ด้วยสายตา มันช่วยให้ฉันสามารถลดช่องว่างระหว่างสายตาและการรับรู้”
“เป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะ ไม่ใช่การมองเห็นคือการรับรู้เหมือนกันเหรอ”
“มันเป็นโลกของความแตกต่างค่ะ คุณดูสิ.. ยกตัวอย่างเช่น ชายตาบอด เขาก็ไม่เห็น ใช่มั้ยคะ” ฉันทำได้แต่พยักหน้า มองดูเธอพูดและรับรู้ความรู้สึกของปลายนิ้วเธอที่คอของฉันตอนนี้
“แต่ถึงเขาจะมองไม่เห็น เขาก็สามารถรับรู้ได้ จะเรียกได้ว่า เขาใช้สัมผัสอื่นในการช่วยให้เขาสามาถมองเห็นโลกรอบๆตัวเขา ฉันแค่นำเอาระดับที่เหนือกว่าลักษณะนั้นมาและใช้ชีวิตแบบนี้เป็นลักษณะเฉพาะตัว เพื่อขัดเกลาทักษะและเทคนิคของฉัน”
ฉันรู้สึกว่า ตัวฉันพยักหน้าขณะที่มองเธอพูด น้ำเสียงคล้ายน้ำแข็งไหลลงสู่ความร้อนแบบนั้น ร่างกายที่ร้อน นั่นเป็นเวลาที่ฉันสังเกตได้ว่า มือขวาของเธอวางทาบอยู่กับลำต้นของต้นไม้และเธอเอนตัวเข้ามาหาฉัน มืออีกข้างวางอยู่บนสะโพกของเธอเอง เธอเอียงศีรษะมาด้านข้างเหมือนเธอจะรู้ว่า ฉันกำลังมีบางอย่างอยู่ในใจ
“ฉัน.. ฉันขอดูตาเธอได้มั้ย”
เสียงของฉันมันออกมาเหมือนกำลังกระซิบ ขณะที่รอยยิ้มน้อยๆเกิดขึ้นบนเรียวปากของเธอเป็นครั้งแรก นาทีแรก ฉันไม่เคยเห็นโทชิที่แสนเงียบสงบคนนี้ ยิ้มเลยสักครั้ง การกระทำแบบนั้นทำให้สองมือฉันจับขอบกระโปรงตัวเองอย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกคล้ายกับมีอะไรบางอย่างสั่นสะเทือนอยู่ลึกๆในตัวฉัน ฉันสังเกตมันได้ว่า มันเป็นความรู้สึกเหมือนกับตอนที่ฉันเห็นริวบิปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอที่ออนเซน
“ได้สิ..คันซัง”
ฉันกลั้นลมหายใจตัวเองอีกครั้งขณะที่เธอขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น ปลายจมูกของเราสองคนสัมผัสกันเล็กน้อย กลิ่นจากเส้นผมของเธอเป็นกลิ่นของโรสแมรรี่ มินต์ ในเวลาที่มันสยายลงมาละใบหน้าของเราทั้งสองคน กางกั้นเราจากโลกภายนอก ริมฝีปากของโชอุนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์และเชื้อเชิญขณะหัวใจของฉันเต้นแรงอยู่ในอกคล้ายกลองศึก
และนั่น..มันเป็นเวลาที่เธอค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ...
ดวงตาสีมรกตล้ำลึกดั่งดวงตาแมว คมกริบและปราศความกลัวโดยธรรมชาติ เหมือนกับบุคลิกของเธอ ฉันมองลึกลงไปข้างในนั้นและสังเกตได้ว่า ดวงตาคู่นี้คล้ายกันมากกับผู้ผนึกมังกร นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นดวงตาของเธอ หรือครั้งแรกที่ได้เห็นดวงตาที่สวยงามมากมายเช่นนี้
แน่นอนที่สุด...ฉันกำลังจดจ้องอยู่กับดวงตามังกรของเธอ ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมมันจึงลักษณะที่โดดเด่นเช่นนี้ ขณะที่เรากำลังมองพิจารณากันและกัน ฉันรู้สึกได้ว่า ตัวฉันไล้ปลายนิ้วไปตามแก้มของเธอเหมือนที่เธอทำ เธอหลับตาลงอีกครั้งและเอนเข้าหาสัมผัสของฉัน ผิวของเธอเนียนนุ่มมากมาย จากนั้นตาของเธอก็เปิดขึ้นใหม่และมองขึ้นหาฉัน
“คิดอะไรอยู่เหรอคะ..คันอู..”
“ทำไมเธอถึงได้กักขังตาสวยๆแบบนี้เอาไว้กันล่ะ”
“ฉันบอกคุณแล้วนี่คะว่า.. มันเป็นการฝึก----”
“แต่เธอไม่เคยลืมตาเลยสักครั้งนะ !”
ฉันตัดคำพูดของเธอออกด้วยเสียงอันดัง เกินความคาดหมายของตัวเอง ฉันตั้งตัวใหม่และผ่อนคลายลง โชอุนขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น ร่างกายของเราสองคนตอนนี้สัมผัสกันอยู่ขณะที่มือข้างหนึ่งของเธอวางลงบนสะโพกของฉัน เธอแผดเผาช่องว่างในจิตใจของฉันด้วยดวงตาอันเป็นเอกลักษณ์งดงามเช่นนี้ ล่อลวงฉันให้กลายเป็นเหยื่อด้วยการจดจ้อง
“อยากให้ฉันเปิดมัน.. แค่กับคุณคนเดียวหรือเปล่าคะ..คันอู..”
เสียงของโชอุนเบาราวเสียงกระซิบ ขณะที่เธอขยับเข้ามาและจูบที่ริมฝีปากล่างของฉันอย่างนุ่มนวล ฉันพยักหน้าเล็กน้อยขณะกัดริมฝีปากล่างตัวเอง ขยับตัวอย่างเชื่องช้าและจูบเธอเบาๆ ริมฝีปากของเธอที่สัมผัสกับฉัน ให้ความรู้สึกเกินกว่าจะต้านทาน แขนทั้งสองข้างของฉัน โอบรอบคอเธอ เธอเองก็โอบเอวฉันเหมือนกัน เราพิงกันอยู่กับต้นไม้ โรสแมรี่ มินต์ ครอบงำทุกสัมผัสของฉันขณะที่ลิ้นที่พลิ้วไหวของเธอ ล้อเล่นอยู่กับของฉัน ฉันเฝ้าฝันถึงนาทีนี้มาตลอดชีวิตของฉัน ฝันในอดีตของฉันที่เกี่ยวกับริวบิและฉัน แต่มันไม่ได้มีอิทธิพลอะไรเลยกับสิ่งนี้ที่ฉันกำลังทำอยู่กับโทชิผู้ทรงอำนาจในอ้อมแขนของฉัน..ตอนนี้
ฉันไม่เคยคิดเลยว่า จะได้มีโอกาสได้ทำแบบนี้กับใครเลยสักคน นอกจากอาวุธอันลึกลับของไซโตะคนนี้ ฉันรู้สึกได้ว่าเธอกัดริมฝีปากล่างของฉัน ดึงและดูดมัน ล่อหลอกฉันให้เข้าสู่จูบที่แสนเร่าร้อนอีกครั้ง ฉันส่งเสียงครางออกมา ฉันยกต้นขาตัวเองขึ้น ก่ายบนสะโพกของเธอขณะที่มือของเธอไล้ไปตามขาของฉันและจับกระชับกับมันด้วยมืออันแข็งแรง ดึงตัวของฉันเข้ามาใกล้มากขึ้น ฉันสั่นสะท้านขณะดูดลิ้นเธอและเธอก็ส่งเสียงครางออกมากับริมฝีปากของฉัน
“ไฮหยา..คันซัง อาจารย์โชฮิเล่นไม่แฟร์.!”
“เฮ้ ! มานี่เลยนะ กลับมาสู้กับฉันต่อ ริวบิซัง เดี๋ยวนี้.!”
เราสองคนสะดุ้งขณะที่โชอุนถอยหลังออกไป ฉันมองลงไปด้านล่าง และเห็นริวบิทำหน้าตายุ่งเหยิงและพยายามจะหลบเลี่ยงโชฮิ สาวตาสีเขียวมะนาวทำหน้ามุ่ยเงยหน้าขึ้นขณะวิ่งรอบๆต้นไม้ ฉันได้แต่ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
“พอได้แล้ว ! โชฮิ ! ริวบิ ! ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ เลิกซ้อมได้แล้ววันนี้”
“ไฮ.. ไฮ..คันซัง !”
ฉันยิ้มขณะที่โทชิน้อยตะเบ๊ะให้และพาตัวหล่อนออกไป โชฮิทำท่าอารมณ์เสียเดินตามหลัง นั่งลงตามเดิม ฉันรู้แล้วว่า นักรบผู้แสนเงียบขรึมหายตัวไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย มองดูรอบๆ ฉันรู้เลยว่า โชอุนหายตัวไปราวกับสายลม ใบไม้หลุดร่วงหล่นจากกิ่งและร่อนลงบนหญ้าสีเขียว ฉันยกอาวุธคู่ใจขึ้นมาและเริ่มเดินกลับโรงฝึก แต่ก็หยุดชะงักและหันกลับมามองไปยังต้นไม้นั่น นำเส้นผมสีเข้มของตัวเองทัดหูทั้งสองข้าง
หวังใจไว้ว่า ฉันคงจะสามารถได้เจอกับโทชิผมสีเงินคนนั้นอีกครั้ง ในนาทีที่ไม่มีใครมาขัดขวาง...
To be Continue…
1 ความคิดเห็น:
อุ๊ยๆๆๆๆ.. เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้อ่านฟิกจากอนิเมะเรื่องนี้.. ดีใจ.. ที่รักผิวสีแทนของข้าพเจ้า.. อิอิ..
อย่าไปคิดถึงยัยแว่นนั่นเลยน่าคันซัง ไม่เห็นมีอะไรดีเลยสักอย่างนอกจากชอบอ่านหนังสือแบบนั้นน่ะ ออกจะขี้แย ดูแลตัวเองไม่เป็น ไม่ชอบฝึกวิชาอีกต่างหาก.. แต่พอนึกไปนึกมาแล้วก็ไม่แปลกหรอกนะที่ริวบิไม่สนใจการต่อสู้น่ะ เพราะเป็นวิญญาณของเล่าปี่นี่นา รักสงบที่สุด.. เหอๆๆๆ..
ว่าแต่ "เธอมักจะฝังปลายจมูกของเธอไว้ระหว่างหน้าหนังสือมากกว่า ระหว่าง......ของฉัน" ไอ้ที่บอกว่า "ระหว่าง......ของฉัน" เนี่ย มันระหว่างอะไรคะคันซัง อย่าบอกนะว่า เคยกินตับยัยแว่นนี่แล้วน่ะ.. ไม่ยอมนะตัวเอง!!!!...
อืม.. หายากนะเนี่ยที่โชอุน ชิริวจะปรากฏตัวออกมายามที่สงบแบบนี้ ปกติจะออกมาตอนมีเรื่องคับขันเท่านั้นน่ะ ยังคงสง่าเหมือนเดิมเลย ดวงตาที่ไม่เคยเปิดแต่ก็รับรู้ทุกอย่างด้วยจิตสัมผัส เป็นคนใจเย็นอย่างไม่น่าเชื่อเลย.. จุดนี้แหละ ที่ถ้าจะบอกว่าเหนือว่าคันซังก็คงไม่ผิด เพราะคันซังเป็นคนร้อนอยู่เสมอ แต่ก็ดีแล้วล่ะจะได้เอาความเย็นจากโชซังเข้าไปช่วยทำให้เกิดบาลานซ์ อิอิ..
นั่นไงๆ.. เริ่มการซิงโครไนซ์กันแล้วอ่ะ โชซังเริ่มก่อนเลยเหรอเนี่ย แต่ก็เนาะถ้าโชซังไม่เริ่มก่อน ชีวิตนี้คันซังก็คงไม่ได้ริมรสริมฝีปากเย้ายวนนี้หรอก ฮ่าๆๆๆ..
แต่!!!! ยัยแว่นก็ดันส่งเสียงรบกวนซะได้ แถมยังโชฮิ เอคิโตคุอีก ไปซ้อมกันต่อที่อื่นไป๊.. แหม่.. โมโหขึ้นมาทันทีทันใด ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับการแปลฟิกที่น่าสนใจมาให้อ่านกันนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่า ^^
แสดงความคิดเห็น